|

มาสด้าชูไทยศูนย์อะไหล่
ผู้จัดการรายวัน(19 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
มาสด้าประกาศตั้งไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกอะไหล่รถกระบะสู่ตลาดทั่วโลก เป็นรายที่สามรองจากญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยมีซัปพลายเออร์คนไทยกว่า 170 รายป้อนชิ้นส่วนให้ พร้อมตั้งเป้ายอดขายจากการส่งออกอะไหล่ปีนี้ 700 ล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศหันมามุ่งพัฒนาด้านการบริการหลังการขายล้างภาพบริการห่วย อะไหล่แพง สำหรับรถใหม่ปลายปีเตรียมมาสด้า MX 5 เอาใจคอรถสปอร์ต
นายฟูมิโอะ โทเนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าทางมาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เล็งเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมในเรื่องของการผลิต อะไหล่รถกระบะ แถมยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง จึงตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกอะไหล่รถกระบะเพื่อจำหน่ายไปยังต่างประเทศกว่า 100 แห่งทั่วโลก อาทิแถบยุโรป แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และกัวเตมาลา เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์กลางการส่งออกอะไหล่ของมาสด้ามีอยู่ 2 แห่งเท่านั้นคือที่ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา สำหรับเมืองไทยถือเป็นแห่งที่ 3 ของโลก
เมื่อปี 2544 มาสด้าส่งออกรถยนต์กระบะไปจำหน่ายยังต่างประเทศกว่า 160,000 คัน ขณะเดียวกันก็ส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ไปจำหน่ายในต่างประเทศเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งให้ไทย เป็นศูนย์กลางการส่งอะไหล่ ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยในปัจจุบันมีการส่งออกอะไหล่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศประมาณ 10,000 รายการต่อเดือน โดยมีซัปพลายเออร์ของเรา 170 รายเป็นผู้ผลิตอะไหล่จัดส่งให้ รวมถึงทางมาสด้าเองก็มีความพร้อมในเรื่องของคลังอะไหล่ที่ตั้งอยู่ที่ ถนนบางนา-ตราด กม. 18 ซึ่งใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และศูนย์จัดส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ลาดกระบัง ทำให้มีความสะดวก ในเรื่องของการจัดส่งสินค้า
"หลังจากแต่งตั้งประเทศไทยแล้ว เราเองกำลังมองหาประเทศที่จะมาเป็นศูนย์กลางส่งออกอะไหล่เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นประเทศจีน เพราะจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก"
สำหรับตัวเลขการส่งออกอะไหล่ของมาสด้าตั้งแต่เริ่มส่งออกเมื่อประมาณปี 2544 จนถึงปัจจุบันมีอัตราการเติบโตถึง 100% โดยในปีที่แล้วมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 700 ล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายฟูมิโอะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับตลาดรถในเมืองไทยขณะนี้ ทางมาสด้าจะหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องการบริการหลังการขายเป็นหลัก เพราะที่ผ่านมาผู้บริโภคยังคงติดภาพลบในเรื่องของการบริการหลังการขายที่ไม่ครอบคลุม ศูนย์บริการมีน้อย, ราคาอะไหล่ที่แพงกว่าคู่แข่ง เป็นต้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการปรับปรุงแก้ไขใหม่จนผู้บริโภค ไว้วางใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาอะไหล่ที่เฉลี่ยแล้วถูกลง, จำนวนอะไหล่ในสต๊อกมีเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงมาตรฐานการบริการที่สูงขึ้น จึงส่งผลให้ยอดขายเติบโตสูงถึง 150% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
หลังจากนี้ทางบริษัทจะยังมุ่งเน้นในเรื่องของการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนหน้าจะมีแคมเปญตัวใหม่เกี่ยวกับการบริการหลังการขาย ออกมาอีก 1 รายการ รวมถึงการเพิ่มความเอาใจใส่ลูกค้าที่เข้ารับบริการทั้งภายในศูนย์และนอกศูนย์บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการเปิดโปรแกรม "รถโมบายเซอร์วิส" ซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการ 30 คัน และเตรียมที่จะเพิ่มให้ครบ 70 คัน ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับการขยายตัวแทนจำหน่าย ทางมาสด้า มีแผนเปิดให้ครบ 90 แห่งในปีนี้ และจะเพิ่มอีก 8 แห่งภายในปีหน้า รวมเป็น 98 แห่ง ในส่วนของรถใหม่ปีนี้ มาสด้ามีแผนที่จะเปิดตัวรถสปอร์ตตัวใหม่ MX5 เพียงรุ่นเดียว ส่วนรถรุ่นอื่นๆคงจะเริ่มทยอย ตามมาในปีหน้า ซึ่งก็หมายรวมถึงรถกระบะโมเดลใหม่ ซึ่งคงจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ โฉมใหม่
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|