ความพยายามอยู่รอด
ของธุรกิจบัตรเครดิต
แห่งค่ายธนาคารกรุงศรีฯ
คือ การหาพันธมิตร
เข้ามาร่วมลงทุนและ
จัดการดำเนินธุรกิจ
ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นหนึ่งกิจการที่ธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญ สังเกตได้จากความพยายามปรับรูปโฉมการให้บริการเชิงรุกมากขึ้น
อันเนื่องมาจากสถานการณ์ธุรกิจดังกล่าว มีแนวโน้มการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้วยสาเหตุสำคัญบางประการ ได้แก่ การเข้าร่วมของผู้ประกอบการรายใหม่ อาทิ
บมจ.อิออนธนสินทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย และให้บริการบัตรเครดิตประเภทสินเชื่อเงินสดรายใหญ่
ได้ออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตอิออน มาสเตอร์การ์ด ออกมาแข่งขันกับบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์โดยตรง
อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน เนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย
จึงสามารถดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่ยืดหยุ่นและได้เปรียบ กว่าธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป
เช่นเดียวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มีธุรกิจบัตรเครดิตแต่เป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น
ส่งผลให้การขยายกิจการเป็นไปอย่างลำบาก โดยมีลูกค้าถือบัตรเครดิตเพียง 70,000
ใบ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเศรษฐกิจถูกโจมตีธุรกิจนี้แทบจะหยุดนิ่งไปเลย
วิธีที่รวดเร็วและดีที่สุดสำหรับการรักษาธุรกิจบัตรเครดิตไว้ คือ การหาพันธมิตรร่วมทุนแล้วก็เป็นความโชคดีของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ที่ได้จีอี แคปปิตอล (ประเทศไทย) เข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินกิจการภายใต้บริษัทบัตรกรุงศรี
อยุธยาขึ้นมาในช่วงต้นปี 2544 โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50%
"สิ่งแรกที่พวกเราทำงานร่วมกัน คือ ตรวจสอบลูกค้าว่ามีความต้องการอะไรมากที่สุด
ซึ่งผลที่ออกมาพวกเขาอยากได้บัตรฟรีและสิทธิพิเศษอื่นๆ" สุขดี จงมั่นคง กรรมการผู้อำนวยการบัตรกรุงศรีอยุธยาเล่า
"กลยุทธ์นี้ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตประมาณ 3.5 แสนใบในปัจจุบัน"
นอกจากนี้ยังพยายามปรับปรุงด้านการบริการและการปฏิบัติงาน รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดเพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้า
เช่น เพิ่มร้านค้าหรือให้ส่วนลด จับฉลากชิงรางวัล "การหาวิธีมาใช้เพื่อกระตุ้นการเติบโตเป็นสิ่งที่ดีในธุรกิจบัตรเครดิต"
เขากล่าว
การเสนอบัตรเครดิตให้ลูกค้าฟรีถือเป็นสีสันและประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริษัท
สังเกตจากอัตราการขยายตัวบัตรเครดิตวีซ่าในปีที่ผ่านมาสูงถึง 336%
"เวลาที่ลูกค้าได้บัตรฟรีจะพยายามใช้จ่าย เพราะหากวันใดถูกยกเลิกบัตรสิทธินี้จะหายตามไปด้วย
ดังนั้นพวกเขาต้องรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุด" สุขดีอธิบาย
จากความมีชีวิตชีวาของบัตรกรุงศรีอยุธยาในปัจจุบันเกิดจากศักยภาพของจีอี
แคปปิตอล ที่ได้นำความเชี่ยวชาญการบริหารความเสี่ยง เทคโนโลยีการตลาด รวมถึงเงินทุนเข้ามาช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง
"พวกเราใช้ประโยชน์จากจีอี แคปปิตอล ทั้งหมดเท่าที่จะเป็นไปได้" สุขดี
ยอมรับ "หลังจากพวกเขาเข้ามาการทำงานเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่วิธีการทำงาน
ระบบงานต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ต้องใช้ระบบของจีอี เพราะมีลูกเล่นมากกว่า
และสิ่งต่างๆ ที่เขาพัฒนาขึ้นเราสามารถนำมาใช้ได้เลย"
ดังนั้นจึงเป็นเหมือนว่าบริษัทนี้เป็นของจีอี แคปปิตอล เพราะบทบาทการบริหารงานมีสูงมากและไม่มีใครปฏิเสธ
เพราะหากอธิบายในเชิงธุรกิจแล้วไม่มีฝ่ายไหนเสียผลประโยชน์