พานาโซนิค ลูมิค ปลุก MEGA O.I.S. กระตุ้นภาพลักษณ์แบรนด์


ผู้จัดการรายสัปดาห์(5 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

พานาโซนิค ลูมิค ชูฟีเจอร์กันภาพสั่น ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์กล้องดิจิตอล โดยสร้างประสบการณ์ผ่านสื่อ พร้อมกับสร้างวัฒนธรรมใหม่ในตลาดลกล้องดิจิตอลด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลสู่ผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงของพานาโซนิคด้วยเอสดีการ์ด

ตลาดกล้องดิจิตอลของไทยในปีที่ผ่านมามีปริมาณกว่า 5.5 แสนตัว โดยคาดว่าในปีนี้ความต้องการจะขยับสูงขึ้นเป็น 700,000 ตัว เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิตอลมากขึ้นและกล้องถ่ายรูปก็สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี

ทั้งนี้การแข่งขันในตลาดกล้องดิจิตอลที่ผ่านมานอกจากจะมีการแข่งขันในเรื่องของราคาแล้วก็มีการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานออกมาแข่งกัน อย่างเช่นประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมากล้องที่มีความละเอียด 3 ล้านพิกเซลถือว่ามีคุณภาพแล้วแต่ ณ วันนี้ความนิยมขยับขึ้นไปที่ 5 ล้านพิกเซล ซึ่งก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเพราะหลายๆค่ายยังคงออกกล้องที่มีความละเอียดที่สูงกว่า 5 ล้านพิกเซลออกมาแข่งขันกัน นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การซูมภาพก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่แต่ละค่ายนำมาใช้เป็นจุดขาย

พานาโซนิค ลูมิค เป็นอีกรายที่ร่วมสมรภูมิรบในครั้งนี้ โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3-5 ปีจะสามารถก้าวเป็นที่ 1 ของตลาด ซึ่งปัจจุบันมีโซนี่เป็นผู้นำตามด้วยแคนอนและซัมซุง

MEGA O.I.S. เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้แม้มือจะสั่น ซึ่งพานาโซนิคมีการลอนช์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดเมืองไทย ดังนั้นพานาโซนิคจึงพยายามที่จะแนะนำให้ผู้บริโภคได้รู้จักฟีเจอร์ดังกล่าวเพื่อสร้างจุดขายเหนือคู่แข่ง ซึ่งในการเลือกซื้อของผู้บริโภคก็จะมีการเดินตลาดสำรวจสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นแต่ละค่ายจึงพยายามฝึกอบรมพนักงานขายให้สามารถถ่ายทอดข้อมูลทางเทคนิคและโน้มน้าวให้ผู้บริโภคซื้อ ณ จุดขาย

นอกจากการเซอร์เวย์แล้วผู้บริโภคก็ยังมีการหาข้อมูลจากนิตยสารที่เกี่ยวกับกล้อง ดังนั้นพานาโซนิคจึงพยายามที่จะสร้างประสบการณ์ให้กับสื่อเหล่านั้นเพื่อที่จะได้เข้าใจเทคโนโลยีของพานาโซนิคเพื่อที่จะได้ถ่ายทอดไปสู่ผู้บริโภคอย่างชัดเจน

เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว พานาโซนิคจึงมีการจัดทริปสร้างประสบการณ์ให้สื่อมวลชนได้ทดลองใช้กล้องพานาโซนิค ลูมิค โดยมีการจัดแถลงข่าวระดับโกลบอลที่เมืองไทยพร้อมกับพาคณะสื่อมวลชนในภูมิภาคไปทดสอบกล้อง โดยให้สื่อมวลชนถ่ายรูปบนหลังช้างเพื่อพิสูจน์ฟีเจอร์ O.I.S.ซึ่งเป็นระบบกันภาพสั่น

นอกจากนี้พานาโซนิค ลูมิค ยังพยายามที่จะสร้างวัฒนธรรมในตลาดกล้องดิจิตอลด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจากกล้องไปสู่ผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงตัวอื่นๆของพานาโซนิคด้วยเอสดีการ์ด คล้ายกับโซนี่ที่ชูคอนเซ็ปต์ยูบิควิตัสในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านสินค้าแต่ละประเภทของโซนี่

ปัจจุบันพานาโซนิคมีกล้องดิจิตอลในตลาด 9 รุ่น โดยในเดือนกันยายนนี้จะมีการนำเข้ามาทำตลาดอีก 3 รุ่น ได้แก่ LX1 FX9 และ FZ30 โดยไฮไลท์จะอยู่ที่รุ่น FZ 30 ซึ่งพานาโซนิคพัฒนาฟีเจอร์จนสามารถเทียบเคียงกับกล้องดิจิตอล SLR สำหรับตลาดมือโปร โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 12 เท่า เป็นการปูทางก่อนจะเข้าสู่ตลาดกล้อง SLR ในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันพานาโซนิคทำแต่ตลาดกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค

ทั้งนี้ตลาดกล้องดิจิตอลแบ่งเป็นกล้องคอมแพ็ค 70% กล้อง SLR 30% แม้จะเป็นตลาดที่เล็กแต่พานาโซนิคก็ต้องการเข้ามาทำตลาดเพื่อครอบคลุมตลาดทุกเซกเมนต์และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในการเป็นเจ้าเทคโนโลยีในตลาดกล้องก่อนจะก้าวเข้าสู่การชิงตำแหน่งจากตลาด ซึ่งปัจจุบันพานาโซนิคยังไม่ติด 1 ใน 5 ของตลาด โดยปีที่แล้วมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1.9% ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งได้ 10% โดยการออกสินค้าใหม่ รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาด การโรดโชว์ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก พร้อมกับขยายช่องทางผ่านร้านเอวี ร้านไอที ร้านกล้อง โมเดิร์นเทรด และ ดีลเลอร์ต่างๆ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.