"พลัสฯ" หนีไม่พ้นกำลังซื้อหด รับห้องชุดขนาดใหญ่ขายอืด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"พลัสฯหวั่นยอดขายไม่ถึงเป้าหมาย เล็งปรับสัดส่วนลงทุนโครงการอาคารชุด เพิ่มห้องขนาดเล็ก รับกำลังซื้อหดตัว หลังพบยอดขายห้องชุดขนาดใหญ่อืด เล็งผุดคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าอีก 2 แห่งในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าติดอันดับ 1 ใน 3 ของทุกเซกเมนท์ที่เข้าไปลงทุน เตรียมปรับเป้ายอดขายปี 48ใหม่ในเดือน ก.ค.นี้

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมาตรการลอยค่าน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาความไม่สงบใน 4จังหวัดภาคใต้ ตลอดจนความกดดันที่เกิดขึ้นจากเศรษฐกิจระดับมหภาค ล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบทางด้านลบที่ทำให้ภาวะเศรษฐกิจไทยผันผวน เกิดภาวะความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการในทุกกลุ่มธุรกิจต้องหาแนวทางปรับตัว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง

จากภาวะความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการต้องทบทวนแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง บมจ.แลนด์ แอนด์เฮ้าส์,บมจ.คิวเฮ้าส์ และบมจ.อารียาฯ ที่กลับลำ ยอมลดภาพลักษณ์องค์กร

จากที่เป็นแบรนด์ที่เน้นการลงทุนโครงการหรูหรา มาสู่ตลาดระดับกลางถึงล่างอย่างหมดท่า หลังจาก พบว่า ตลาดระดับล่างเป็นตลาดเดียวที่ยังมีกำลังซื้อ และมีศักยภาพในการขยายตัว

เมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้พาร์ทเนอร์ จำกัดในเครือแสนสิริ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง ภายหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งแทนยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร คนเดิมที่เพิ่งลาออกไปประกอบธุรกิจส่วนตัวว่า พลัสฯยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามนโยบายเดิม ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่บริษัทแม่เป็นผู้มอบหมายให้ดำเนินธุรกิจแบบต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยวางตำแหน่งให้ พลัสฯ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร

โดยในช่วงครึ่งปีหลัง พลัสฯ มีแผนลงทุนทาวน์เฮาส์เพิ่มอีก 3 แห่งและคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 1-2 แห่ง แผนลงทุนใหม่เกิดขึ้นหลังจาก ยงยุทธได้ยื่นใบลาออกแล้ว ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ พลัสฯ นำมาใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปรับเป้าหมายยอดขายใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พลัสฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 48 เติบโตแบบก้าวกระโดดจาก 1,150ล้านบาทเป็น 2,300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีแผนลงทุนเพิ่มเพื่อดึงยอดขาย แต่จากภาวะความเสี่ยงรอบด้านทำให้ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องปรับลดเป้ารายได้ลงหรือไม่โดยจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ค.นี้ " พลัสฯ จะไม่ลงไปเล่นตลาดล่างเหมือนผู้ประกอบการรายอื่น แต่อาจจะเลือกใช้แนวทางการออกแบบโครงการใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนห้องชุดขนาดเล็ก 40ตร.ม.มากขึ้น เพราะขายได้เร็วกว่าห้องชุดขนาดใหญ่ที่มี 2 ห้องนอน หรือ 70 ตร.ม.และเน้นเกาะตามแนวเครือข่ายรถไฟฟ้าเหมือนเช่นเดิม โดยปัจจุบัน พลัสฯทำตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน กลุ่มเป้าหมายมีรายได้เฉลี่ย 40,000-60,000 บาทต่อเดือน" เมธา กล่าว

สำหรับนโยบายหลักยังคงให้ความสำคัญ 3 ธุรกิจหลักเช่นเดิม แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในธุรกิจรับบริหารงานขายโครงการให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด ซึ่ง พลัสฯ มีเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 3 ของทุกๆเซกเมนท์ที่เข้าไปลงทุน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.