ปูนใหญ่เตรียมเปิดโต๊ะเจรจารัฐ ขึ้นราคาปูนหลังต้นทุนเพิ่มไม่หยุด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(5 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ปูนใหญ่เตรียมนำทีมร่วมมือผู้ผลิตปูนซิเมนต์ เจรจาภาครัฐขอปรับราคาปูน หลังต้นทุนทะยาน แม้พยายามคุมค่าใช้จ่ายทุกทาง ทั้งเปลี่ยนเชื้อเพลิง ควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดปริมาณสินค้าเสียหาย ด้านภาวะเศรษฐกิจเชื่อครึ่งปีหลังชะลอตัว แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงยังไม่ปรับลดเป้ารายได้ ตั้งเป้าเติบโต 10-15%

ชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนในการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทต้องหันมาใช้เชื้อเพลิงอื่น ๆ ที่มีต้นทุนต่ำกว่าน้ำมันดีเซล อาทิ ถ่านหิน น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว และแกลบ เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนลง เพราะไม่ต้องการปรับราคาสินค้าขึ้นในช่วงนี้ รวมถึงการควบคุมกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดปริมาณสินค้าเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันถ่านหินที่บริษัทนำมาใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลมีราคาสูงขึ้นตามความต้องการใช้ ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ บริษัทอาจจะร่วมกับผู้ผลิตปูนรายอื่น เพื่อเจรจากับรัฐบาลขอปรับราคาสินค้าขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะการปรับราคาสินค้า นอกจากจะปรับเพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังต้องพิจารณาจากกำลังซื้อด้วย ว่ามีความสามารถในการซื้อมากน้อยแค่ไหน หากกำลังซื้อลดลง ก็ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ผลิตรายใดจะสามารถตรึงราคาไปได้แค่ไหน

สำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ชุมพล เชื่อว่า เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัวลงแต่นับว่าอยู่ในระดับที่ดี จากปัจจัยลบที่รุมเร้าหลายปัจจัย อาทิ ราคาน้ำมัน ดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรที่เริ่มขายไม่ออก หากรัฐบาลมีวิธีกระตุ้นกำลังซื้อได้ ภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่ชะลอตัวมาก โดยรัฐบาลพยายามที่จะทำโครงการเมกะโปรเจกต์ให้เกิดขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ หากโครงการดังกล่าวเดินหน้าได้ตามนโยบาย เชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะไม่ตกต่ำมากนัก

กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในส่วนของเครือปูนฯยังไม่ได้ปรับประมาณการรายได้ใหม่ ยังคงใช้เป้าหมายเดิม คือจะมีรายได้เติบโตขึ้นราว 10-15% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจ และตลาดบ้านจัดสรรจะเริ่มชะลอตัว แต่การส่งออกยังมีแนวโน้มดี ที่สำคัญราคาปิโตรเคมีในตลาดโลกเริ่มเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับในช่วงไตรมาสแรกปีนี้แล้ว จึงเชื่อว่า รายได้รวมของเครือปูนฯจะเติบโตตามเป้า โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขายรวม 110,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% มีกำไรสุทธิ 18,718 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับธุรกิจซิเมนต์ มียอดขายรวม 20,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มียอดขายรวม 11,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เนื่องจากการก่อสร้างและการลงทุนของรัฐบาลเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้ปูนซิเมนต์ภายในประเทศสูงขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.