|
จีนใกล้เปิดศึกการค้าสิ่งทอกับUS-EU
ผู้จัดการรายสัปดาห์(3 มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
จีนขยับใกล้การระเบิดสงครามการค้ากับสหรัฐฯและสหภาพยุโรป เมื่อกระทรวงการคลังแดนมังกรแถลงในวันที่ 30 พ.ค.ว่า จะยกเลิกภาษีส่งออกซึ่งจัดเก็บจากสินค้าสิ่งทอของตนรวม 81 ประเภทตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. หลังจากได้จัดเก็บมานับแต่เริ่มต้นปีนี้ นอกจากนั้นจีนยังจะยกเลิกประกาศในวันที่ 20 พ.ค.ซึ่งเรียกเก็บภาษีส่งออกจากสินค้าส่งทอและเครื่องแต่งกายของตนอีก 74 ประเภทด้วย การแถลงของปักกิ่งคราวนี้ดูจะเป็นการตอบโต้สหรัฐฯกับอียูที่ยังคงเดินหน้ามาตรการจำกัดสิ่งทอจีน ด้วยข้ออ้างว่าผลิตภัณฑ์แดนมังกรทะลักท่วมท้นตลาดของพวกเขา ภายหลังข้อตกลงค้าสิ่งทอแบบจำกัดโควตาหมดอายุลงตอนสิ้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สหรัฐฯได้ประกาศใช้สิทธิตามมาตรการคุ้มครองตัวเอง กำหนดโควตานำเข้าสิ่งทอจีนรวม 7 ประเภทไปแล้ว ขณะที่อียูก็เรียกร้องเจรจากับจีน ด้วยความมุ่งหมายบีบบังคับให้แดนมังกรยอมจำกัดการส่งออกสินค้าเสื้อผ้าบางประเภทเข้าอียู
ญี่ปุ่น-มาเลเซียตกลงกรอบโครงเอฟทีเอ
นายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ ของญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย ตกลงกันได้ที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ในเรื่องกรอบโครงของข้อตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ระหว่างประเทศทั้งสอง ภายหลังจากแดนอาทิตย์อุทัยกับแดนเสือเหลืองเจรจาต่อรองกันมากว่า 1 ปี โดยฝ่ายมาเลเซียยอมคลายปมสำคัญซึ่งเป็นอุปสรรคมานาน ได้แก่ การเปิดตลาดลดภาษีศุลกากรให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นภายในระยะเวลา 10 ปี ส่วนฝ่ายญี่ปุ่นก็โอเคเปิดตลาดสินค้าเกษตร อาทิ ผักผลไม้อย่าง มะม่วง และมะละกอ ให้แก่มาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายมองการณ์แง่ดีว่า การเจรจาเพื่อจัดทำรายละเอียดเอฟทีเอนี้จะสำเร็จเรียบร้อยพร้อมลงนามในเดือนธันวาคมนี้
ไตรมาสแรกสหรัฐฯโต 3.5%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยแพร่รายงานในวันที่ 26 พ.ค. โดยปรับตัวเลขอัตราเติบโตของจีดีพีประจำไตรมาสแรกปีนี้เป็นเท่ากับปีละ 3.5% จากที่ให้ไว้เบื้องต้นในเดือนที่แล้ว ณ 3.1% โดยสาเหตุสำคัญก็คือการขาดดุลการค้าเมื่อเดือนมีนาคมอยู่ในระดับลดต่ำลงมาแล้ว ถึงแม้ตัวเลข 3.5% นี้ยังคงสะท้อนถึงการชะลอตัวลงเล็กน้อยจากอัตรา 3.8% ซึ่งทำได้ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และ 4.4% สำหรับตลอดทั้งปี 2004 แต่ก็เป็นระดับการขยายตัวที่น่าพอใจ และทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์มองว่า สภาพการอ่อนวูบของเศรษฐกิจอเมริกันดังที่วิตกกัน น่าจะยุติลงแล้ว
ผู้ก่อตั้ง "ยูคอส" ถูกตัดสินจำคุก 9 ปี
มิคาอิล โคโดร์คอฟสกี อดีตอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มยูคอส กิจการน้ำมันยักษ์ใหญ่ของแดนหมีขาว ถูกศาลชั้นต้นในกรุงมอสโกตัดสินเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ว่า มีความผิดฐานฉ้อโกงและหลบเลี่ยงไม่เสียภาษี ให้จำคุกไว้เป็นเวลา 9 ปี โคโดร์คอฟสกีถูกจับกุมในเดือนตุลาคม 2003 และถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากฝ่ายตะวันตก ที่มองเรื่องนี้ว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สืบเนื่องจากโคโดร์คอฟสกีให้การสนับสนุนพวกพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และด้วยทรัพย์สมบัติตลอดจนอิทธิพลในต่างแดนของเขา ทำให้บุคคลผู้นี้ถูกจับตามองว่าจะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของผู้นำหมีขาว นอกจากโคโดร์คอฟสกีถูกจับตัวดำเนินคดีแล้ว กลุ่มยูคอสก็กลายเป็นอัมพาตด้วยข้อหาหลบเลี่ยงภาษีถึง 28,000 ล้านดอลลาร์ และกิจการผลิตน้ำมันตัวหลักของกลุ่มเวลานี้ก็ตกเป็นของบริษัทน้ำมันที่รัฐควบคุมอยู่ไปเสียแล้ว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|