ส่งเสียงเบาๆเพราะจะเอาไปร้องคาราโอเกะ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(11 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

โซเคนส่งผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมโฆษณาเปิดแนวรบตลาดเครื่องเล่นเอวี ทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นดีวีดีเพลย์เย่อร์และมิดิคาราโอเกะ พร้อมชูจุดขาย ถนอมเสียงไว้เพื่อจะกลับไปร้องเพลงที่มีมากมายมหาศาล

วิบูลย์ ลีภักด์ปรีดา ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ ยูโร อาร์เอสซีจี แฟลกชิพ เล่าว่าโจทย์ในครั้งนี้คือการนำเสนอเครื่องเล่นดีวีดีฟังก์ชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า มิดิ(Midi DVD) ของโซเคน อิเล็คทรอนิกส์ ที่นำเข้ามาทำตลาดเจ้าแรกในประเทศไทย โดยมีจุดเด่นที่สามารถเล่นแผ่นมิดิคาราโอเกะซึ่งบรรจุเพลงได้มากถึง 3 หมื่นเพลงในแผ่นเดียวได้ มุ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย Niche ที่ใช้งานคาราโอเกะเป็นหลัก และถือเป็นอีกเซ็กเมนต์ใหม่อันหนึ่งของตลาดรวมดีวีดีในประเทศไทยจำนวน 3 แสนเครื่อง นอกจากนี้ยังถือเป็นการฉีกหนีออกจากยุทธจักรการตัดราคาที่นับวันเครื่องเล่นดีวีดีก็ยิ่งจะถูกลงอีกด้วย

หลังจากได้ร่วมวิเคราะห์และตีโจทย์ร่วมกันทีมงานก็ได้ไอเดียการนำเสนอ 2 แนวทางด้วยกันจากจุดขายความมีเพลงให้เล่นเยะมากคือ สถานการณ์ขณะที่ได้ร้องคาราโอเกะรุ่นนี้ที่จะรู้สึกเหมือนตัวเองได้เป็นนักร้องนำและมีวงดนตรีอีกมากมายต่อคิวคอยรอเพื่อที่จะขึ้นมาบรรเลงเพลงต่อ และ เหตุการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันที่คนพยายามจะถนอมเสียงไว้เพื่อจะได้กลับมาร้องมิดิดีวีดีที่มีเพลงอยู่มากมายได้ ซึ่งเมื่อได้พิจารณาแล้วพบว่าแนวทางที่ 2 มีความเหมาะสมทั้งด้านงบประมาณและการนำไอเดียไปต่อยอดมากกว่าจึงนำมาใช้เป็นโคลงเรื่อง ภายใต้คอนเปต์ที่ว่า “เก็บเสียงไว้ร้อง มิดิดีวีดีจากโซเคนดีกว่า”

ส่วนเนื้อเรื่องตามไอเดียที่คิดขึ้นมาได้ก็มีหลายสถานการณ์เช่น ผู้หญิงซึ่งปกติจะกลัวหนูแต่เมื่อเห็นมันวิ่งผ่านกลับส่งเสียงกรี๊ดเพียงแค่เบาๆพร้อมกระโดดหนี, คนที่กำลังอยู่บนเครื่องเล่นที่เป็นเรือไวกิ้งที่แม้จะเสียวมากแต่ก็กรี๊ดเพียงแค่เบาๆเท่านั้น, คุณนายเรียกคนใช้อย่างละมุนละไมไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนที่ผ่านๆมาทำให้คนใช้สงสัย ,สถานการณ์ที่รถชนกันแต่แทนที่ทั้งคู่จะลงมาโต้เถียงกันภาพที่ได้เห็นกลับเป็นเพียงแค่การกระซิบทำให้ตกลงกันไม่ได้ซักที และ เรื่องราวของช่างติดตั้งเคเบิ้ลทีวีที่ทำงานอยู่ยอดตึกและต้องการสื่อสารกับเพื่อนที่อยู่ชั้นล่างเพื่อขอเครื่องมือแต่ก็ไม่ยอมตะโกนเพราะต้องการจะถนอมเสียงไว้ร้องคาราโอเกะ

หลังจากปรึกษากับผู้กำกับหนังและได้ลองทดสอบถ่ายทำโดยใช้กล้องวิดีโอแล้วเห็นว่า 2 เรื่องสุดท้ายมีความตลกและสมจริงสมจังที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่า จึงได้ตกลงที่นำไปถ่ายทำจริง
โฆษณาชุดนี้ใช้เวลาถ่ายทำ 2 วันโดยชุด รถชน ถ่ายทำแถวย่านตึกฟอร์จูน เนื่องจากเป็นที่ส่วนบุคคลจึงไม่ทำให้การจราจรติดขัด โดยความยากอยู่ที่ต้องทำให้มีความตลกจึงต้องมีการถายหลายเทคทั้งที่ให้ต่างคนต่างกระซิบ, กระซิบแค่คนเดียว รวมถึงให้รถเข็นขายของที่ผ่านมาเข้าไปร่วมกระซิบด้วย ส่วนชุด เคเบิ้ลทีวี นั้นก็เลือกใช้อพาร์ตเมนต์ที่มีความสูงเกือบ 10 ชั้นย่านคลองเตยถ่ายทำ รวมงบประมาณราว 5 ล้านบาท

นอกจากสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ชุดนี้แล้วยังมีสื่อ สิ่งพิมพ์และสื่อวิทยุที่กำลังจะตามออกมาสนับสนุนอีกด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.