|
ไอซีทีเร่งกสท.หาซีอีโอ/พาร์ตเนอร์ต่อรองกทช."ลดค่าต๋ง"ใบอนุญาต
ผู้จัดการรายวัน(19 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"สรอรรถ" เร่งกสทรีบหาซีอีโอโดยด่วน พร้อมหาพาร์ตเนอร์ที่มีฐานลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดเพื่อต่อยอดความเข้มแข็งในการมีเครือข่ายแบ็กโบน ชี้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตน่าจะต่อรองกับ กทช.ได้ ในขณะที่ภาษีสรรพสามิตหากยกเว้นก็ต้องตอบสังคมให้ได้ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกกสทกำไรกว่า 2.5 พันล้านบาท
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมบริษัท กสท โทรคมนาคมว่าได้มอบนโยบายให้กสทเร่งหากรรมการผู้จัดการใหญ่โดยด่วน เนื่องจากกสทมีเป้าหมายที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสแรกปี 2549 จำเป็นต้องมีผู้บริหารมาขับเคลื่อนนโยบายที่ได้รับจากบอร์ด ซึ่งการเข้าตลาดจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่นั้น อยู่ที่ความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงนั้น และต้องดูผลจากบริษัท ทีโอที ซึ่งทำธุรกิจคล้ายกับ กสท ในการเข้าตลาดว่ามีการตอบรับจากนักลงทุนอย่างไรและภาพรวมของตลาดเป็นเช่นไร
"หลังจากได้ซีอีโอจะทำให้เห็นภาพชัดเจนของกสทมากขึ้น"
นอกจากนี้ กสทจะต้องวิเคราะห์ ถึงจุดแข็งหรือจุดอ่อนของธุรกิจ กสท เนื่องจากปัจจุบันกสทมีรายได้จากโทรศัพท์ต่างประเทศมากถึง 40% ซึ่งเป็นผลจากการผูกขาดไม่มีคู่แข่งขัน แต่เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สิทธิ ดังกล่าวจะหมดไป กสทจำเป็นต้องสร้างรายได้เพิ่มจากทางอื่น โดยเฉพาะ การที่กสทมีเครือข่ายในลักษณะแบ็กโบนจำนวนมาก แต่ยังขาดในส่วน สุดท้ายที่ต่อไปยังผู้บริโภค (Last Mile) ก็มีความจำเป็นต้องหาพันธมิตร กลยุทธ์หรือ Strategic Partner ที่มีฐานตลาดหรือมีกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะทำให้หุ้นกสทเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน
สำหรับปัญหาการขาดทุนสะสม จำนวนมากของฮัทช์นั้น กสทจะตั้งกรรมการเจรจาซึ่งมีนายอำนวยศักดิ์ ทูลศิริ รองประธานบอร์ดกสทเป็นประธาน เพื่อหาข้อสรุปให้ได้ภายใน 2 เดือนซึ่งจะเห็นแนวทางชัดเจนในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับแผนเข้าตลาด ผมพร้อมที่จะช่วยเจรจาในการ แก้ปัญหาฮัทช์ ซึ่งอยากให้ช่วยอะไรก็บอกมาได้
ส่วนการที่กสทได้ทำเรื่องเพื่อขอหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมตามใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรคมนาคมและ ภาษีสรรพสามิตซึ่งจะทำให้ กสทต้องรับภาระเพิ่มในปีแรกประมาณ 700 ล้านบาทนั้น นายสรอรรถกล่าวว่าค่าธรรมเนียมไลเซนส์เป็นอัตราที่กำหนด โดย กทช.ซึ่งน่าจะมีการต่อรองได้ ส่วนภาษีสรรพสามิตนั้นต้องพิจารณาอย่าง รอบคอบ เพราะทั้ง 2 บริษัทคือ กสทและบริษัท ทีโอทีเป็นบริษัทมหาชน หากยกเว้นภาษีสรรพสามิตแล้วบริษัทอื่นๆ จะต้องได้รับการยกเว้นหรือไม่ เนื่องจากเมื่อเข้าตลาดแล้วกติกาเป็นเช่นไรก็ต้องปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตาม หากมีการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและภาษีสรรพสามิตกับ กสท ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบกับผลประกอบการเพราะเป็นเรื่องของตัวเลขก็ตาม แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็จะส่งผลสะท้อนไปเป็นภาระให้ประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งต้องพิจารณาว่าต้นทุนดังกล่าวควรอยู่ในระดับไหนที่จะไม่กระทบกับประชาชน
"หากจะยกเว้นภาษีสรรพสามิต ให้ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเพราะอะไร"
นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านกลยุทธ์องค์กร กสท กล่าวว่า ในครึ่งปีแรก กสท มีรายได้ 15,531 ล้านบาท และเมื่อหักภาษีและค่าใช้จ่าย กสท มีกำไรสุทธิ 2,597 ล้านบาท โดยรายได้ กว่า 40% จะมาจากการให้บริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ ซึ่งในสิ้นปี 2548 กสท จะมีรายได้ประมาณ 29,260 ล้านบาท และมีกำไร 3,685 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ได้มีการหักยอด ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และค่าภาษีสรรพสามิต ที่จะต้องจ่ายให้กับกระทรวงการคลัง รวมถึงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของ กทช. จำนวน 700 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|