พาลูกไปเที่ยว ไปดูโรงเรียน

โดย วิรัตน์ แสงทองคำ
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

คนที่คิดจะขับรถยนต์เที่ยวนิวซีแลนด์ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรยุ่งเหยิงอย่างผม เพียงมีตั๋วเครื่องบิน (แน่ละ คุณต้องมีวีซ่าด้วย) เมื่อไปถึงสนามบินที่โน่น ไม่ว่า Auckland หรือ Christchurch แล้ว ค่อยหารถเช่า มีให้เลือกหลายรายที่สนามบิน เขามีแผนที่แถมให้ด้วย จากนั้นก็ตะบึงเลย ผมพิสูจน์มาแล้วกับคำกล่าวที่ว่า ขับรถประเทศนี้ไม่หลงง่ายๆ

คงจะเป็นเพราะว่า ผมเป็นคนมีความรื่นรมย์ที่คิดเรื่องง่ายๆ ให้ยุ่งเข้าไว้ หรือกล่าวให้จริงจังและดูดีขึ้นก็ว่า ชอบคิดเป็นระบบ คิดแบบนักบริหาร หากว่าตามเวอร์ชั่นภรรยา เธอบอกว่า ผมเป็นคน "ขี้ปอด" ดังนั้นเพื่อขจัดความปอด จำเป็นต้องมีข้อมูลครบถ้วน เตรียมการอย่างถี่ถ้วน ผมเลยเป็นคนชอบหาความรู้และ ทดลองของใหม่เสมอๆ

จะว่าไปแล้ว ก็มีเหตุผลอยู่บ้างเหมือนกัน ในการที่ทำให้การไปเที่ยวนิวซีแลนด์ครั้งนี้ต้องยุ่งเหยิง

นี่เป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวโดยไม่ใช้บริการจัดการท่องเที่ยวของใครเลย ไม่ว่าบริษัททัวร์ตามโปรแกรมตลาด หรือจัดเฉพาะให้เราเอง ตลอดจนบริการเลขานุการจัดการ จองตั๋ว จองที่พัก และมีโปรแกรมการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงานหรือเที่ยวไว้เรียบร้อย บริการชนิดหลังซึ่งคนกันเองจัดให้ มักจะมีรายการแถมอยู่บ่อยครั้ง

ครั้งหนึ่งนานมาแล้วไปดูกิจการหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ ศึกษาระบบการพิมพ์ผ่านดาวเทียม ความจริงเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปโซล ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมง แต่อดีตเลขาคนเก่ง จัดโปรแกรมแถมให้ผมนั่งมองแผ่นดินไต้หวันจากช่องหน้าต่างเล็กๆ ของเครื่องบิน ที่จอดนิ่งที่สนามบินถึง 2 ชั่วโมง ดีที่ สาวไทยซึ่งเป็นโฮสเตสของสายการบินตะวันตก นำไวน์มาให้ดื่มแก้เหงาหลายแก้ว

หรืออีกครั้งหนึ่ง เลขาคนเดิมเธอบอกว่าเธอจองโรงแรมโรแมนติกริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ตรงข้าม Canary Wharf อันเป็นที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ของ The Mirror Group ซึ่งคณะของเราตั้งใจไปดูระบบการจัดการระบบภาพข่าวของหนังสือพิมพ์รายวันอังกฤษ แต่ดูเหมือนเอกสารการจองจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ไปถึงไหน นับว่าโชคยังดีที่โรงแรมแห่งนี้ว่าง เราเลยได้พักและทดลองชิมไวน์แอฟริกาใต้ริมแม่น้ำเทมส์ ฉลองตำแหน่งประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ในครั้งนั้น ท่ามกลางอากาศที่เริ่มต้นเย็นยะเยือก และค่อยๆ อบอุ่นขึ้น ดูเหมือนจะแปรตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นในเลือด ยิ่งค่ำบรรยากาศยิ่งเร้าใจ ปรุงด้วยเสียงเพลงร่วมสมัยจากแกรนด์เปียโน

การเดินทางเที่ยวนิวซีแลนด์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่พาลูกชายจอมซนไปเที่ยวต่างประเทศ คนโต 9 ขวบ คนเล็กเพิ่งจะ 7 ขวบ เป็นความกล้าหาญพอสมควร โดยไม่เชื่อฟังคำทักท้วงของเพื่อนฝูง ที่ว่าพาลูกชายยังเล็กไปเที่ยวต่างประเทศหลายวัน จะทำให้เราเหนื่อยแทบขาดใจ ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีนัดหมายไปเยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนหาโรงเรียนให้ลูกเรียน หลังจากจบประถมศึกษาในเมืองไทย ฝรั่งสนเท่ห์กันไม่น้อยทีเดียว มีด้วยหรือคนไทยที่เตรียมการเรื่องนี้ก่อนล่วงหน้าถึง 3 ปีเต็ม เราได้ติดต่อครูใหญ่ ทาง E-mail นัดหมายวันและเวลาที่แน่นอนไว้ล่วงหน้าแล้ว แม้ว่าจะพยายามจัดโปรแกรมให้สะดวกในการเดินทางมากที่สุด แต่จะหาโปรแกรมทัวร์ใดมาตอบสนองความยุ่งเหยิงนี้ได้

เป็นครั้งแรกที่ผมต้องขับรถเอง ในที่ที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย หลังจากตัดสินใจอยู่นาน ปกติอยู่เมืองไทยไม่ชอบขับรถไปไหนไกลๆ อยู่แล้ว อ้างว่าอายุมาก ขับรถนั่งนานๆ มักจะปวดหลังและคอ แต่คราวนี้ใจอยากจะท้าทายชีวิตดูบ้าง ทั้งๆ ก่อนเดินทางไม่กี่วัน อาการปวดคอกำเริบขึ้นมา

ผู้อ่านที่อ่านหนังสือ "หาโรงเรียนให้ลูก" มาแล้ว คงได้เห็น ภาพคนที่คิดอ่านจะหาโรงเรียนมัธยมในต่างประเทศให้ลูกอย่างผม ทำเรื่องยุ่งชะมัด ต้องลงทุนหาข้อมูลมากมายไปทั่วโลก เรียนด้วย ความสัตย์ว่า หะแรกไม่คิดจะเขียนหนังสือออกมาขาย เพียงเพราะ อยากรู้จริงๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ โรงเรียนที่ผมตั้งใจไปเยี่ยมชมในนิวซีแลนด์ ย่อมได้มาจากกระบวนการค้นคว้าที่ว่านั้น อย่าให้บอก เลยครับว่ามีโรงเรียนอะไรบ้าง เอาเป็นว่าผมชอบเกาะใต้ โรงเรียนทั้ง 5 แห่งที่ผมและครอบครัวตระเวนดูจึงอยู่รอบๆ เกาะใต้ ที่สำคัญเป็นโรงเรียนชายและเป็นโรงเรียนประจำ ด้วยเหตุผลกลใดอ่านจากหนังสือเล่มนั้น คงมีคำตอบให้บ้าง

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก จากข้อมูลของโรงเรียน ต่างๆ ที่ผมได้มาก่อนจะเดินทางไป ได้ถกกับภรรยา ไว้หลายแง่มุมนั้น ความเป็นจริงของโรงเรียนทุกโรงที่เราไปเยี่ยมชม ล้วนเป็นไปดังภาพที่วาดไว้ในหัวก่อนเดินทางทั้งสิ้น เพียงมีรายละเอียดมากขึ้น มีสีสันเพิ่มขึ้น และเข้าใจมากขึ้น

มันจะสนุกอะไรเล่า กับการเดินทางท่องเที่ยว โดยศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางมากมาย แทบจะเห็นภาพนิวซีแลนด์ทุกซอกมุมเช่นนั้น

ผมคิดว่ายิ่งเมื่อท่านผู้อ่านรู้เรื่องกระบวนการ แสวงหาข้อมูลของผม เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว ครั้งนี้จากนี้ไปโดยละเอียด อาจจะทำให้คำถามในย่อหน้าก่อนยิ่งดังขึ้นอีกหลายเท่า

ผมเริ่มต้นอุดหนุนหนังสือสารคดีท่องเที่ยวของไทยเกือบทุกเล่ม ที่เขียนเรื่องไปเที่ยวนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะการขับรถเที่ยว เริ่มตั้งแต่งานเขียนเก่าที่เคยพิมพ์ในนิตยสารแพรว หนังสือ "ขับรถเที่ยวไปในนิวซีแลนด์" ของสันต์ ยอดใจศิลป์ "เที่ยวไปกินไป" ของพลเอกโอภาส โพธิแพทย์ ไปจนถึง "ยกครอบครัวเที่ยวเมืองกีวี" ของไมตรี ลิมปิชาติ ฯลฯ ผมได้ความคิดอย่างหนึ่ง มุมมองของคนไทยต่อประเทศนี้คล้ายๆ กัน หนังสือส่วนใหญ่ให้ภาพความสวยงามทางธรรมชาติด้วยสำนวนที่ดี

ผมรู้ดีว่า นี่คืองานประเภท "เรื่องแต่ง" (Fiction) เป็นมุมของแต่ละคนกับภาพที่เห็น ผมเชื่อว่าภาพเหล่านี้แม้จะเป็นสถานที่เดียวกัน แต่ภายใต้เวลาที่ต่างกัน มุมมองแต่ละคน ย่อมไม่เหมือนกัน เหมือนนิยายที่ทำเป็นละครทีวีบ้านเรา ส่วนใหญ่ใช้ฉากประเทศไทย เป็นพื้นฐานของความเป็นจริงอย่างกว้างๆ เป็นฉากของเรื่องแต่งที่ดำเนินไป เรื่องราวของผมซึ่งท่านผู้อ่านกำลังอ่านอยู่นี้ อาจจะนับรวมเป็นเรื่องแต่ง (Fiction) ทำนองนี้ด้วยก็ได้

อย่างไรก็ตาม ผมได้บทเรียนบางประการที่ไม่ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง จาก หนังสือประเภทนี้บ้างเหมือนกัน ผมรู้ว่าต้องใช้ขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูปทั้งครอบครัว เพราะหาช่างภาพสมัครเล่นจากประเทศที่มีประชากรไม่ถึง 4 ล้านคนลำบากพอใช้ จากหนังสือของไมตรี ลิมปิชาติ ผมพาลูกไปดูแมวน้ำ (seal) ริมทะเล ระหว่างทาง จาก Blenhiem ไป Kaikoura ซึ่งหนังสือท่องเที่ยวของฝรั่งไม่พูดถึง จากหนังสือของสันต์ ยอดใจศิลป์ รถของเราแวะดูเป็นคันแรก สักพักรถของนักท่องเที่ยวฝรั่งหลายคันก็แวะดูบ้าง

แน่นอน ผมต้องอ่านหนังสือที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกถือกันว่าเป็นคัมภีร์ ไม่ว่า Lonely Planet ซึ่งเป็นของบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในออสเตรเลีย โดยก่อตั้งหลังจากสองสามีภรรยาเชื้อสายอังกฤษ ที่เดินทางด้วยวิธีประหยัดจากเกาะอังกฤษ มาถึงออสเตรเลียเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว, DK Eyewitness Travel Guide และ The Rough Guide ของอังกฤษ ซึ่งอยู่ในเครือข่ายสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ Inside Guide ของเยอรมันที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ หนังสือเหล่านี้ เป็นผลผลิตมาจากความคิดที่คล้ายกัน ซึ่งแตกต่างจากหนังสือแนวท่องเที่ยวของ ไทยอย่างสิ้นเชิง พวกเขาพยายามสร้างข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวที่อ้างอิงได้ ไม่ใช่ Fiction หากเป็นเรื่อง Non-Fiction โดยเฉพาะมีข้อมูลต่างๆ สำหรับผู้ที่ประสงค์ จะเดินทางท่องเที่ยวเอง ซึ่งนับว่าเป็นหนังสือที่ขายดีในโลกประเภทหนึ่ง ที่น่าแปลก เดี๋ยวนี้คนไทยเที่ยวเมืองไทยเอง ยังต้องใช้หนังสือพวกนี้ที่พูดถึงเมืองไทยเลย

แม้จะเป็นเรื่องของข้อมูล แต่เรื่องเหล่านั้นล้วนมาจากความคิดความเชื่อของผู้เขียนด้วย ผมคิดว่าข้อมูลสถานที่พักหรือร้านอาหาร ซึ่งบรรดาหนังสือเหล่านี้ยกมาไว้ เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ และตัวอย่างเท่านั้น ประสบการณ์ของเราบอกเช่นนั้น

วันหนึ่งฝนตกโปรยปราย และลมค่อนข้างแรง เดิมมีแผนจะไป Invercargill เมืองท่องเที่ยวทางใต้สุดของนิวซีแลนด์ แต่เนื่องจากอากาศไม่ดี เราเลยเปลี่ยนแผนเดินทางเข้า Dunedin ทันที ระหว่างทางแวะทานอาหารกลางวัน ที่ Gore เป็นเมืองที่ มีผู้คนเพียง 8,500 คน อยู่เหนือขึ้นมาไม่ไกลจาก ฝั่งทะเลตะวันออกมากนัก นับเป็นโชคอย่างหนึ่ง ในเย็นวันนั้นมีข่าวทางทีวีว่า พายุกระหน่ำ Invercargill อย่างหนัก แม้แต่นกยังตายเป็นเบือ เราแวะทานอาหารกลางวันที่ Gore ขณะฝนตกหนักพอควรในร้านที่ Lonely Planet แนะนำไว้ แม้แต่ป้ายหน้าร้านยังโฆษณาไว้ด้วย ในความเห็นของเรา ทั้งบริการและรสชาติก็แสนจะธรรมดา เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในลิสต์ของ Lonely Planet

อย่างไรก็ตาม ขอยอมรับว่า หนังสือของ ฝรั่งมีส่วนช่วยให้ผมกำหนดโปรแกรมการท่องเที่ยวได้จากแผนที่ ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว และที่พัก ฯลฯ เราทำโปรแกรมท่องเที่ยวระยะเวลา 15 วัน ซึ่งมีทั้งเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสลับกับ การเยี่ยมชมโรงเรียน เป็นช่วงๆ ตามนัดหมาย โปรแกรมการเดินทางของเรา ตั้งใจไว้ว่าจะเดินหน้าเป็นวงรอบๆ เกาะใต้ โดยเริ่มต้นจาก Christchurch แล้ววนมาจบที่ Christchurch จะพยายามไม่ให้เดินทางย้อนกลับในเส้นทางที่ผ่านไปแล้วอีก แต่เนื่องจากเรามีนัดหมายโรงเรียนตามเมืองต่างๆ ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้น เราจำเป็นต้องเดินทางย้อนบ้าง ซึ่งมีเพียงช่วงเดียว ระหว่าง Fox Glacier ธารน้ำแข็งหลายล้านปี จุดหมายปลายทางยอดนิยมของการท่องเที่ยวประเทศนี้กับเมืองฝั่งตะวันตกที่ใหญ่ที่สุด และผู้คนที่ฐานะดีที่สุดในฝั่งนี้ Greymouth สถานที่ทั้งสองห่างกันไม่ถึง 200 กิโลเมตร จากเส้นทางของการเดินทางทั้งสิ้น 2,844 กิโลเมตร ของเรา ดูเหมือนเลขแปดอารบิก

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในหนังสือฝรั่งก็ยังไม่เพียงพอสำหรับผมอยู่ดี โดยเฉพาะข้อมูลอย่างชัดเจนของที่ตั้งโรงเรียน ซึ่งหาไม่พบจากแผนที่ ในหนังสือเหล่านั้น อีกเรื่องหนึ่ง ผมคิดว่าข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเลือกที่พักระหว่างทาง ทั้งๆ เพื่อนฝูงผู้มีประสบการณ์ หรือหนังสือหลายเล่มพยายามบอกว่าประเทศนี้มีที่พักให้เลือกอย่างเหลือเฟือ รวมทั้งการตัดสินใจเลือกที่พักจริง จะเกิดขึ้นที่โน่นก็ตาม แต่ผมต้องการรู้ข้อมูลให้แน่ใจก่อนการเดินทาง ด้วยนิสัยของคนไม่ค่อยเชื่อใจใครง่าย นอกจากตนเอง

ตอนแรกผมไม่คิดว่าอินเทอร์เน็ต จะช่วยให้ผมหาแผนที่โรงเรียนได้ ครั้นขอจากโรงเรียนก็ได้คำตอบว่า เมื่อมาถึง เมืองนั้น ขอให้มาถามทางที่ "i" (Visitor Information) มีสัญลักษณ์อักษรภาษาอังกฤษ "i" เด่นเห็นชัดในทุกเมือง ไม่ว่า เมืองเล็ก เมืองใหญ่ แม้แต่หมู่บ้าน 300 คน ยังมี "i" ซึ่งเป็นแบบที่ไม่มีเจ้าหน้าที่บริการ มีเพียงข้อมูลและสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป เช่น ห้องน้ำ และที่พักนั่งเล่น โดยเรียกว่า i Kiosk ต้องยอมรับว่าเป็นสถานที่ให้ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างดีในทุกเรื่อง ดังนั้นเมื่อพิสูจน์ได้ความจริงเช่นนี้ ทุกครั้งเราไปถึงเมืองต่างๆ ของนิวซีแลนด์ สิ่งแรกที่ทำ ต้องแวะที่ "i" ก่อนเสมอ แม้ว่าจะเพียงหาห้องน้ำ หรือหาร้านขาย Fish'n Chip อาหารฟาสต์ฟู้ดมีชื่อของชาวกีวีซึ่งลูกชายทั้งสองชอบก็ตาม

ผมยืนยันความคิดอย่างหนักแน่นว่า ต้องการข้อมูลก่อนเดินทาง และที่สำคัญต้องการรู้ว่าโรงเรียนอยู่ตรงไหนของเมือง ผมจึงใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหา website สั่งซื้อแผนที่นิวซีแลนด์ฉบับละเอียด

"ความผิดหวัง" บ่อยครั้งเป็นผลสรุปของการรอคอยอย่างตื่นเต้น ผมไม่คิดว่าหน่วยงาน AA (Auto Association) ของนิวซีแลนด์ที่ผมสั่งซื้อแผนที่ฉบับ ละเอียด จะครอบคลุมโรงเรียนในเมืองสำคัญๆ ของเกาะใต้เพียง 2 แห่ง จากทั้งหมด 5 แห่งตามโปรแกรมของเรา ดูแล้วแผนที่ละเอียดของเมืองซึ่งถือเป็นเมืองที่เล็กๆ ของโลก ครอบคลุมพื้นที่เฉพาะใจกลางเมืองเท่านั้น ผมไม่ละความ พยายาม ใช้เวลาค้นหาจากอินเทอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ได้แผนที่ละเอียดครบถ้วน โดยไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อโดยตรง

การศึกษาเรื่องที่พัก ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของผม มันเป็นความท้าทายของการแสวงหา โดยตั้งใจไว้แต่แรกเลยว่าจะไม่พักโรงแรม ซึ่งเคยพักมาแล้วในการเดินทางไปต่างประเทศนับสิบครั้ง ตั้งแต่โรงแรมซอมซ่อในหลวงพระบาง จนถึงโรงแรมหรูหราบนถนน Fifth Avenue ผมให้เหตุผลกับตนเองและภรรยาว่า เป็นกระบวนการจัดสรรประสบการณ์หลากหลายสำหรับบุตรของเรา

ที่พักของนิวซีแลนด์มีหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่ YHA B & B Motel Farmstay Motor Lodge จนถึงโรงแรม ตามแผนเดิมกะว่าจะพยายามหาที่พักชนิดต่างๆ อย่างหลากหลาย เพื่อให้แน่ใจในความคิดนี้ หลังจากเปิดหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ เห็นว่าค่อนข้างเสียเวลามาก ผมจึงสั่งซื้อหนังสือทางอินเทอร์เน็ตที่ให้รายละเอียดมากกว่านั้นมา 2 เล่ม Jesons Motel & Motor Lodges 2002 กับ Bed & Breakfast Book 2002 ความจริงหนึ่งในนั้นเป็นหนังสือแจกฟรีตาม Motel ต่างๆ แต่เมื่อผมสั่งทางอินเทอร์เน็ตจึงต้องเสียค่าส่งบ้าง คนที่ซีเรียสในเรื่องข้อมูลอย่างผม ย่อมจะต้องลงทุนบ้างเหมือนกัน

การศึกษาข้อมูลที่พักของผมเน้นหนักเมือง 5 แห่ง ที่โรงเรียนตั้งอยู่ โดยพิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวก และราคา ทั้งนี้ต้องอยู่ใกล้โรงเรียนมาก ที่สุด ผมรู้สึกพอใจกับแผนการนี้ไม่น้อย เรามักจะมา ถึงที่พักเป้าหมายในตอนบ่าย โรงเรียนกำลังเลิก เราได้เห็นภาพมากกว่าการเยี่ยมชมโรงเรียนอย่างเป็นทางการ นักเรียนกำลังกลับบ้าน การรับส่งนักเรียนโดยรถโรงเรียนของเมืองและผู้ปกครองที่ดูไม่จอแจเหมือนบ้านเรา ตลอดจนกิจกรรมหลังเลิกเรียน

วันหนึ่งใน Oumaru เมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก เป็นที่ชมนกเพนกวินด้วย Motel ที่เราพักอยู่ติดสนามของโรงเรียน เป็นสนามสองแห่งสองฟากถนนที่ใหญ่เท่ากับไม่น้อยกว่า 4 สนามฟุตบอล มีคนบอกว่าเป็นสนามของเมืองหนึ่งในหลายแห่ง เผอิญสองแห่งนี้ที่ติดกับโรงเรียน จึงให้โรงเรียนบริหาร ผมเห็นเด็กนักเรียน 2-3 กลุ่มมาเล่นกีฬา ทั้งฟุตบอลและรักบี้ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเล่นกีฬายามว่างของที่นี่ จะต้องมีผู้ฝึกสอนอยู่ด้วยเสมอ แม้จะเป็นการเล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกายธรรมดา ผมเข้าใจว่า กีฬามีความหมายมากกว่าการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง หากต้องการการเล่นกีฬาที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งฝึกคนให้มีวินัยและเคารพกติกาด้วย

บทสรุปของที่พัก คือไม่มีบทสรุป มีเพียงเราตัดสินใจจองที่พักในวันแรกที่ไปถึง ริม Lake Tekapo เท่านั้น เรามาถึงแผ่นดินนิวซีแลนด์ที่สนามบิน Christchurch โดยไม่แวะพักที่เมืองนี้ เริ่มขับรถตะบึงไปตรงกลางเกาะใต้ทันที เผอิญเป็นวันเสาร์ อ่านหนังสือมาหลายเล่มได้ข้อมูลว่า Lake Tekapo เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่พักมักเต็ม ซึ่งก็เป็นจริง ขนาดผมจองผ่านอินเทอร์ เน็ตล่วงหน้าเป็นเดือน ที่พักเต็มเกือบทั้งหมด มีที่ว่างอยู่แห่งเดียว คือบ้านพักเยาวชน YHA ผมซึ่งเลยวัยเยาวชนแล้ว จำต้องสมัครเป็นสมาชิก YHA ทาง อินเทอร์เน็ตเสียเงิน 30 เหรียญนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นจึงสามารถจองที่พัก ล่วงหน้าสำหรับวันแรกของการเดินทางท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 60 เหรียญนิวซีแลนด์ ซึ่งถือเป็นที่พักราคาถูกที่สุด คืนแรกคืนเดียวของการ เดินทาง

ว่าไปแล้วที่พักของ YHA กะทัดรัด เป็นอาคารชั้นเดียว ก่อสร้างโดยเทคโน โลยี Prefabrication สามารถยกขึ้นรถโยกย้ายได้ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบในทำเลที่ดีที่สุดก็ว่าได้ แม้ว่าจะเป็นที่พักไม่หรูหราเท่าโรงแรม แต่ก็ถือว่ารัฐให้ความสำคัญสำหรับ NGO และเยาวชน เราพักห้องเล็กๆ ซึ่งมีหน้าต่างมองเห็นทะเล สาบที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขา Southern Alps โดยยอดเขาหนึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกที่เรียกว่า Mt.Cook อยู่ตรงกลางเฟรม มุมหนึ่งของห้องมีเตียงสองชั้นสำหรับบุตรทั้งสอง ในวันที่อากาศหนาวมากวันหนึ่งในช่วงต้นของการเดินทาง ทริปนี้ เราหา Heater แทบไม่เจอ มันเป็นกล่องเล็กๆ อยู่มุมห้อง เราจะต้องตื่น มาแทบทุก 2 ชั่วโมงเพื่อเปิดเครื่อง เป็น Heater ชนิดกระเป๋า ระบบเปิดด้วยมือ แต่ระบบปิดแบบอัตโนมัติ ด้วยปรัชญาประหยัดพลังงาน

เราผ่านคืนแรกที่แสนเหนื่อยอ่อนไปได้อย่างตื่นเต้น ตื่นเช้าภรรยาผมเข้าครัวทำมาม่าที่แอบซ่อนมาจากเมืองไทย ทานกันอย่างอร่อย ภายในห้องอาหารรวม ท่ามกลางเพื่อนใหม่หลายคนที่มีทั้งเด็กสาววัยรุ่นจากญี่ปุ่น จนถึงสองสามีภรรยาชาวออสซี่ผู้อาวุโส ที่แนะนำการใช้ชีวิตใน YHA ให้เรา เป็นเช้าที่พวกเขาดีใจ ที่สามารถมองเห็นหิมะบนยอด Mt.Cook เป็นวันแรก หลังจากเมฆปกคลุมมาหลายวัน สำหรับเราถือว่าเป็นโชคดีที่มาวันแรกก็ได้ดูหิมะบนยอด Mt.Cook

ที่พักส่วนใหญ่ของเราจากนั้น เราตัดสินใจเลือก Motel ที่มีความอิสระ กว้างขวาง ทำครัวเองได้ ภรรยาของผมมีความสุขในการชอปปิ้ง และการทำอาหาร เธอบอกว่าการเข้า Supermarket เป็นการศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ที่ลึกซึ้ง ผมเชื่อเช่นนั้น ส่วนผมได้มีโอกาสเรียนรู้ไวน์นิวซีแลนด์ ในวันแรกๆ ซื้อไวน์ผิดหลายขวด คิดว่าเป็นไวน์นิวซีแลนด์ แต่กลับผลิตที่ออสเตรเลีย ผมจึงต้องเสียเวลาดื่มไวน์ที่ซื้อผิดมานี้ทุกวัน จนถึงวันเดินทางกลับทีเดียว

เทคนิคการเลือก Motel ของเรา เริ่มต้นจากหนังสือที่ผมสั่งมาจากอินเทอร์เน็ต อ่านมาแล้วจากบ้านโดยเลือกที่คิดว่าใช้ได้ไว้ 4-5 แห่ง เมื่อไปถึงก็เข้าไปดูของจริง หากพอใจก็ตกลงทันที ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งเราดูเพียงครั้งเดียว พึงสังเกต Motel ในนิวซีแลนด์มีระบบมาตรฐานหลายอย่างรับรอง ผมเองให้ความสำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะดูว่าเป็น เครือข่าย (Chain) ที่มีชื่อเสียง หรือได้ Qualmark กี่ดาว รวมจนถึงดูว่ามีเคเบิลทีวี (Sky TV) หรือไม่ ในรายการหลังมีเรื่องที่ลึกซึ้ง กว่าที่ผมคิดไว้อีก หลังจากเราพักมาหลายคืน บุตรชายทั้งสองของเราชอบดูการ์ตูนจาก Sky TV มาก เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องใหม่กว่า UBC เมืองไทย เขาทั้งสองได้บทสรุปว่า Sky TV ในแต่ละ Motel ไม่เหมือนกัน บางแห่งมีช่องน้อย ซึ่งไม่มีการ์ตูน ดังนั้นต่อมาเมื่อเราเข้าชมห้องก่อนตัดสินใจ บุตรชายทั้งสองจะรี่เข้าไปเปิดทีวีดูก่อน ความพอใจของเขาในเรื่องนี้มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการเลือกที่พักในเวลาต่อมา

มีเรื่องรื่นรมย์ในการเรียนรู้อยู่อีกบางเรื่องจะเล่าให้ฟัง โดยเฉพาะการใช้อินเทอร์เน็ตช่วยในการวางแผนการท่องเที่ยว ผมคิดว่ามีประโยชน์ไม่น้อย เราสามารถหารถเช่าในอัตราที่ถูกได้ ด้วยการจองทางอินเทอร์เน็ต เราเรียนรู้ในการศึกษาและจองเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ สมัครรายการสะสมไมล์ให้บุตร ดูภาพที่นั่งของเครื่องบินในรุ่นที่เราใช้เดินทาง ที่นั่งมีทีวีจอเล็กในชั้นประหยัดหรือไม่ รายการอาหาร รวมทั้งการเช็กอินผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้เราได้ที่นั่งที่ต้องการ เมื่อเราได้เลขที่นั่งทันทีในการจองผ่านอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเปิดดูผังการจัดที่นั่ง ภาพในหัวของที่นั่งของเราเกิดขึ้นก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ดูแล้วไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร แต่สำหรับผมแล้ว มันตรงกันข้าม

แม้ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินไม่มีเรื่องรื่นรมย์ในการเรียนรู้เท่ารถไฟ อย่างที่นักเขียนสารคดีมีชื่อเสียงระดับโลก Pual Theroux ว่าไว้ ซึ่งผมเห็นด้วย ผมรู้สึกว่าที่นั่งชั้นประหยัดมันแคบลง แม้ว่าจะนั่งข้างบุตรที่ตัวเล็ก อาจจะเป็นไปได้ว่าอายุมากขึ้น ผมรู้สึกว่าการเข้าห้องน้ำเป็นเรื่องทรมานกับการรอคิวที่นาน ผมได้แต่บอกตนเองว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อผมเดินทางด้วยคองคอร์ด จากสนามบินฮีทโธรว์จากลอนดอน เข้าสู่นิวยอร์ก ติดตามสนธิ ลิ้มทองกุล ไปรับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ที่ Hartwick College ที่นั่งทุก ที่นั่งของเครื่องบินเป็นชั้นหนึ่ง ซึ่งก็ดูแคบเหมือนกับชั้นประหยัดนี่ล่ะสำหรับบุตรชาย เขารู้สึกตรงกันข้าม การเดินทางด้วยเครื่องบินครั้งแรกของเขาสนุกสนานมากกับการเล่นเกมในจอเล็กๆ บนเครื่อง

จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าผมจะมีข้อมูลมากมายเพียงใด แต่ยังมีเรื่องอีกมากมายได้เรียนรู้ รวมทั้งมีประสบการณ์ตื่นเต้นหลายครั้งหลายหน

เราพบผู้คนมากมายที่พร้อมจะสนทนากับเรา ไม่ใช่เพียงหน้าที่อย่างครูใหญ่หรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนหลายแห่ง พวกเขาและเธอให้การต้อนรับอย่างเต็มใจ แม้วันนั้นจะเป็นวันหยุดของบางโรงเรียน ในช่วงเวลานั้นครูนิวซีแลนด์กำลังต่อสู้เรียกร้องผลตอบแทนมากขึ้น ด้วยการหยุดประท้วงเป็นช่วงๆ บางโรงเรียน เราได้เข้าไปในห้องขณะกำลังมีการเรียนการสอน คุยกับครูผู้สอนและนักเรียนอย่างเป็นกันเอง ตลอดจนเข้าไปในหอพักทั้งผู้ชายและผู้หญิง สนทนากับนักเรียนไทย นักเรียนต่างชาติ

เราได้รู้จักผู้จัดการ YHA ที่เข้ามาปลุกเรากลางดึก เนื่องด้วยเราเข้าพักโดยไม่ได้ลงทะเบียนด้วยการขอโทษขอโพย เขาเป็นชาวดัชต์ที่อยู่นิวซีแลนด์มากกว่า 20 ปี โดยเฉพาะเคยอยู่เมืองที่โรงเรียนหนึ่งของเราตั้งอยู่ เจ้าของ Motel ที่ Nelson กุลีกุจอหาเบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งอาสาจะติดต่อครูใหญ่โรงเรียนแถวนั้นให้ เมื่อรู้ว่าเรามีความประสงค์จะเยี่ยมโรงเรียน เราเองไม่กล้าบอกว่าติดต่อไว้แล้ว ความกระตือรือร้นของเขา จนเราบอกไม่ทัน แม้กฎหมายในนิวซีแลนด์จะห้ามปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อยู่ตามลำพัง เราขอให้เจ้าของ Motel ที่ Blenhiem ดูแลบุตรชั่วคราว เนื่องด้วยสองสามีภรรยาจะไป Vineyard Tour ซึ่งบุตรทั้งสองไม่ยอมไปด้วย เธออาสาด้วยความเต็มใจ ฯลฯ

การเดินทางทุกครั้งมีความหมายมากกว่าที่คิดไว้เสมอ เช่นเดียวกับครั้งนี้ มิตรภาพของคนต่างเผ่าพันธุ์ ที่เราอาจไม่ได้รับหากเรากักตัวเองอยู่ในประเทศของเรา ในยุคที่โลกเชื่อมเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใด เราเข้าใจธรรมชาติและแรงบันดาลใจแห่งการเรียนรู้บุตรทั้งสอง ผมและภรรยามีโอกาสชอปปิ้งน้อยมาก เพราะไม่อยากให้เราไป เขาต้องการเห็นโลกกว้างที่มากกว่าห้างสรรพสินค้า เลยทำให้เราเสียเงินซื้อของน้อยมากในการเดินทาง ทริปนี้ พวกเขาต้องการผจญภัยในชีวิตมากกว่าผมที่มีอายุแล้ว การเดินเท้า 2 ชั่วโมง ไปชมธารน้ำแข็งโบราณ เพื่อสัมผัสของจริงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับ เขาที่ผมต้องฝืนทน หลายรายการที่เราต้องการเพียงชมห่างๆ แต่ลูกของเราต้อง การเข้าถึงสิ่งนั้นอย่างใกล้ชิด ในบางขณะไม่รู้จะไปไหน ทั้งสองบอกว่าต้องการเข้าสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ปีนได้ก็พอแล้ว

ชีวิตที่ต้องการผจญภัย และเรียนรู้จากของจริง เราทำใจต้องปล่อยบุตรชายคนโต 9 ขวบ ขับ Luge รถชนิดหนึ่งที่อาศัยการบังคับด้วยมือเรียนรู้ด้วยตนเอง จากคำอธิบายเบื้องต้นของฝรั่ง จากยอดเขา Bob's Peak ใน Queenstown เวียนไหลลงสู่เบื้องล่างตามลำพัง ซึ่งส่วนใหญ่เรามองไม่เห็น เมื่อลงเบื้องล่างแล้ว เขาเห็นมีวัยรุ่นจำนวนมากขึ้นมากับ chair lift ซึ่งคล้ายๆ กระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปที่ยอดเขาอีกครั้งหนึ่ง chair lift เป็นเพียงเหล็กห้อยเหมือนเชือกแบบตัวที ปกติใช้กับการเล่นสกี ซึ่งต้องขึ้นลงตามยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ chair lift นั่งได้เพียง 1-2 คนเท่านั้น แต่เนื่องจากยอดเขา Bob's Peak สูงชัน ต้องมีเหล็ก ดึงลงมาคร่อมตัวไว้เพื่อความปลอดภัย บุตรของเราไม่ทันสังเกต เขาเพียงนั่งห้อยขาอย่างน่าหวาดเสียว เราเองก็ตกใจมาก แต่แล้วผู้ดูแลต้องหยุดกระเช้า chair lift อย่างกะทันหัน นักท่องเที่ยวตกอกตกใจกันพอประมาณ เขาตะโกนให้บุตรของเราดึงเหล็กคร่อมตัวลงมา ความจริงแล้วคนที่ซื้อตั๋วชนิดหลายรอบจึงจะใช้บริการ chair lift ซึ่งสามารถห้อย Luge ขึ้นไปด้วยแล้วขับ Luge ลงมาอีกครั้ง

อีกครั้งหนึ่ง ค่ำวันหนึ่งใน Motel ที่ Franz Josef พริกไทยซึ่งเป็นของประจำที่ขาดไม่ได้ตามมาตรฐาน Motel นิวซีแลนด์ถูกใช้จนเกลี้ยง บุตรชายของเรากล้าอาสาไปขอพริกไทยจากเจ้าของ Motel ด้วยตนเอง แม้ว่าเขาเป็นนักเรียนประถมปีที่ 4 ที่ภาษาอังกฤษยังใช้งานไม่ได้ในระบบโรงเรียนไทย แต่เขาก็ทำสำเร็จ

มันเป็นกระบวนการเรียนรู้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนผม แม้ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไรเลย สำหรับผู้อ่านหรือใครก็ตาม แต่สำหรับเขามันอาจเป็นโอกาสที่สำคัญมาก ที่บิดามารดาควรเข้าใจ และเปิดโอกาสให้อย่างกว้างขวาง

มันช่างเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับระบบโรงเรียนในบ้านเรา ที่ผู้ปกครอง และโรงเรียนเห็นพ้องต้องกัน โดยจับเด็กจำนวนมากยัดไว้ในห้องเรียนสี่เหลี่ยม ทั้งในเวลาเรียนปกติและเวลาเรียนไม่ปกติอีก ประหนึ่งว่าการจมปลักอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนานเท่าใด จะทำให้เรียนรู้มากขึ้น

ผมได้คิดว่า ไม่ใช่ตัวเองเท่านั้นที่มีความรื่นรมย์ที่เรียนรู้ แต่มันเป็นกับมนุษย์ทุกคน เพียงแต่ว่าพวกเขาและเธอ ส่วนไม่น้อย ถูกครอบงำและปิดกั้นการเรียนรู้จักคนอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.