ทีโอเอท้าชนไอซีไอ-นิปปอนเล็งแย่งลูกค้าตลาดต่างประเทศ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(6 พฤษภาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีโอเอ ประกาศแย่งมาร์เก็ตแชร์ไอซีไอ-นิปปอนเพ้นท์ ในสินค้าทุกประเภท ที่ทั้งสองรายเปิดตลาดแล้วในตลาดต่างประเทศ ด้านนิปปอนเพ้นท์

หลังจากชิมลางตลาดต่างประเทศด้วยการส่งสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ในปีนี้ บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสีทาบ้าน สีทาอาคาร รายใหญ่ของไทย ได้ฤกษ์ขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ก่อนลุยทำตลาดจริง เพราะเพิ่งจะก่อตั้งแผนกต่างประเทศขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่เพียง 2-3 ปีเท่านั้นเอง ดังนั้นในปีที่ผ่านมาจึงเป็นปีแรกที่ ทีโอเอ ย่างก้าวขยับขยายออกไปทำตลาดต่างประเทศ ก่อนประกาศรุกเต็มตัวในปีนี้

ที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับการรุกตลาดต่างประเทศของ ทีโอเอ ในปีนี้ไม่ได้หวังอยู่ที่เพียงแค่ยอดขายแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่ ทีโอเอ หวังเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือ การเข้าไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดในทุกๆ ประเทศที่คู่แข่งรายสำคัญ 2 ราย อันได้แก่ ไอซีไอ และ นิปปอนเพ้นท์ เข้าไปทำตลาด ด้วยการประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะเข้าไปทำตลาดในทุกประเภทที่คู่แข่งทั้ง 2 รายได้เข้าไปบุกเบิกตลาดมาแล้ว

เล็งขยายตลาดตปท.

วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ สายงานต่างประเทศ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย ) จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดของบริษัทว่า การรุกตลาดต่างประเทศของ ทีโอเอ จะเน้นนโยบายการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในทุกๆ ตลาด

ไม่ว่าจะเป็นตลาดเดิมที่ทำธุรกิจอยู่แล้วหรือตลาดใหม่ที่บริษัทจะขยายฐานลูกค้าออกไปให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จาก 43 ประเทศเป็น 80 ประเทศ ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศใหม่ๆ ที่อยู่ในกลุ่มประเทศแถบอาเชี่ยน เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง

โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการเพิ่มไลน์สินค้าจากปัจจุบันที่ส่งไปจำหน่ายแค่เพียงสเปร์ย และกระดาษทราย โดยมีสินค้าภายใต้ยี่ห้อ Super Shield ,Super Shield Dur Aclean และ Shield All เป็นสินค้าหัวหอกในการทำตลาด หลังจากได้ยกเลิกการส่งออกสินค้าประเภทสีรถยนต์และ สีท่อ ไปแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี เนื่องจากไม่ใช่สินค้าหลักของบริษัท

ทั้งนี้ แค่ระยะเวลาเพียง 1 ปีเศษสำหรับการทดลองทำตลาดในต่างประเทศด้วยการทำตลาดผ่านเอเยนต์ ทีโอเอ สามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศได้ถึง 300 ล้านบาทในปี 2546 และเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาทในสิ้นปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าโกยยอด 5,000 ล้านใน 5 ปี

โดยในปีนี้แม้ว่าจะถอดไลน์สินค้ากลุ่มสีรถยนต์และสีท่อออกจากตลาดส่งออกแล้ว ทีโอเอ ยังมุ่งหวังที่จะผลักดันยอดขายจากต่างประเทศให้ได้ถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายระยะยาว 5 ปีข้างหน้าในการผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถกำหนดทิศทางการทำตลาดในต่างประเทศที่ชัดเจนได้ภายหลังจากเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจังแล้ว 2-3 ปี

วนรัชต์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ทีโอเอ ได้ทำการเพิ่มทุนโดยการกู้เงินจากบริษัทแม่ในประเทศไทย จำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายการลงทุนในต่างประเทศ แบ่งเป็นการลงทุนขยายโรงงานในเวียดนาม 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่เหลือเป็นการลงทุนในมาเลเซียและจีน

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตสินค้าและทุ่มเทให้กับการทำตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ เพราะด้วยข้อจำกัดของพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน ทำให้การทำตลาดแต่ละแห่งแตกต่างกันไปด้วย

ดังนั้น ทีโอเอ จึงต้องตอบโจทย์ของลูกค้าในตลาดนั้นๆ ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายว่าเวียดนามจะเป็นตลาดที่แข็งแกร่งของ ทีโอเอ ต่อไปภายในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า

แม้ว่าจุดมุ่งหมายในการทำตลาดของ ทีโอเอ ในปีนี้จะพุ่งเป้าไปที่ตลาดต่างประเทศ แต่สำหรับตลาดในประเทศแล้ว ทีโอเอ ก็ไม่ได้ปล่อยให้ยอดขายหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว เพราะในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบประมาณเพื่อทำการจัดซื้อโปรแกรมการผสมสีที่เรียกว่า TOA IDEA COLOR

จากประเทศออสเตรเลียมาใช้แทนโปรแกรมการผสมสีแบบเดิมที่มีความซับซ้อน ล่าช้า และต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวันกว่าจะได้ผสมสีให้กับภาพ 1 ภาพ ซึ่งเมื่อนำโปรแกรมใหม่มาติดตั้งจะย่นเวลาในการผสมสีลงเหลือเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

"ประโยชน์ที่ได้คือช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาในการเลือกซื้อสี และได้สีที่เหมาะกับความต้องการ ซึ่งบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนสำหรับการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าว 13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30,000 บาทต่อโปรแกรม"

นิปปอน เปิดตัว CDC ชนทีโอเอ

ด้านนิพนธ์ วานิยะพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว NIPPON PAINT COLOUR DESIGN CENTER หรือ CDC ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของนักออกแบบด้านสีที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เรื่องสีโดยเฉพาะ โดยจะมีทีมงาน 3 กลุ่ม ทำการศึกษาวิจัย คัดเลือกและออกแบบแนวทางของสีที่เหมาะสมที่สุดทั้งในด้านอารมณ์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ประกอบด้วย กลุ่มออกแบบสีรถยนต์ และเทรนด์ของสีรถยนต์ กลุ่มออกแบบสีสำหรับผลิตภัณพ์อุตสาหกรรม และ SPACE DESIGN GROUP ซึ่งทำการออกแบบและนำเสนอสีสำหรับทาอาคาร ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้ชุมชนดูโดดเด่น สวยงาม ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มดำเนินการศูนย์ดีไซน์สี ในส่วนกลุ่มออกแบบสีรถยนต์ มาแล้ว 5 ปี

"NIPPON PAINT COLOUR DESIGN CENTER ที่ตั้งขึ้นนี้ แตกต่างจากศูนย์ผสมสีทั่วไปที่ให้ลูกค้าเลือกสีตามจินตนาการ เพราะการทำงานของทีม SPACE DESIGN GROUP เริ่มต้นจากการวางแผน โดยทีมงานจะรวบรวมข้อมูลของสีให้มากที่สุด เพื่อทำการวิเคราะห์และออกแบบค้นหาสีที่ผสมผสานให้ลูกค้า โดยวิเคราะห์จากสภาพแวดล้อมกับตัวอาคารให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวและมีความสวยงามที่สุด โดยตั้งงบการตลาดไว้ 350 ล้านบาท เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ศูนย์ดีไซน์สีแห่งแรกด้วย "

นอกจากการใช้กลยุทธ์เปิดตัวศูนย์ดีไซน์สีแล้ว ยังมีแผนรุกตลาดเพิ่มในส่วนของสีทาอาคารหรือสีโครงสร้างด้วย เนื่องจากปีก่อนการแข่งขันค่อนข้างแรง ในปีนี้จึงจะเพิ่มการทำการตลาดโดยใช้กิจกรรม ณ จุดขาย นอกจากนั้น ในส่วนของสีอุตสาหกรรม ซึ่งมีจุดขายในตัวเองเรื่อง ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ เพราะใช้ได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ามากขึ้นอีก

ทั้งนี้ ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้น 22% จากปีก่อนที่มีอัตราการเติบโต 18% จากปี 2546 ซึ่งเป้าการเติบโตส่วนหนึ่งจะมาจากการเปิดศูนย์ดีไซน์สีด้วย นอกจากนั้น ได้ตั้งงบการตลาด 350 ล้านบาท เพื่อทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ศูนย์ดีไซน์สีแห่งแรกด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.