|
รับสร้างบ้านโชว์เทคโนโลยีใหม่ หวังดันตลาดโต15%ภายในปีนี้
ผู้จัดการรายสัปดาห์(11 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัทรับสร้างบ้านเข็นนวัตกรรมใหม่ ชูจุดขายดึงลูกค้า "อนันดา" สบช่องเปิดตัวบริษัทในเครืออย่างเป็นทางการ เล็งทำตลาดเต็มรูปแบบหวังยอดขายโต 35% ต่อปี ด้านบริษัทรับสร้างบ้านบางรายฉีกแนวทำตลาด ชูเทคโนโลยีบ้านประหยัดพลังงาน หวังภาครัฐประกาศนโยบายผ่อนปรนมาตรการบ้านประหยัดพลังงานชัดเจนในช่วงปลายปีนี้
แม้อัตราการขยายตัวของธุรกิจที่อยู่อาศัยในปีนี้จะอยู่ในภาวะที่ไม่สดใสนัก เมื่อเทียบกับรอบปีที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างไม่ลดละ ทั้งการนำกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาใช้กระตุ้นยอดขาย ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อจากผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจซื้อ อันเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่พยายามรวมตัวกัน เพื่อยกระดับและภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดตั้งสมาคมฯ ซึ่งกลายเป็นหน่วยงานสำคัญในการประสานงานระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ยังเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านให้ขยายตัวขึ้น
การจัดงาน Cool of Living ครั้งที่ 2 ขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นับเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งพยายามผลักดันให้ธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีการขยายตัวมากขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% ภายในปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกมีโอกาสในการสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ไฮไลท์ของงานจึงหนีไม่พ้นการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ในการออกแบบและก่อสร้างบ้านมาโชว์ เพื่อดึงดูดลูกค้า
บ้านประหยัดพลังงานหวังอานิสงค์นโยบายรัฐ
สมยศ เชื้อเพชระโสภณ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบ โพลาร์ โฮม กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดบ้านประหยัดพลังงานมีสัดส่วนไม่เกิน 5% ของมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้าน และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนบ้านประหยัดพลังงานของภาครัฐที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในปลายปีนี้ ซึ่งขณะนี้บริษัทเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่ทำตลาดบ้านประหยัดพลังงาน โดยนำระบบ ThermoBLOCK หรือระบบเกราะป้องกันความร้อนทุกทิศทาง และผนังป้องกันความร้อน Steelcon มาใช้ในการออกแบบและสร้างบ้านให้กับลูกค้า
แม้ว่าระบบดังกล่าวจะสามารถประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้ถึง 50-60% และมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่าบ้านที่ก่อสร้างด้วยอิฐมอญ และอิฐมวลเบา แต่บริษัทตั้งราคาขายระดับเดียวกับราคาตลาดซึ่งมีราคา 11,500-13,500 บาทต่อตร.ม. หรือคิดเป็นราคาเฉลี่ย 1.5-5 ล้านบาทต่อยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกกว่า 100 แบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 60 ล้านบาทจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปี 49 เนื่องมาจากมาตรการของภาครัฐ
ไม่ได้มีเพียงแค่ โพลาร์ โฮม รายเดียวเท่านั้นที่หันมารุกตลาดอย่างเต็มตัว ด้าน บริษัท ไวส์ คอนซัลแทนท์(ประเทศไทย) จำกัด ก็เริ่มขยายตลาดสู่บ้านประหยัดพลังงานเช่นเดียวกัน โดยนำระบบหลังคาเย็น CPAC Monier COOL ROOF SYSTEM ซึ่งเป็นระบบหลังคาเย็นที่ระบายความร้อนด้วยอากาศมาใช้ในการออกแบบบ้านใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านเย็นแนวประหยัดพลังงาน" โดยจะติดตั้งระบบดังกล่าวบริเวณใต้หลังคาแทนการติดตั้งที่ผนังบ้าน ซึ่งกันความร้อนได้น้อยกว่าการติดตั้งระบบหลังคาเย็นที่ประหยัดพลังงานได้ 20-30% แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพิ่มประมาณ 50,000-250,000 บาทต่อยูนิต
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|