|
จากวิกฤติสู่โอกาส
โดย
ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
- จำได้ว่าในช่วงวิกฤติ ทาง McKinsey ให้เครือซิเมนต์ไทย ขายธุรกิจกระดาษออกไป แล้วกลับมาเป็นธุรกิจหลักของเครือได้อย่างไร
การ restructure ของเครือซิเมนต์ไทยเราทำภายในของเรากันเองก่อน แล้วก็ประเมินว่าธุรกิจไหนที่มีศักยภาพน่าจะอยู่ได้หรือไม่ได้ แล้วก็เอา McKinsey เข้ามาในช่วงจังหวะที่เรากำลังทำอยู่พอดี ทำให้เรามีข้อมูลมาคุยกับเขาได้ง่าย เขามาดูข้อมูลแล้วก็ verify แล้วก็ทำเป็นข้อสรุปออกมา ซึ่งก็เกือบจะเหมือนที่เราดูเองทั้งหมด
ในส่วนของธุรกิจกระดาษตอนนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ให้ทำการปรับโครงสร้าง ส่วนกระดาษพิมพ์เขียนเขาแนะนำให้ขาย เพราะความเข้มแข็งของธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนอยู่ที่วัตถุดิบ คือ เยื่อกระดาษ และในตอนนั้นเรามีเยื่อน้อยมาก เรามีเยื่อทำจากชานอ้อยอยู่ที่บ้านโป่ง (บริษัท เยื่อกระดาษสยาม) และจากยูคาลิปตัสที่วังศาลา (บริษัท สยามเซลลูโลส) แต่รวมแล้วมีกำลังผลิตแสนตันเศษๆ ขณะที่เรามีกำลังผลิตกระดาษพิมพ์เขียนอยู่เกือบ 3 แสนตัน ซึ่ง McKinsey ดูแล้วก็เห็นว่าเราไม่เข้มแข็ง เพราะต้องซื้อเยื่อจากข้างนอก ถ้าราคาเยื่อสูงเราก็ไม่มีกำไร ก็เลยออกมาเป็นคำแนะนำว่า ถ้าเครือซิเมนต์ไทยไม่มีกำลังที่จะลงทุนต่อก็ให้ขายตรงนี้แล้วเก็บกระดาษบรรจุภัณฑ์เอาไว้ แต่คุณสมบูรณ์ (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เยื่อกระดาษสยามคนปัจจุบัน) ซึ่งตอนนั้นดูแลธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนอยู่ก็พยายามเดินหน้าหาผู้ร่วมทุน แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ยังอยู่ในช่วงของการเจรจา ซึ่งระหว่างนั้นกระดาษก็ยังส่งออกได้ตลอด ถึงเศรษฐกิจจะแย่ แต่กลุ่มนี้ก็ปรับตัวได้เร็ว ทำการปรับปรุงคุณภาพ ทำตลาดส่งออกได้เยอะ ก็ฟื้นตัวเร็ว
พอเริ่มฟื้นตัวก็เป็นจังหวะที่พาร์ตเนอร์ของฟินิคซ พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ ที่เป็นชาวอินเดียเขาเห็นโอกาสที่จะไปขยายการลงทุนที่อินเดีย ก็ต้องการเงิน เลยมาเจรจากันและเราก็ตกลงซื้อหุ้นจากเขา ทำให้เมื่อรวมกำลังผลิตเยื่อของเรากับของฟินิคซฯแล้วกลายเป็นว่าเรายังมีเยื่อเหลืออีกประมาณปีละ 1 แสนตันสำหรับขายให้ข้างนอกด้วย เพราะฉะนั้นโพสิชั่นในธุรกิจนี้ของเราก็เปลี่ยนไป เลยมีการรีวิวกันใหม่ เป็น Boston Consulting Group เขามาดูเห็นว่าโพสิชั่นในธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนของเราเข้มแข็งพอก็แนะนำให้เราเก็บไว้เป็นธุรกิจหลัก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|