เซ็นทรัล ฟูด ได้ฤกษ์เปิดธุรกิจร้านอาหารตะวันตก แบรนด์ใหม่ ต.ค.นี้ ภายใต้ชื่อ
"สเต็ก อันลิมิเต็ด" เน้นเมนูหลัก สเต็ก ราคาประหยัด วางตำแหน่งเจาะตลาดแมส
"กริลล์แอนด์มอร์" ชี้สเต็ก ราคาถูกทำได้ยาก จากต้นทุนวัตถุดิบราคาแพง ตั้งแต่เปิดร้านยังทำยอดขายไม่ได้เป้า
เตรียมปรับกลยุทธ์ใหม่ เสนอเมนูเสริมราคาถูก หวังดึงคนเข้าร้านเพิ่ม
แหล่งข่าวจากวงการฟาสต์ฟูด เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่าหลังจากกลุ่มเซ็นทรัล
ฟูด ได้ซุ่มพัฒนาฟาสต์ฟูดแบรนด์ใหม่สไตล์อาหารเวสเทิร์นมานานนับปี ในเดือนต.ค.นี้
เซ็นทรัลได้เตรียมเปิดตัวฟาสต์ฟูดดังกล่าวแล้ว โดยใช้ชื่อว่า "สเต็ก อันลิมิเต็ด"
ซึ่งจะเน้นอาหารสเต็กจากเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ และอาหารจานเดียวสไตล์ตะวันตก
ราคาระดับปานกลาง เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงาน ทั่วไป โดยจะเปิดสาขาแรกที่เอ็มบีเค
เซ็นเตอร์
ร้านสเต็ก อันลิมิเต็ดของเซ็นทรัล ฟูด เปิด ตัวในตลาดแมส ราคาปานกลาง แตกต่างจากร้านสเต็กในปัจจุบัน
ที่วางตำแหน่งสินค้าไว้ในระดับพรีเมียม ราคาสินค้าค่อนข้างแพง ทำให้อาหารประเภทสเต็กในประเทศไทยมีตลาดขนาด
เล็ก และไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค แต่จาก การเปิดตลาดร้านสเต็กของเซ็นทรัล
ฟูด จะทำให้ผู้บริโภครู้จักอาหารประเภทสเต็กมากขึ้น
เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นายแดน ชินสุภัคกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่าก่อนสิ้นปีนี้บริษัทจะขยายธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล
ฟูด ด้วยการเปิดร้านอาหารสไตล์ตะวันตกรสชาติ แบบไทยๆ อีก 1 แบรนด์ ที่พัฒนาขึ้นเอง
หลังจากได้เตรียมการมาตั้งแต่ต้นปี
การขยายร้านอาหารตะวันตกปีแรกจะเปิด 1-2 สาขาเท่านั้นเพื่อทดลองตลาดก่อนว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้าหรือไม่
คาดว่าจะใช้งบลงทุนแห่งละ 10 ล้านบาทเท่านั้น เพราะอุปกรณ์ บางอย่างจะนำมาจากร้านเบอร์เกอร์คิงที่เลิกดำเนินการไปแล้ว
โดยตั้งเป้ายอดขายหลังเปิดดำเนินการครบปีไว้ 50-60 ล้านบาท "กลุ่มเซ็นทรัล
ฟูด ถือเป็นผู้บริหารธุรกิจฟาสต์ฟูด รายใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทย ทีมปฏิบัติการของบริษัทเป็นทีมบริหารที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ
ซึ่งการทำร้านอาหารตะวันตกในครั้งนี้ ก็ใช้งบลงทุนไม่สูง" นายแดนกล่าว
ในปีนี้บริษัทวางแผนใช้งบลงทุนในกลุ่มอาหารประมาณ 100 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่ใช้งบลงทุนไปกว่า
400 ล้านบาท จากการขยายสาขาพิซซ่า ฮัทเป็นหลัก ส่วนในปี 2546 เป็น ต้นไป
บริษัทวางแผนจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท
ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัล ฟูด มีร้านพิซซ่า ฮัท 26 แห่ง เคเอฟซี 102 แห่ง
บาสกิ้น ร้อบบิ้น 42 แห่ง มิสเตอร์โดนัท 131 แห่ง แอนตี้ แอนส์ 17 แห่ง รวมทั้งหมด
318 แห่ง โดยร้านบาสกิ้น ร้อบบิ้น และ แอนตี้ แอนส์ เริ่มทำกำไรเป็นครั้งแรก
กริลล์&มอร์ชี้สเต็กราคาถูกทำยาก
นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ โออิชิ กรุ๊ป เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน"
ว่า อาหาร ประเภทสเต็กมีตลาดค่อนข้างแคบ เนื่องจากคุณภาพอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆที่นำมาปรุงเป็นสเต็กมีราคาแพง
จึงเป็นตัวกำหนดราคา อาหารสเต็กให้แพงตามไปด้วย ดังนั้น การจะทำร้านสเต็กให้เป็นตลาดแมสเหมือนฟาสต์ฟูดทั่วไปจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
การรับประทานฟาสต์ฟูดทั่วไปต่อคนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50-60 บาทเท่านั้น
แต่การรับประทานสเต็กจะสูงกว่านั้น คือตั้งแต่ 150 บาท ขึ้นไป ซึ่งการขยายสาขาร้านสเต็กในประเทศไทยก็ทำได้ยากกว่าฟาสต์ฟูดประเภทอื่นๆ
เนื่อง จากเป็นที่รู้จักเฉพาะในกรุงเทพฯเท่านั้น คนต่างจังหวัดยังไม่รู้จักอาหารประเภทนี้มากนัก
หรือจะรู้จักสเต็กในระดับล่างที่ไม่มีคุณภาพจานละ 60-70 บาทเท่านั้น
หลังจากโออิชิ เปิดร้านกริลล์แอนด์มอร์ที่จำหน่ายอาหารประเภทสเต็ก ถึงขณะนี้มียอดขายเดือนละ
6-7 ล้านบาท ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่เดือนละ 10 ล้านบาท ทำให้เมื่อต้นเดือน
ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า ใหม่ ด้วยการแยกจำหน่ายอาหารจานเดียว
ไม่จัดเป็นเซตคู่กับสเต็กเหมือนเดิม โดยลูกค้าไม่ต้องรับประทานสเต็กทุกครั้งที่เข้ามาในร้าน
จะรับประทานแค่ซุป สลัด หรืออาหารอื่นๆก็ได้ โดยมีราคาตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้าจะลดลงจาก เดิมที่ต้องจ่ายรายละ 700 บาท
จะเหลือประมาณ 500 บาท การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้รายได้จากลูกค้าลดลง 20-30%
แต่บริษัทจะเพิ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านให้มากกว่าเดิม เพื่อชดเชย รายได้ที่ลดลง
และเพิ่มยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้