|
นิวยอร์คไลฟ์ฯยอดกรมธรรม์กระฉูด ปั๊มยอดขายผ่านแบงก์"ไทยพาณิชย์"
ผู้จัดการรายวัน(24 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ปฏิเสธเป็นตัวการบีบให้พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ต้องฆ่าตัวตาย เพราะรับแรงกดดันจากธนาคารไทยพาณิชย์ ในการทำเป้ายอดขายกรมธรรม์ไม่ไหว ผู้บริหารชี้แบงก์อื่นที่เดินหน้าการเป็นแบงก์ที่ให้บริการการเงินอย่างครบวงจรก็ทำเช่นเดียวกัน คาดปีนี้มียอดขายผ่านแบงก์ไทยพาณิชย์ประมาณ 4.1 พันล้านบาท
นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ SCNYL เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่พนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ได้รับแรงกดดันในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารจนถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายว่า เชื่อว่าธนาคารไทยพาณิชย์ไม่สร้างแรงกดดันจนเป็นสาเหตุที่ให้พนักงานบางคนต้องฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่มีการดำเนินธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร (ยูนิเวลเซลแบงก์) เช่นเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์
“ธนาคารไทยพาณิชย์ทำหน้าที่เหมือนโบรกเกอร์ในการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต ซึ่งจากเดิมที่ถืออยู่ 25% ก็เพิ่มสัดส่วนเป็น 43.34% เพื่อให้สามารถควบคุมการบริหารและเสนอบริการที่ดีที่ให้ตรงตามความต้องการลูกค้าได้”
นายคาร์ดีน กล่าวว่า การขายผลิตภัณฑ์ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ พนักงานของธนาคารต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า ซึ่งหากลูกค้าซื้อกรมธรรม์ไปแล้วไม่พอใจก็สามารถคืนกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วัน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็มีน้อยมาก ดังนั้นการทำงานให้ได้ตามเป้าหมายจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสนอผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงความต้องการลูกค้า โดยปัจจุบันมียอดขายกรมธรรม์ผ่านธนาคารประมาณ 3,000 กรมธรรม์ต่อเดือน
ด้านนายอิกนาสิโอ อากีล่าร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์กับไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ด้านธนาคารไทยพาณิชย์จะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย กลยุทธ์การเสนอขาย ในขณะที่ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์จะเป็นเพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของบริษัทเท่านั้น อย่างไรก็ตามในปีนี้ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ตั้งเป้าหมายจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ให้ได้ 4.1 พันล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งป็นช่องทางการจำหน่ายที่สามารถผลิตภัณฑ์เบี้ยปีแรกมากสุดถึง 85% โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะขยายฐานตลาดสู่ลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ตามกลยุทธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์จากปัจจุบันที่มีอัตราการถือครองกรมธรรมเพียง 15% ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะรุกลูกค้ากลุ่มนี้
นอกจากนี้ ภายในสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายให้ได้เบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 48% หรือประมาณ 8.6 พันล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนข้างหน้า บริษัทจะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และออกกรมธรรม์ใหม่ๆทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว โดยคาดว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 4-5% นอกจากนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นนอกจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ได้แก่ สร้างตัวแทนให้ได้1,000 คนภายในสิ้นปี เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง และพัฒนาระบบซอฟร์แวร์ให้ทันสมัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 4,888 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 63% และบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์สามารถพลิกมาทำกำไรสุทธิได้ถึง 69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิถึง 65 ล้านบาท และขยับจากอันดับ 7 มาอยู่ที่อันดับ 4 และมีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) 5.4%
นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายสูงสุดในเครือขายของนิวยอร์คไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนลในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่ จีน อินเดีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปินส์และเกาหลี หรือคิดเป็น 34%ของเบี้ยประกันใหม่ทั้งหมดที่มีอยู่ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ได้รับเบี้ยปีแรกมากสุดถึง 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% และเมื่อรวมเบี้ยปีแรกของเครดิตไลฟ์ที่ขายผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์อีก 84 ล้านบาท ทำให้เบี้ยปีแรกของแบงก์แอสชัวรันส์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 2,520 ล้านบาท ซึ่งยอดขายติด 1 ใน 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|