ปตท.มั่นใจกำไรปี 48 พุ่ง ธุรกิจก๊าซฉลุยรับน้ำมันแพง


ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 ธันวาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ปตท. ตั้งเป้า ปี 48 เพิ่มยอดขายก๊าซ 3-5% มั่นใจคนแห่ใช้ก๊าซ หนีน้ำมันแพง ขยายกำลังการผลิตอีก 525 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หลังโรงแยกที่ 5 เริ่มเดินเครื่องต้นปีหน้า เร่งสร้างเครือข่ายท่อส่งรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้ง เพิ่มสถานีจ่ายก๊าซ -พัฒนาระบบตัวถัง NGV หวังเพิ่มจำนวนผู้ใช้

ในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ผู้ใช้และผู้ผลิตต่างก็เร่งแสวงหาพลังงานทดแทน ซึ่งก๊าซธรรมชาติดูจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ และหากจะพูดถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติของไทย ชื่อของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ก็เป็นชื่อแรกที่คนไทยนึกถึงเช่นกัน ในช่วงพลังงานขาขึ้นเช่นนี้ ปตท.วางทิศทางในการดำเนินธุรกิจก๊าซอย่างไร จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีคำตอบ

ปตท.วางเป้าหมายว่าในปี 2548 จะเพิ่มยอดขายก๊าซธรรมชาติขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 3-5% โดยตั้งเป้าว่าจะขายได้ประมาณแสนกว่าล้านบาท พร้อมทั้งจะเร่งสร้างและขยายเครือข่ายท่อส่งก๊าซให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะจากประมาณการคาดว่าในปี 2548 ประเทศไทยจะมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากทำให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่หันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนน้ำมัน ทั้งในกลุ่มผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน ปตท.ได้มีการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ทำกำไรสูงเนื่องจากตลาดมีความต้องการมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของปิโตรเคมีสูงขึ้นตามไปด้วย

“กำไรจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท.ในปีนี้ถือว่าใช้ได้ เพราะราคาก๊าซหุงต้มมีราคาดี ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติที่ขายให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งผูกติดกับราคาน้ำมันเตาก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ขณะที่รายได้จากค่าผ่านท่อก็เพิ่มขึ้น 3-4% ตามปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนในปีหน้าโรงแยกก๊าซโรงที่ 5 ของ ปตท.จะเริ่มใช้งานได้ ทำให้ความสามารถในการผลิตก๊าซของ ปตท.เพิ่มขึ้น เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มดีขึ้น จึงมั่นใจว่ากำไรในปี 2548 จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ระบุ

ในปี 2548-2549 ปตท.มีแผนงานที่จะขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาความสามารถในการขนส่งก๊าซจากแหล่งผลิตของ ปตท.ไปยังจุดจำหน่ายต่างๆเริ่มถึงจุดอิ่มตัว โดยขณะนี้ ปตท.กำลังเร่งดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซ 3 โครงการ คือ 1.โครงการท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 3 (ระยอง-บางปะกง) ซึ่งนำก๊าซจากอ่าวไทย จ.ระยอง ไปยังบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 2.โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติวังน้อย-แก่งคอย (วังน้อย จ.อยุธยา -แก่งคอย จ.สระบุรี) 3.โครงการท่อก๊าซธรรมชาติไทรน้อย-โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ/ใต้ (จ.นนทบุรี) ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2549 จะทำให้ ปตท.สามารถนำก๊าซจากพม่ามาใช้ในโรงกลั่นพระนครเหนือและพระนครใต้ได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น ปตท.ยังเร่งดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) เพื่อที่จะวางท่อส่งก๊าซจากมักกะสันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากการเพิ่มศักยภาพในการขนส่งด้วการขยายเครือข่ายท่อส่งก๊าซเแล้ว ปตท.ยังร่วมกับ บริษัทเชลล์ โกลเบิล โซลูชัน (Shell Global Solutions) ในการขยายขีดความสามารถในการส่งก๊าซภายในท่อเพื่อให้สามารถขนส่งก๊าซได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

ในส่วนของการผลิตนั้น ปตท.มองว่าในปี 2548 ยังไม่มีความจำเป็นต้องสร้างหรือขยายโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้น เพราะปริมาณก๊าซที่ได้จากโรงแยกก๊าซทั้ง 5 โรงน่าจะเพียงพอกับความต้องการของตลาด ซึ่งเมื่อโรงแยกก๊าซโรงที่ 5 ของ ปตท. เริ่มปฏิบัติงานได้ ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นอีก 525 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งทำให้สามารถผลิตก๊าซหุงต้ม(LPG)ได้เพิ่มขึ้น 3 แสนตันต่อปี

โดยก๊าซ LPG ที่ได้จากโรงแยกก๊าซโรงที่ 5 จะถูกนำไปจำหน่ายทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ส่วนก๊าซมีเทนจะถูกส่งไปยัง บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ผลิตปิโตรเคมี โรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้การเติบโตของธุรกิจปิโตรเคมีจะเป็นปัจจัยหลักที่ ปตท.จะนำมาพิจารณาว่าจำเป็นต้องสร้างหรือขยายโรงแยกก๊าซหรือไม่ ถ้าในอนาคตหากความต้องการของผู้ประกอบการด้านปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น ปตท.ก็อาจจะสร้างหรือขยายโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้นอีก

สำหรับโครงการก๊าซ NGV ซึ่งเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้รถที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ปตท. กำลังเร่งพัฒนาระบบตัวถังก๊าซ NGV ให้มีต้นทุนการติดตั้งที่ถูกลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งตัวถังซึ่งค่อนข้างสูงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการก๊าซ NGV ของ ปตท.ต่ำกว่าเป้าหมาย

“ตอนนี้มีผู้มาใช้บริการก๊าซ NGV ไม่ถึง 10% ของเป้าหมาย คือมีเพียงประมาณ 3,000-4,000 ราย ปตท. จึงวางแผนว่าจะต้องเพิ่มจำนวนผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีให้ได้มากขึ้น โดยเป้าหมายแรกยังคงเป็นกลุ่มรถแท็กซี่ ” จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนที่ ปตท.จะบุกตลาด NGV อีกครั้งจำเป็นต้องปรับปรุงระบบส่วนควบในการจ่ายก๊าซเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยขณะนี้ได้ปรับปรุงสถานีแม่บริเวณ ถนนนิมิตใหม่ กรุงเทพฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการติดตั้งเครื่องเพิ่มความดันเพื่อเพิ่มศักยภาพในการจ่ายก๊าซไปยังสถานีลูกที่อยู่ใกล้เคียง นอกจากนั้นจะสร้างสถานีแม่แห่งใหม่อีก 2 สถานี คือที่รังสิต จ.ปทุมธานี และที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.2548


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.