"กรุงเทพบ้านฯ"เสือติดปีก จับมือทุนสิงค์โปร์เสริมการเงิน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

จับตา "กรุงเทพบ้านและที่ดิน" ในเครือเพอร์เฟค หลังทุนข้ามชาติ ยักษ์ใหญ่จากสิงค์โปร์ กลุ่ม"เฟร์เซอร์ แอนด์ นีฟ "เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และเชี่ยวชาญตลาดอาคารสูงระดับโลก ลุยโปรเจ็กท์แรก อาคารชุดหรูหรา ระดับ 6 ดาว ริมเจ้าพระยา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

หลังจากที่บรรดาดีเวลลอปเปอร์เจ็บปวดจากบทเรียนในอดีตในช่วงก่อนวิกฤตที่การลงทุน จะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ และยอดขายให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยไม่ได้คำนึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง พวกพ้อง และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ในที่สุดความเสียหายต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เกิดขึ้น โดยการเร่งลงทุนโดยไม่เหยียบเบรคของบรรดา ดีเวลลอปเปอร์เอง จนทำให้ทุกวันนี้ ก่อนที่คิดจะลงทุนโครงการ จะคิดอย่างรอบคอบ และไม่ลงทุนโครงการขนาดยักษ์อีก

แต่วันนี้ สถานการณ์การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ กำลังจะมีให้เห็นอีกครั้ง โดยกลุ่ม บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน ในเครือ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่จับมือกับพนธมิตรข้ามชาติ จากสิงค์โปร์ ทำโครงการขนาดมหึมา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในยุคที่ตลาดบ้านหรูหราราคาแพง โดยเฉพาะอาคารชุด ได้ก้าวเข้าสู่จุดอิ่มตัวตั้งแต่ปลายปีก่อน

โดยในช่วงปลายปีก่อน บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดินได้จับมือกับกลุ่มทุนใหญ่จากสิงคโปร์ คือบริษัท เซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในเครือเฟร์เซอร์ แอนด์ นีฟ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของสิงคโปร์ เพื่อจัดตั้งบริษัท รีเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท ในสัดส่วนเท่ากันคือ 49% ส่วนที่เหลืออีก 2% เป็นของบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท บริเวณริมแม้น้ำเจ้าพระยา

"การเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนสิงคโปร์ เนื่องจากมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะราคาอสังหาริมทรัพย์ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ผลตอบแทนจากการลงทุนค่อนข้างสูง อีกทั้งประเทศที่กลุ่มเฟร์เซอร์ฯเข้าไปลงทุนมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกา แลเอเชียแปซิฟิก ส่วนใหญ่ อยู่ตัวแล้ว มีรายได้สม่ำเสมอ ดังนั้น จึงต้องการขยายการลงทุนไปในประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน"ลิม เอ เส็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ กล่าว

สำหรับนโยบายการลงทุนในไทยนั้น จะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ หรูหรา ภายในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกผู้พักอาศัยครบวงจร ตามคอนเซ็ปต์ที่ลงทุนในสิงคโปร์ และประเทศอื่นทั่วโลก โดยโครงการที่ลงทุนร่วมกับบริษัท กรุงเทพบ้านฯ จะพัฒนาโครงการเป็นคอนโดมิเนียม ระดับ 6 ดาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการนี้จะใช้เวลาพัฒนานาน 5-6 ปี เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มีพื้นที่รวมกว่า 24 ไร่

ด้านธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ๆ แรก เป็นคอนโดมิเนียมหรูหรา ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวนประมาณ 400 ยูนิต ขนาด 100 ตารางเมตรขึ้นไป มูลค่า 5,000 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปีครึ่ง

ส่วนโครงการเฟสที่ 2 จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาว และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ริมน้ำ ส่วนเฟสที่ 3 จะเป็นช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ และอาคารสำนักงาน อยู่ด้านหน้าติดถนนพระราม 3

ทั้งนี้ การลงทุนจะค่อย ๆ พัฒนาโครงการทีละเฟส เพื่อลดความเสี่ยง หากภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยโครงการทั้งหมด จะแล้วเสร็จภายในเวลา 6-7 ปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.