|

ปตท.ทุ่ม4พันล.ฮุบบางจาก
ผู้จัดการรายวัน(31 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ดปตท.ไฟเขียวทุ่มกว่า 4 พันล้านซื้อหุ้นเพิ่มทุนบางจากฯ เพื่อใช้ลงทุนในโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน(PQI Project) ของบางจากฯ ทำให้ปตท.ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 8% เป็น 25-30% โดยปตท. ตกลงจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเบื้องต้น 14-16 บาทต่อหุ้น "บางจาก" ออก หุ้นใหม่ 664.5 ล้านหุ้น เผยสัดส่วนขายให้ "ปตท." ไม่เกิน 283 ล้านหุ้น
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบในหลักการให้ปตท. เข้าไปจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพของบางจากฯ ประมาณ 100-120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,100-4,920 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน(PQI Project) ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นปตท.ในบางจากเพิ่มขึ้นจากเดิม 7.8% เป็น 25-30% โดยปตท.สามารถมีส่วน ร่วมในการบริหารจัดการบางจากต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางบางจากฯ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะลงทุนเท่าใดระหว่าง 250-350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะต้องหาความชัดเจนให้เร็วที่สุด ซึ่งปตท. ตกลงที่จะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาเบื้องต้น 14-16 บาท/หุ้น ซึ่งราคาจองซื้อสุดท้ายจะปรับตามผลการตรวจสอบสถานะสุดท้าย (Confirmatory Due Diligence) เช่น เงินลงทุนในโครงการ PQI Project เป็นต้น
"เมื่อบางจากกำหนดราคาโครงการฯได้ ก็จะสามารถระบุ Priceing ราคาหุ้นได้ เช่น ถ้าลงทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาซื้อหุ้นจะอยู่ที่ 14 บาท แต่ถ้าลงทุน 250 หรือ 300 ล้านเหรียญ ราคาหุ้นบางจากอยู่ที่ 16 หรือ 15 บาทตามลำดับ โดยราคาที่ปตท.ซื้อหุ้นบางจาก จะเป็นราคาเดียวกับที่พันธมิตรรายอื่นเช่นกัน"
นายประเสริฐ กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนบางจากฯครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็น โครงการที่ดี มีผลตอบแทนการลงทุนกว่า 15% และทำให้โรงกลั่นบางจากฯ มีค่าการกลั่นเพิ่ม สูงขึ้น โดยปีที่แล้วโรงกลั่นบางจากฯเดินเครื่อง ผลิตเพียง 7-8 หมื่นบาร์เรล/วัน เพราะมีน้ำมันเตาได้จากการกลั่นสูงถึง 30% และราคา น้ำมันเตาจะต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบถึง 10 ดอลลาร์ สหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้น เมื่อมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันแล้ว โรงกลั่นจะผลิตน้ำมันใส ได้เพิ่มขึ้น และมีราคาสูงกว่าน้ำมันดิบประมาณ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้บางจากฯมีค่าการกลั่นเฉลี่ยสูงขึ้นใกล้เคียงกับโรงกลั่นทั่วไป 5-6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่บางจากฯ มีค่าการกลั่นเพียง 2-3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และในอนาคต รัฐบาลกำหนดนโยบายคุมเข้มการขนส่งน้ำมันในพื้นที่ชั้นใน ดังนั้น ปตท. จะประสานให้บางจากฯ เป็นศูนย์กระจายน้ำมันในพื้นที่ชั้นในต่อไป
ทั้งนี้ ปตท. และบางจากฯ ได้บรรลุกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับสัดส่วนการถือครองหุ้น และราคาจองซื้อหุ้นสามัญ และราคาแปลงสภาพของ หุ้นกู้แปลงสภาพ ภายหลังจากที่ ปตท. ได้เข้าตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) ของทรัพย์สินและหนี้สินของบางจากฯ และบริษัทย่อย ตลอดจนโครงการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ใน รายละเอียด เพื่อวิเคราะห์และประเมินมูลค่าของ บางจากฯ ได้อย่างครบถ้วน คาดว่าการเพิ่มทุนและการกู้ยืมเงินบางจากฯจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้
การเข้าไปถือหุ้นบางจากเพิ่มสูงขึ้นนี้ ทางปตท.ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นบางจากฯจากผู้ถือหุ้นอื่นๆ โดย ปตท.และบางจาก มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกัน ได้แก่ กระทรวงการคลัง ซึ่งถือหุ้นในปตท. จำนวน 1,467,750,743 หุ้น คิดเป็น 52.48% ของทุนชำระแล้วของ ปตท. และถือหุ้นในบางจากผ่านบริษัท สยามดีอาร์ จำกัด จำนวน 124,947,970 หุ้น ซึ่งเทียบเท่า 18.84% ของทุนชำระแล้วของบางจาก
ด้านนายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรม- การผู้จัดการใหญ่สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้มีการเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 867,143,461 บาท เป็น 1,531,643,461 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 664,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยให้มีการ จัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 283 ล้านหุ้นให้แก่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกจำนวนไม่เกิน 161,000,000 หุ้น เสนอ ขายให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงและ/หรือ ผู้ลงทุนประเภทสถาบันทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ
นอกจากนี้ จะมีการจัดสรรหุ้นไม่เกิน 135 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพที่บริษัทจะได้ออกและเสนอขาย รวมถึงการจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 85.5 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดง สิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่บริษัทจะได้ออกและเสนอขาย โดยกำหนดราคาเสนอขายและแปลงสภาพอยู่ระหว่าง 14-16 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคา เฉลี่ยช่วง 15 วันทำการระหว่างวันที่ 5 ส.ค. ถึง 26 ส.ค. 48 อยู่ที่ 14.22 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ถือหุ้นและที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนบริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันและส่วนหนึ่งจะเตรียมไว้สำหรับรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญและหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน 100- 120 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนการ ถือหุ้นของปตท. ในบริษัทฯ เพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 แต่ไม่เกินร้อยละ 30 และสามารถมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้แก่กิจการ สำหรับการเพิ่มทุนอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับนักลงทุนสถาบันอีกประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกเหนือจากการเสนอขายหุ้นดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการจัดหาวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์อีกจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการของบริษัทฯ ในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนอยู่ระดับหนึ่ง เนื่องจากความสำเร็จในการ ดำเนินโครงการขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น มูลค่าสุดท้ายของโครงการที่ประมูลได้ ผลการตรวจสอบสถานะกิจการของบริษัทโดยปตท. และธนาคารพาณิชย์ที่สนใจจะให้สินเชื่อกับโครงการ และการได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ ปัจจุบันในการลงทุน
นายปฏิภาณ กล่าวอีกว่า จะมีการเสนอเพื่อ พิจารณาอนุมัติกำหนดจำนวนกรรมการใหม่ให้มีจำนวนไม่เกินกว่า 14 คน จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 12 คนเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายการลงทุนของบริษัท โดยกำหนดการประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในวันที่ 11 ตุลาคม 2548 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน)
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BCP วานนี้ (30 ส.ค.) ปิดที่ 15 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 2.60% มูลค่าการซื้อขาย 262.487 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|