|
"ลีโอ-ช้าง" ลงขันรับศึกเบียร์ "เชียร์" อัดแคมเปญสกัดไทยเอเชียลงอีโคโนมี
ผู้จัดการรายวัน(1 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดเบียร์อีโคโนมีแข่งเดือด "บุญรอดฯ-ไทยเบฟฯ" เตรียมอัดงบต้อนรับเบียร์น้องใหม่ "เชียร์" หลังค่ายไฮเนเก้นปั้นชิงชิ้นเค้ก 60,000 ล้านบาท "ลีโอ" ทุ่ม 70 ล้านบาท งัดแคมเปญครบเครื่อง ชูจุดขายเซ็กแอพพีล ขนขบวนทัพปฏิทิน-ประกวดนางแบบ-กิจกรรมมอบโชค ส่วน "ช้าง" รอประชุม สคบ. กบว. และอย. อนุมัติปรับรูปแบบการโฆษณา-การทำตลาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนคลอดแคมเปญใหญ่เดือนตุลาคม
แหล่งข่าว บริษัทไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ เปิดเผยว่า จากนโยบายทางการตลาดบริษัทจะก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเบียร์หลายแบรนด์ หรือเป็น "พอร์ตโฟลิโอ บริวเวอรี" คือ การมีเบียร์ครอบคลุม ทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ ระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัทมีเบียร์ไฮเนเก้นลงสู่ตลาดเมืองไทยมานานแล้ว ตามด้วยเบียร์ไทเกอร์ จัดอยู่ระดับสแตนดาร์ด เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2547 และล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัวเบียร์แบรนด์ใหม่ "เชียร์" ปริมาณแอลกอฮอล์ 5.6 ดีกรี เจาะในเซกเมนต์อีโคโนมี ซึ่งในตลาดมีเบียร์คู่แข่ง อย่าง เบียร์ช้างปริมาณแอลกอฮอล์ 6 ดีกรี และลีโอ 5.3 ดีกรี
ขณะนี้ บริษัทได้แจ้งกับทางกรมสรรพสามิตเรียบร้อย และตั้งราคาใกล้เคียงกับเบียร์ลีโอ โดยเบียร์เชียร์เป็นแบรนด์ที่ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้เริ่มประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางแล้ว ทั้งโมเดิร์นเทรดและยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว เพื่อผลักดันสินค้าเข้าไปยังช่องทางจำหน่ายต่างๆได้อย่างครอบคลุม หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวลงสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดตัวเบียร์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ไทยเอเชียฯมีเบียร์ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับ พรีเมียม สแตนดาร์ด และอีโคโนมีทันที
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทไทยเอเชียแปซิฟิคบริวเวอรี่ ได้ทุ่มงบลงทุน 2,900 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตที่โรงงานจังหวัดนนทบุรี เพิ่มเป็น 2 เท่า หรือราว 200 ล้านลิตรต่อปี โดยกำลังการผลิตในขณะนี้ใช้ไปเพียง 50% หรือ 100 ล้านลิตรเท่านั้น จากการผลิตเบียร์จำหน่าย 2 แบรนด์ ได้แก่ ไฮเนเก้น และไทเกอร์ ทำให้ยังเหลือกำลังการผลิตมากพอเพื่อรองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ลงสู่ตลาด ซึ่งก็คือ เบียร์เชียร์ ‘ บุญรอดอัด 70 ล้าน ต้อนรับน้องใหม่
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เบียร์สิงห์ ลีโอ เปิดเผยว่า สำหรับแผนการทำตลาดเพื่อต้อนรับเบียร์น้องใหม่ "เชียร์" จากค่ายไทยเอเชียฯ บริษัทได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญในกลุ่ม "เบียร์ ลีโอ" อย่างครบวงจร ได้แก่ จัดประกวดนางแบบ จัดกิจกรรมมอบโชค และการ เปิดตัวปฏิทินรายการเรียลิตี้โชว์ "ไทยแลนด์ เน็กซ์ ท็อป โมเดล" ของซอนย่า คูลลิ่ง ทั้งนี้แคมเปญนี้จะเริ่มเปิดตัวในวันที่ 8 กันยายน อย่างเป็นทางการ และยิงยาวกระทั่งสิ้นปี
"เราคาดว่าเบียร์เชียร์ สินค้าจากค่ายคู่แข่ง จะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถือว่าเป็นช่วง ไฮซีซันของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องทุ่มเม็ดเงินจำนวนมาก เพื่อดันยอดขายในช่วงนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทำให้เป็นเรื่องยากเหมือนกัน ที่รายใหม่จะเข้ามาเปิดตัวในช่วงไฮซีซันพอดี"
สำหรับตลาดเบียร์ระดับอีโคโนมี ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท จากมูลค่า ตลาดรวม 80,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาด จะไม่ส่งผลให้ตลาดเบียร์อีโคโนมีเติบโตมากนัก เนื่องจากผลพวงจากหลายปัจจัยด้วย ภาครัฐที่ออกมาตรการต่างๆเข้มงวดต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจัยจากทางเศรษฐกิจ ฯลฯ และคาดว่าปีนี้ตลาดเบียร์โดยรวมไม่เติบโตมากนัก
ปัจจุบันบุญรอดฯมีส่วนแบ่งโดยรวม 36-37% ยอดขายหลักมาจากเบียร์สิงห์ 60% และลีโอ 40% โดย ลีโอถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีแนวโน้มการเติบโตมากที่สุด ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าไว้จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรวมครองส่วนแบ่ง 45-48% ในปี 2549 หลังจากก่อนหน้านี้เคยตั้งเป้าไว้ภายในปี 2550 "ช้าง" คลอดแคมเปญใหญ่ ต.ค.นี้
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบียร์ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทต้องเตรียมดูทิศทางของการปรับรูปแบบการโฆษณาและการทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกครั้ง หลังจากการประชุมของ สคบ. กบว. และ อย. ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการและจัดระเบียบในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 6 กันยายนนี้ก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมคิดแคมเปญใหญ่ เพื่อกระตุ้นรายได้และแข่งขันในตลาดในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเปิดสนามการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกครั้ง หลังจากเทศกาลออกพรรษา คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการแข่งขันในส่วนของเบียร์การ์เด้น บนพื้นที่ ลานหน้าห้างเซ็นทรัล เวิลด์พลาซา ซึ่งในปีนี้บริษัทได้พื้นที่ในตำแหน่งเดิมและขนาดที่ไม่ต่างกัน คาดว่าน่าจะเป็นส่วนกระตุ้นตลาดที่สำคัญ รวมถึงมี แผนออกปฏิทินเพื่อเป็นสินค้าสมนาคุณร่วมด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|