เพิ่มสินสตีลยันตรึงราคาเหล็ก


ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 เมษายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เพิ่มสิน สตีลเวิคส์ ประกาศตรึงราคาเหล็ก อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนทบทวนแผนปรับราคาภายใต้โครงสร้างต้นทุนใหม่ เดินเครื่องเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กเป็น 3 ล้าน ตร.ม.จากปัจจุบันผลิตได้ 6 แสนตร.ม. รองรับความต้องการเพิ่มขึ้น

ต้องยอมรับว่า การปรับขึ้นของน้ำมันดีเซล กระทบต่อการดำเนินธุรกิจทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้ผลิตสินค้าระดับรากหญ้าหรือ เอสเอ็มอีไปจนถึงผู้ผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ทั้งผู้ผลิตทุกรายจะต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ทั้งการลดต้นทุนการผลิต ด้วยการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดความสูญเสีย รวมถึงการปรับขึ้นราคาสินค้า

ชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด ผู้จำหน่ายเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กโครงคร่าวเพดานและผนังรูปตัวซี กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเช่นเดียวกับผู้ผลิตทุกราย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ไม่มากนัก เพราะกระบวนการผลิตเหล็กใช้น้ำมันดีเซลไม่มาก แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือค่าขนส่ง เพราะบริษัทมีรถขนส่งสินค้าเอง ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ บริษัทจะยังไม่ขึ้นราคาสินค้า เพราะยังมีสต็อกสินค้าที่จะขายได้อีกประมาณ 3 เดือน จึงจะขายสินค้าในราคาเดิม เพราะไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภค แต่หลังจากที่สต็อกเดิมขายหมดแล้ว บริษัทจะทบทวนการปรับราคาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะปรับราคาตามต้นทุนใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ชูเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนโรงงานแห่งใหม่ บนพื้นที่ราว 33 ไร่ เพื่อผลิตเหล็กโครงคร่าวเพดาน ผนังรูปตัวซี และแผ่นหลังคาเหล็กเคลือบสี โดยโรงงานอยู่ที่สมุทรสาคร 3 แห่ง โรงงานแห่งแรก เป็นโรงงานแปรรูปเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กชุบสังกะสีรูปตัวซี เหล็กเคลือบเคมีด้วยไฟฟ้า โรงงานแห่งที่ 2 เป็นโรงงานแปรรูปเหล็กโครงคร่าวเพดานและผนัง โรงงานแห่งที่ 3 เป็นโรงงานแปรรูปแผ่นหลังคา และผนังเคลือบสังกะสี ส่วนโรงงานที่ประจวบคีรีขันธ์ เป็นโรงงานตัดเหล็กแผ่นรีดเย็น

ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 240 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 120 ล้านบาท และค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ 120 ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้างความคืบหน้า 50% คาดว่าไตรมาส 2 ปีนี้จะสามารถเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ โดยมีกำลังการผลิตโครงคร่าวเหล็กกล้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้าน ตร.ม.ต่อปี จากปัจจุบันผลิตได้ 6 แสน ตร.ม.ต่อปี และมีกำลังผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นอยู่ที่1แสนตันต่อปี

สำหรับช่องทางการจำหน่าย เน้นจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ทั่วประเทศเป็นหลักในสัดส่วน 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นการจำหน่ายแบบขายตรงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

ส่วนเงินลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ บริษัทมีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีแผนจะเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมยื่นแบบแสดงรายการ(ไฟลิ่ง) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยแต่งตั้งบริษัท ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งคาดว่าในราวไตรมาส 3 ปีนี้ น่าจะเข้าซื้อขายในกระดานได้ โดยบริษัทจะกระจายหุ้นให้กับประชาชน(IPO) ประมาณ 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของหุ้นทั้งหมด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.