ธ.กรุงศรีฯขึ้นดอกเบี้ย36ด.1% วงการฟันธงสิ้นปีนี้ขยับออมทรัพย์


ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์เริ่มลด ธนาคารทยอยประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาว-สั้น ล่าสุดธนาคารกรุงศรีอยุธยา ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือนอีก 1% เป็น 3.25 พร้อมดอกเบี้ยพิเศษตามวงเงิน มีผลตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป ขณะที่แบงก์กรุงเทพ เตรียมชงเรื่องหารือบอร์ดวันนี้ ด้านวงการแบงก์มั่นใจดอกเบี้ยออมทรัพย์ขยับปลายปีนี้

นายทินวรรธน์ มหธราดล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการขยายฐานและรักษาเงินฝากระยะยาวธนาคารจึงได้ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินฝากประจำ 36 เดือน จากเดิมที่อัตราร้อยละ 2.25 เป็น 3.25 สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทอื่นๆ นั้นยังคงในอัตราเดิม คือ เงินฝากออมทรัพย์ให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.75 ต่อปี เงินฝากประจำ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.00 ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.25 ต่อปี เงินฝากประจำ 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.50 ต่อปี เงินฝากประจำ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.00 ต่อปี และเงินฝากประจำ 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.75 ต่อปี

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้ปรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามวงเงินฝาก ดังนี้ เงินฝากประจำตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ประเภท 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.25 ต่อปี ประเภท 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.50 ต่อปี ประเภท 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.75 ต่อปี ประเภท 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.25 ต่อปี เงินฝากประจำตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ประเภท 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.50 ต่อปี ประเภท 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.75 ต่อปี ประเภท 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.00 ต่อปี ประเภท 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.50 ต่อปี เงินฝากประจำตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ประเภท 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.75 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลใช้ตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารของธนาคารที่มีขึ้นในวันนี้ (18ส.ค.) จะมีการนำเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้าพิจารณาด้วย ทั้งนี้หากปรับขึ้นก็จะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 6 เดือน ในอัตราเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีการปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่ชัดเจนได้ว่าจะปรับขึ้นเมื่อใด ซึ่งจะพิจารณาภาวะของตลาดการเงินเป็นหลัก ว่าจะเป็นอย่างไร และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้หรือปีหน้าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์น่าจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็เพื่อรักษาฐานของธนาคารไว้

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้ลูกค้านิติบุคคล และสถาบันการเงินในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้สภาพคล่องของธนาคารเพิ่มขึ้น ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในช่วงที่ผ่านมานั้นไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร การหาเงินฝากของธนาคารไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากพนักงานรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี

"ภายหลังจากที่ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ต้นทุนของธนาคารเพิ่มขึ้น ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ประมาณ 2% ซึ่งเป็นอัตราที่ยังดีอยู่ และถ้ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีกรอบก็ต้องคำนึงถึงต้นทุนของธนาคาร เพื่อนำมาตัดสินใจ"

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่การเบิกวงเงินสินเชื่อของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติวงเงินไปแล้วยังใช้วงเงินสินเชื่อบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เงินหมุนเวียนในการค้าขาย และลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อไปขยายกำลังการผลิต ส่วนลูกค้าที่ยังไม่ได้มีการลงทุน อาจจะชะลอการตัดสินใจในการขอสินเชื่อ

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การปรับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ว่า ธนาคารจะมีการพิจารณาในทุกไตรมาสอยู่แล้ว และการพิจารณาครั้งต่อไปจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมนี้ โดยแนวทางในการปรับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยของธนาคารนั้น มีทางเลือกอยู่ 2 แนวทาง คือ การปรับลดระยะเวลาของอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่จากเดิมที่มีอัตราคงที่ 1 ปี และ 2 ปี ก็จะปรับเหลือเพียงอัตราคงที่ 1 ปี แบบเดียว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มทำการยกเลิกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่มีระยะเวลาที่ยาวออกไป เพื่อให้ระยะของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่นั้นมีความสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่วนแนวทางที่ 2 คือ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 และ 2 ปีไว้ แต่จะทำการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกร้อยละ 0.25

นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สาขาประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้สภาพคล่องในระบบเริ่มลดลงเหลือประมาณ 300,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่สภาพคล่องจะลดลงจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ความต้องการใช้เงินในระบบของทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยปรับดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวและระยะสั้น และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์

"การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวของแบงก์ในช่วงที่ผ่านมา และขณะนี้เริ่มปรับเงินฝากที่มีอายุสั้นลง เป็นสัญญาณให้เห็นว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ตามเช่นกัน" นางสาวอุสรา กล่าว

ด้านนายระเฑียร ศรีมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาก และธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายที่จะให้อัตราดอกเบี้ยในระบบปรับเพิ่มขึ้น เพื่อคุมการขยายตัวของเงินเฟ้อ

นายปราการ ทวิสุวรรณ รองกกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะต้องปรับขึ้นตามทิศทางเงินเฟ้อที่ปรับขึ้น เพื่อให้ดอกเบี้ยสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของธนาคารจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารพึ่งมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่าอัตราที่ประกาศยังสามารถแข่งขันได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.