Zalipie เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของโปแลนด์ที่มีภาพเขียน folk-art ขนานแท้ตามแบบฉบับของโปแลนด์ไว้เชิดหน้าชูตา
ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพราะคุณูปการ ของ Felicja Curylo ศิลปินพื้นบ้านผู้สร้างสรรค์ผลงานและจัดกิจกรรมผลักดันจนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ
Felicja เป็นภรรยาชาวนาธรรมดาๆ คนหนึ่งซึ่งถือกำเนิดเมื่อปี 1903 แต่ก่อนจะลาโลกไปในปี
1974 เธอกลายเป็นวีรสตรี ผู้ใช้เวลาทั้งชีวิตต่อสู้กับความซ้ำซากจำเจของการเป็น
"แม่บ้าน" และสามารถก้าวพ้นกำแพงนั้นออกมาได้ทีละก้าวๆ จนประสบความสำเร็จในการจัดการกับบทบาท
"ในบ้าน" และ "นอกบ้าน" อย่างราบรื่นเป็นที่ยอมรับทั่วไป
กับบทบาทศิลปินพื้นบ้านนั้น Felicja มีจุดเริ่มต้นเหมือนเด็กทั่วๆ ไปที่หัดวาดภาพตั้งแต่อายุเพียง
10 ขวบมีแม่เป็นครูสอน แต่เธอแตกต่างจากคนอื่นตรงที่จริงจังกับงานศิลปะมาก
เมื่ออายุเพียงยี่สิบ กว่าๆ ก็สวมบทบาทเป็นครูสอนภาพเขียนคนสำคัญให้กับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันในหมู่บ้านนั้น
ชีวิตของ Felicja ดำเนินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น นอกเหนือจากการได้จับพู่กันวาดภาพตามที่ใจรัก
เธอสมรสมีครอบครัวแล้วเป็น "แม่บ้าน" เต็มขั้นที่ต้องเลี้ยงลูก ลุกขึ้นแต่เช้าเพื่ออบขนมปัง
ให้อาหารแก่สัตว์เลี้ยง ทำอาหาร และทำความสะอาดบ้านเรือน
แต่ Felicja มีจุดเด่นตรงที่อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติอย่าง จริงจัง
เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าพื้นเมืองประจำหมู่บ้านตลอดเวลา นั่นคือ เสื้อ ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายมีเสื้อกั๊กปักลวดลายสวยงามสวมทับเข้าชุดกับกระโปรง
ลายปัก และมีผ้าคาดศีรษะปักลวดลายดอกไม้
บ้านที่เธออาศัยอยู่กับครอบครัวก็มีแบบแปลนเดียวกับบ้านทุกหลังในหมู่บ้าน
และมีลักษณะเฉพาะของบ้านในชนบทของโปแลนด์ ซึ่งบริเวณห้องโถงตรงทางเข้าด้านหนึ่งเป็นที่วางอ่างล้างชาม
ขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่มีทั้งเตาหุงต้มและเตาอบขนมปัง ส่วนเตียงนอนจะดันเข้า
ไปติดผนัง มีภาพเขียนเกี่ยวกับศาสนาแขวนอยู่เหนือเตียง ตู้ไม้สำหรับใส่เสื้อผ้าจะตั้งอยู่ใต้หน้าต่าง
โดยจัดให้โต๊ะและเก้าอี้อยู่ตรงกลาง
แม้ว่า "บ้านนา" ในชนบทของโปแลนด์จะนิยมทาสีสดใสหลากสี แต่บ้านนาของ Felicja
กลับพิเศษแตกต่างจากบ้านอื่นๆ เพราะฝาผนัง เพดาน ประตู และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น
ล้วนมีลวดลายของภาพเขียนลายดอกไม้ตามแบบฉบับของโปแลนด์ทั้งสิ้น
หลานสาวของศิลปินพื้นบ้านผู้ล่วงลับฟื้นความหลังถึงจุดเริ่มต้นว่า "มีอยู่วันหนึ่ง
คุณยายตัดสินใจวาดลวดลายขาว-ดำทับเขม่าไฟดำที่เลอะอยู่เหนือเตาอบ ซึ่งก่อขึ้นจากดินเหนียว
แต่เธอไม่ชอบใจในผลที่ออกมา จึงเติมลายดอกไม้เข้าไป คราวนี้ทุกอย่างออกมาสวยงามดังใจนึก
วันรุ่งขึ้น คุณยายจึงวาดลวดลายลงบนเตาอบส่วนที่เหลือ และขยายต่อไปถึงบางส่วนของห้องใหญ่ด้วย...
งานเขียนภาพจึงแทรกเข้ามาทำลายความซ้ำซาก จำเจของชีวิตประจำวันได้อย่างวิเศษ
คุณยายจึงทำต่อไปเรื่อยๆ"
ปี 1950 Felicja จัดประกวดการเขียนภาพขึ้นและประสบผลสำเร็จ ด้วยดีจนกลายเป็นงานประกวดประจำปีไปในที่สุด
ศิลปินพื้นบ้านผู้นี้จึงโด่งดังเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศช่วงกลางทศวรรษ
1950 นั่นเอง บ้านของเธอก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียน folk-art ของโปแลนด์ในเวลาต่อมา