|

"แม็คโคร"สร้างภาพธุรกิจอาหารสด ทุ่ม16ล.ดึงซัปพลายเออร์จัดมหกรรม
ผู้จัดการรายวัน(25 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
แม็คโคร จับมือซัปพลายเออร์ธุรกิจอาหาร 120 ราย ทุ่ม 16 ล้านบาท จัดงานมหกรรม"แม็คโคร โฮเรก้าเอ็กซ์ตร้าวากานซ่า"สร้างภาพลักษณ์ใหม่ผู้นำตลาดธุรกิจประเภทอาหารสด-แห้ง เจาะกลุ่มโรงแรม ภัตตาคารเสริมรายได้เพิ่ม คาดฐานลูกค้าพุ่ง 25% สิ้นปีดันกลุ่มอาหารโต 50%
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบ 16 ล้านบาท เพื่อเตรียมจัดงานมหกรรม"แม็คโคร โฮเรก้าเอ็กซ์ตร้าวากานซ่า" (Makro HoReCa Extravaganza 1st) ครั้งที่ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี โดยเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทกับซัปพลายเออร์กว่า 120 ราย ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจอาหาร โดยวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการให้มาร่วมงาน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรม, ร้านอาหาร, ภัตตาคาร
"เป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แม็คโครฯ ในฐานะผู้นำทางด้านการจัดหาสินค้าจำพวกอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับป้อนธุรกิจดังกล่าว เพิ่มเติมจากเดิมที่บริษัทฯเป็นผู้นำในฐานะเป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าให้แก่ธุรกิจค้าปลีกหรือโชวห่วยในประเทศ"
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในธุรกิจอาหาร จะแตกต่างจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากธุรกิจอาหารจะต้องใช้เวลาในการสาธิตและให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าพวกวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร ส่วนธุรกิจค้าปลีกนั้นจะอาศัยแบรนด์สินค้าเป็นหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องอาศัยการจัดงานมหกรรมดังกล่าว เพื่อแนะนำสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ
โดยบริษัทมียอดขายสินค้าประเภทอาหารคิดเป็น 70% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ส่วนอาหารแห้งคิดเป็นสัดส่วน 10% เท่านั้น คาดว่าจะการจัดงานดังกล่าวจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งยอดขายของอาหารแห้ง ที่มาจากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจอาหารได้อีก 25% โดยคาดว่าในปีนี้กลุ่มอาหารแห้งและอาหารสด จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%
ส่วนส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ 3 แบรนด์ ได้แก่ แอโร่, เซฟแพ็ค และคิวบิส จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากกำลังได้รับความนิยมในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ไม่คำนึงถึงแบรนด์มากนัก อาทิ ข้าวสารกระสอบละ 50 กิโลกรัม ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจค้าปลีกจะคำนึงถึงแบรนด์ของสินค้ามากกว่า โดยปัจจุบันแม็คโครมีสัดส่วนของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ 6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนเพียง 2%
ปัจจุบันแม็คโครฯมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1.8 ล้านราย โดยจำนวนนี้มีลูกค้าที่แอคทีฟ 80% แบ่งเป็นกลุ่มค้าปลีก 60% กลุ่มองค์กรและห้างร้านอีก 15% และกลุ่มธุรกิจอาหารอีก 10% ที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว อาทิ ร้านทำผมที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง ขณะที่สิ้นปีนี้มีการปรับปรุงสาขาครบ 19 สาขา ส่วนปีหน้าอีก 21 สาขา
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|