ยอดขาย 8 เดือนพุ่งสวนศก.หด MODERNจ้องปันผล 2.75 บาท


ผู้จัดการรายวัน(1 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ปคาดรายได้ปีนี้ 3,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 290 ล้านบาท จาก 8 เดือนยอดขายพุ่ง เตรียมจ่ายปันผล ปีนี้ระดับเดียวกับปีที่ผ่านมาที่ 2.75 บาท ด้าน ผู้บริหารเผยเป้ารายได้ไม่รวมบริษัทย่อยที่ปี 49-50 ที่ 2,800 และ 3,100 ล้านบาท จ่ายปันผล 3 และ 3.25 บาท พร้อมดันบริษัทพลาสติค และหีบห่อไทยฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลัก-ทรัพย์เอ็มเอไอปีนี้ เพื่อหวังรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ไม่หวั่นภาวะซบทำให้ราคาหุ้น IPO ไม่สูง

นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ไตรมาส 3/48 จะมีรายได้มากกว่าไตรมาส 2/48 ที่มีรายได้รวม 696.03 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 60.66 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อที่ได้รับแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะภาวะการเติบโตของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยังเติบโตที่สูง

บริษัทคาดรายได้รวมปีนี้ ประมาณ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของบริษัท 2,500 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพราะขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าจำนวน 200 ล้านบาท ซึ่ง จะทยอยรับรู้จนถึงปีหน้า ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าเพราะจากยอดขายที่มี 8 เดือน ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 1,429.57 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 122.28 ล้านบาท และบริษัท คาดรายได้จากการจัดลดราคาสินค้าของบริษัทที่จัดในวันที่ 26 ส.ค.-11 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ปีนี้ 150 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้จัดมา 5 วัน มียอดขาย 60 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลปีนี้มากกว่า 2.75 บาท ซึ่งปกติทุกปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยบริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือนก.ย.นี้

นายทักษะ กล่าวว่า คาดรายได้รวมของบริษัทไม่รวมบริษัทย่อยปี 2549 ประมาณ 2,800 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 335 ล้านบาท และคาดว่า จะจ่ายเงินปันผลประมาณ 3 บาทและมีรายได้ในปี 2550 ประมาณ 3,100 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 355 ล้านบาท และจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 3.25 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามประมาณการที่ตั้งไว้ เนื่องจาก บริษัทมีการขยาย ตลาดไปในตลาดใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ เช่น ในปี49 บริษัทมองตลาดเฟอร์นิเจอร์ ในโรงเรียน สถาบันการศึกษา ห้องประชุม โรงแรม ตลาดท่องเที่ยว และจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจ เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ (Health&Care) ซึ่ง จะรับรู้รายได้ปีแรกประมาณ 30-50 ล้านบาท รวมถึงในปี 2549 บริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท

นายทักษะ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอของ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC ซึ่ง MODERN ถือหุ้น 60% โดย ขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว ซึ่งคาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะอนุมัติไฟลิ่งประมาณปลายเดือน ต.ค.หรือต้นเดือน พ.ย. โดย จะเสนอขายหุ้นได้ และจะเข้าซื้อขายในตลาด-หลักทรัพย์ เอ็มเอไอ(mai) ภายในปีนี้ เนื่องจาก บริษัทต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถึงแม้ ภาวะตลาดไม่ดีจะทำให้ราคาเสนอขายหุ้นไม่สูงก็ตาม

ทั้งนี้ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทยฯซึ่งประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวดและฝา และชิ้นส่วนพลาสติกขึ้นรูป ต่างๆ โดยจะเสนอขายหุ้น จำนวน 20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท

บริษัทพลาสติคและหีบห่อไทยฯ คาดว่าจะมีรายได้ปีนี้อยู่ที่ 600 ล้านบาท มีกำไรสุทธิประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งในปี 2547 มีรายได้รวม 585 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไป ลงทุน ในแม่พิมพ์ที่ใช้เทคนิคการผลิตแบบ Hot Runner Mould ลงทุนในบรรจุภัณฑ์แบบ Thin Wall และอื่นๆ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.