กระเบื้องจีนทะลักSCCชี้คุมคุณภาพเทียบเท่ามอก.ไทย


ผู้จัดการรายวัน(29 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"เครือปูนใหญ่" เล็งเสนอรัฐ วางมาตรฐานกระเบื้องนำเข้ามาขายได้แต่ต้องได้ มาตรฐานเทียบเท่า มอก.ของไทย กันกระเบื้องนอกไม่ได้มาตรฐานทุ่มตลาดไทย พร้อมส่งทีมลงเก็บข้อมูลเชิงลึก ณ จุดขายร้านค้า มั่นใจสิ้นปี ยอดขาย 7,000 ล้านตามเป้า ล่าสุดเช่าพื้นที่ 200 ตร.ม.ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เปิด "Cotto Tiles Library" เล็งเปิดเพิ่มอีก 5 แห่งรับกระแสตลาดแข่งขันรุนแรง

นายพิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย จำกัด กลุ่มเซรามิก เครือซิเมนต์ไทย หรือปูนใหญ่ เปิด เผยว่า ปัจจุบันตลาดกระเบื้องเซรามิกในประเทศ มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง ทั้งที่เกิดจาก มีผู้ผลิตและผู้นำเข้ากระเบื้องเซรามิกจากต่างประเทศ โดยสินค้าที่นำเข้ามามีสัดส่วนเพิ่ม มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกระเบื้องเซรามิกจากประเทศจีน ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้ามาประมาณ 5% จากมูลค่าทั้งหมด

ทั้งนี้ แม้ว่าการนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายถือเป็นกลไกลทางการตลาด แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องคุณภาพหากสินค้าที่นำเข้ามาไม่มีคุณภาพที่ดี พอ ผลกระทบก็จะตกอยู่ที่ผู้บริโภค กรณีดังกล่าว น่าจะมีการวางมาตรฐานสินค้า โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ควรกำหนดหรือออกกฎระเบียบว่าสินค้าที่นำเข้ามานั้นควรได้มาตรฐาน มอก.ไทย "

สินค้านอกที่นำเข้าไทยนั้นเข้ามาง่ายมาก แต่สินค้าไทยจะส่งออกไปต่างประเทศนั้นมีกฎระเบียบมากมาย โดยเฉพาะมาเลเซียนั้นจะมีความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าไปขายในประเทศเค้ามาก และมีค่าใช้ใช้จ่ายสูงในการตรวจสอบสินค้าแต่ละครั้ง" นายพิชิตกล่าว

โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมัน และปัจจัยลบอื่นๆ และส่งผลในเชิงลบต่อธุรกิจของกลุ่ม โดยในส่วนของสินค้าประเภทกระเบื้อง เซรามิก "คอตโต้" ที่ดำเนินการในนามบริษัทเซรามิค อุตสาหกรรมไทย จำกัด ยอดขายเติบโตในอัตราที่ลดลงอยู่ที่ประมาณ 13% เมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนของปี 2547 ที่มีอัตราการเติบโตที่ 15%

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าสิ้นปีนี้ยอดขายกระเบื้อง น่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 7,000 ล้านบาท จากยอดขายรวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างฯทั้งปีที่ตั้งไว้ 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยในปี 2547 มียอดขายรวมของ กลุ่มสินค้าบริษัทผลิตภัณฑ์ก่อสร้างฯทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยอดขาย 7,000 ล้านบาทของสินค้า ประเภทกระเบื้อง เซรามิกนั้น เป็นยอดขายในประเทศ 60% และส่งออก 40% ปัจจุบันคอตโต้มีกำลังการผลิต 36-40 ล้านตร.ม./ปี มีส่วนแบ่ง ทางการตลาดในประเทศประมาณ 25% จากปริมาณความต้องการของตลาดประมาณ 125 ล้านตร.ม.คิดเป็นมูลค่า 17,500-20,000 ล้านบาท

นายพิชิต กล่าวว่า สำหรับภาวะตลาดในประเทศนั้น ยอมรับว่าต้องทำการตลาดหนักขึ้น เนื่องจากภาวการณ์แข่งขันของตลาดค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นบริษัทต้องลงลึกในการทำการตลาด ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ส่งทีมหรือเจ้าหน้าที่ไปนั่งเก็บข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด ณ จุดขาย ที่เป็นร้านค้าของดีลเลอร์รายใหญ่และกลางในแต่ละจังหวัด โดยข้อมูลที่ได้จะนำมาวิเคราะห์ เพื่อที่จะผลิตสินค้าและบริการลูกค้าให้ตรงกับความต้องการมากสุด เพราะที่ผ่านมาลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคโดยตรงแล้วเกิดปัญหา หาสินค้าไม่ได้ มี สินค้าให้เลือกไม่มากพอ การส่งทีมงานลงไปหา ข้อมูลทำให้ได้รับทราบปัญหาที่แท้จริง และสามารถ เชื่อมข้อมูลมาที่โรงงานการผลิต ผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการ รวมทั้งสามารถเชื่อม ข้อมูลไป ยังร้านค้าในพื้นที่เดียวกัน ว่ามีสินค้าในซีรีส์ สี ขนาด ตามที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ หากมีก็สามารถใช้อีก ร้านค้าหนึ่งเป็นที่ส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ทันที

นอกจากนี้ยังนำเอาข้อมูลความต้องการของตลาดมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่จะลงทุนเปิด "Cotto Tiles Library" ที่วางแผนจะ เปิดให้ครบ 5 แห่งภายในปี 2549 ทั้งที่นครราชสีมา เชียงใหม่ พัทยา นครสวรรค์ และที่กรุงเทพฯเพิ่ม อีก 1 แห่งหลังที่เปิดไปแล้ว 1 แห่ง ที่ถนนอโศก โดยแต่ละแห่งคาดว่าใช้เงินลงทุน 5-10 ล้านบาท

ล่าสุดได้เปิดเป็นแห่งที่ 2 พื้นที่กว่า 200 ตร.ม. บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าทั้งที่เป็นเจ้าของบ้าน สถาปนิก วิศวกร และลูกค้าประเภทโครงการ โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 30 คน และมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามามากว่า 100 สายต่อวัน ขณะที่กทม.นั้นมีคนเข้ามาใช้บริการ 1,000 คน/เดือน และโทร.เข้ามา 3,000-4,000 คน/เดือน

ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทผลิตภัณฑ์ก่อสร้างฯในต่างประเทศนั้นที่ผ่านมาได้ขยายการ ลงทุนในการผลิตกระเบื้องคอนกรีตไปแล้วที่ประเทศเวียดนาม ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท กำลังการผลิต 1.6 ล้านตร.ม. และอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในอินโดนีเซีย และมีแผนที่จะไปปรับปรุงโรงงานในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้มีการลงทุนไปแล้วในช่วงหลายปีก่อน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.