กลุ่มจี8ปลดหนี้18ประเทศยากจน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(16 มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กอร์ดอน บราวน์ ขุนคลังอังกฤษ ในฐานะเจ้าภาพ ได้แถลงผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี8) ที่กรุงลอนดอนว่า สามารถตกลงกันได้ที่จะล้างหนี้ในทันทีให้กับประเทศยากจนของโลกรวม 18 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา คิดเป็นมูลค่ารวม 40,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังจะปลดหนี้ 100% ให้แก่ชาติยากจนอีก 9 ประเทศในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เป็นมูลค่ารวม 11,000 ล้านดอลลาร์ และหลังจากนั้นก็จะให้ความช่วยเหลือแบบเดียวกันแก่อีก 11 ประเทศ คิดเป็นวงเงิน 4,000 ล้านดอลลาร์ รวมแล้วจะทำให้ยอดการปลดหนี้ทั้งหมดอยู่ที่ 55,000 ล้านดอลลาร์ หนี้สินที่จะปลดให้ดังกล่าวนี้ครอบคลุมทั้งส่วนซึ่งติดค้างกลุ่มจี8, ธนาคารโลก, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, และธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับภูมิภาค ปรากฏว่าหลังประกาศแผนการดังกล่าวนี้ออกไป ก็ได้รับคำยกย่องชมเชยเป็นอันมากทั้งจากเหล่าชาติยากจน ตลอดจนกลุ่มเคลื่อนไหวภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม มีเสียงท้วงติงเช่นกันว่า หากจะช่วยประเทศยากจนให้พ้นทุกข์ได้จริงแล้ว จำเป็นต้องให้เงินช่วยเหลือก้อนใหม่ๆ เพื่อใช้ในการพัฒนาด้วย และที่สำคัญยิ่งคือประเทศร่ำรวยต้องเลิกอุดหนุนภาคเกษตร ชาติยากจนจะได้มีช่องทางทำมาหากินกับการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น

มาเลย์เสนอเอเชียใช้"การทูตพลังงาน"

ในการกล่าวเปิดการประชุมน้ำมันและแก๊สเอเชีย นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซียชี้ว่า โลกในอนาคตจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยที่สำคัญแล้วสืบเนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย และนั่นก็เป็นเหตุให้บริษัทน้ำมันแห่งชาติของแต่ละประเทศต่างต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดขึ้นทุกทีเพื่อแสวงหาทรัพยากรพลังงานให้เพียงพอ สภาพเช่นนี้เองนำไปสู่การเพิ่มเก็บสะสมน้ำมันเอาไว้ในคลัง และกลายเป็นการเพิ่มดีมานด์ซึ่งทำให้ราคายิ่งขยับสูง ดังนั้น ประเทศต่างๆ ในเอเชียจึงควรหันมาร่วมมือกันดำเนิน "การทูตพลังงาน" ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะลดการพึ่งพาซัปพลายพลังงานจากภายนอกภูมิภาคให้น้อยลง และลดการพึ่งพาการสต็อกน้ำมัน อันจะส่งผลให้ลดแรงกดดันซึ่งมีผลต่อระดับราคาลงไปได้มาก

เวียดนามคุยปีนี้ท่องเที่ยวบูมมาก

การท่องเที่ยวเวียดนามแถลงสถิติล่าสุดว่า ในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปประเทศนี้เกือบ 300,000 คน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน นักท่องเที่ยวซึ่งเพิ่มขึ้นนี้มาจากหลายทิศหลายทาง โดยจากเยอรมนีมีอัตราขยายตัวสูงสุดคือ 105.3% และจากเอเชียก็ขยับขึ้นหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ 68.8% เกาหลี 59.4% สิงคโปร์ 55.2% ไทย 41.2% และมาเลเซีย 30.5%

สหรัฐฯขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น

กระทรวงพาณิชย์อเมริกันรายงานว่า เดือนเมษายนสหรัฐฯขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 57,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้าน้ำมันยังคงขยายตัวล้ำเกินยอดส่งออก ซึ่งอันที่จริงทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะได้ยอดขายเครื่องบินพาณิชย์เข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองโลกแง่ดีว่า การขาดดุลเดือนนี้สะท้อนราคาสินค้านำเข้าโดยเฉพาะพวกน้ำมันซึ่งแพงขึ้น ไม่ใช่มีการนำเข้าเป็นปริมาณมากขึ้น ดังนั้นหากคำนวณโดยตัดปัจจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของราคาออกแล้ว ตัวเลขขาดดุลในเดือนเมษายนจะลดลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ จากระดับเฉลี่ยของช่วง 3 เดือนแรกปีนี้

จีนได้เปรียบดุลการค้าพุ่งลิ่ว

กรมศุลกากรจีนแถลงตัวเลขดุลการค้าประจำเดือนพฤษภาคม ปรากฏว่าเกินดุลสูงที่สุดในรอบปีนี้ โดยอยู่ที่ 8,990 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ทางฝั่งการส่งออก ทำได้เพิ่มขึ้น 30.3% จากระยะเดียวกันของปีที่แล้ว แม้จะชะลอลง 31.9% จากเดือนเมษายน ทว่าในฝั่งนำเข้า กลับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียง 15% และลดลงจากเดือนเมษายนซึ่งการนำเข้ายังขยายตัวในระดับ 16.2%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.