แบงก์แม่บล.เจ๊ดันตัวจริงยุคแข่งดุ"กิมเอ็ง"เชื่อขึ้นผู้นำได้ด้วยชื่อเสียง


ผู้จัดการรายวัน(22 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บิ๊กโบรกฯบัวหลวง เชื่อบริษัทแม่ที่เป็นแบงก์จะเป็นฐานกำลังสำคัญช่วยหนุนธุรกิจ จนในที่สุดก้าวสู่ผู้นำธุรกิจได้ เผยที่บัวหลวงไม่กดดันอัตราการเติบโต แต่ต้องโตตามภาวะอุตสาหกรรม ขณะที่ "มนตรี-บล.กิมเอ็ง" มั่นใจ ชื่อเสียงภาพลักษณ์ช่วยย้ำผู้นำนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ระบุยังคงสัดส่วนรายได้จากนายหน้าค้าหุ้นไม่ต่ำกว่า 90%

นายปิยะพันธ์ ทยานิธิ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจหลักทรัพย์สูงขึ้น ซึ่งความได้เปรียบของการแข่งขันอย่างหนึ่ง คือ การที่บริษัทหลักทรัพย์มีบริษัทแม่ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการเเข่งขัน โดยการแข่งขันสูงขึ้นหลังจากที่บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่มีบริษัทเป็นธนาคามีการแข่งขันกันอย่างชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าในเมื่องไทยความต่างระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ที่มีฐานะลูกค้าจากการดำเนินธุรกิจด้วยชื่อเสียงของตัวเองกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะต่อยอดทางธุรกิจ ยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่ในอนาคตความได้เปรียบในเรื่อง ดังกล่าวจะเป็นเครื่องชี้วัดความประสบความสำเร็จ ในธุรกิจได้อย่างแน่นอน

"แม้ตอนนี้บล.จะมีหลายประเภท ทั้งที่มีชื่อเสียงเองจากการดำเนินธุรกิจ หรือที่มีบริษัทแม่ควรช่วยหนุน แต่สุดท้ายภาพรวมคงเป็นไปในลักษณะเหมือนในต่างประเทศที่บล.ที่มีฐานที่ช่วยหนุนจะเข้ามาทำให้สัดส่วนของมาร์เกตแชร์ของตลาดรวมเปลี่ยนแปลง และบล.ที่มีฐานของบริษัทแม่ที่เข้มแข็งจะก้าวขึ้นมาได้เอง" นายปิยะพันธ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศ อยู่ในช่วงที่ชะลอตัวลง มูลค่าการซื้อขายในตลาดที่ลดลง อาจจะส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องหารายได้จากธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้นนอกเหนือ จากรายได้ค่านายการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูงเหมือนปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในส่วนของบล.บัวหลวง จะมีการพิจารณาการเลือกธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ ของที่ปรึกษาทางการเงิน การเป็นที่ปรึกษาทาง การเงิน (อันเดอร์ไรเตอร์) อย่างมีระบบและมีการคัดเลือกลูกค้าอย่างมีมาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาคุณภาพทั้งในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ที่ดำเนินหน้าที่และธนาคารที่จะมีส่วนช่วยในเรื่องดังกล่าว

สำหรับความเชื่อมโยงระหว่างธนาคารกรุงเทพ กับ บล.บัวหลวง ตามนโยบายจะไม่มีการ บีบบังคับว่า อัตราการเติบโตของบริษัทจะเป็นอย่างไร แต่อัตราการเติบโตของธุรกิจก็ ควรจะเป็น ไปตามแนวโน้ม(เทรน)ของภาพรวมธุรกิจ

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บล.กิมเอ็ง สามารถดำเนินได้ดีอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่มีบริษัทแม่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากประสบการณ์ที่ยาวนาน และชื่อเสียงที่อยู่ ในธุรกิจนี้ เป็นตัวหนุนให้ปัจจุบันยังได้รับความการสนับสนุนจากนักลงทุน

ทั้งนี้ หากประเมินในแง่ของผลดีจากการที่ บล.บางแห่งมีฐานเป็นธนาคาร เรื่องดังกล่าวส่วนตัวเชื่อว่าธุรกิจนี้จะเริ่มต้นยากในช่วงแรกซึ่งหากระดับมาร์เกตแชร์ปรับขึ้นไปที่ ระดับ 2-3% การเติบโตของบริษัทก็จะขึ้นอยู่ที่ตัวบริษัทเองมากกว่า บริษัทแม่คงมีความจำเป็นที่น้อยลง

"เราได้รับความเชื่อถือมายาวนาน เพราะความพร้อมในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการใช้ข้อมูล การ ดูแลลูกค้า เราจึงยังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าและระดับมาร์เกตแชร์ไม่ตกไป" นายมนตรีกล่าว

ในส่วนเรื่องรายได้ของบริษัทปัจจุบันรายได้กว่า 90% ยังมาจากรายได้นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทจะยังคงสัดส่วนในระดับดังกล่าว แม้ว่าบล.หลายแห่งจะมีการ ปรับสัดส่วนไปในเรื่อง ด้านวาณิชธนกิจมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็อยู่ระหว่างการเตรียมการแต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะ แต่ทั้งนี้ปัจจุบันยังถือว่างานในด้านวาณิชธนกิจเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยที่ ผ่านมาบริษัทยังได้รับการติดต่อจาก บริษัทขนาดใหญ่ เช่น บมจ.ชิน คอปอเรชั่น, บมจ. อิตาเลียน-ไทยดิเวปล๊อปเม้นท์ หรือการสื่อสาร เป็นต้น ให้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงิน

"แม้ว่าวอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยจะลดลง แต่ของ บล.กิมเอ็งแม้ว่าจะมีสัดส่วนรายได้ในเรื่องดังกล่าว มากที่สุด แต่การปรับลดลงก็ยังน้อยกว่าบล.อีกหลายราย เพราะเรามีลูกค้าที่ซื้อขาย เป็นประจำจำนวมาก" นายมนตรีกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.