|
กรุงไทย-ธนชาตร่วมวงตั๋วเงินคลัง เร่งระดมเงินฝากตามติดค่ายใหญ่
ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บลจ.กรุงไทยถึงคราวขยับหลังปล่อยค่ายอื่นนำโด่งไปในช่วงก่อนหน้า เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตั๋วเงินคลังมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท วันที่17-29 สิงหาคม ระบุลงทุนเพียง 6 เดือน คาดให้ผลตอบแทน 2.25% ต่อปี ด้านบลจ.ธนชาต เดินหน้าคลอดกองทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งกองทุนธนชาตบริหารเงิน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารระยะสั้นอายุน้อยกว่า 1 ปี เปิดขาย18-26 สิงหาคมนี้
นายศรีภพ สารสาส กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยตั๋วเงินคลัง (The Krung Thai Treasury Bill Fund ) ในวันที่ 17-29 สิงหาคม 2548 เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน โดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 2.25% ต่อปี กองทุนรวมกรุงไทยตั๋วเงินคลัง มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการ 6 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทนเมื่อครบอายุโครงการ
"ภาวะตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าเป็นการปรับตัวที่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารและอัตราเงินเฟ้อที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงนับว่าเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุน ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน"
ด้านนายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาตเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ไม่กำหนดอายุโครงการ ลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นที่ผู้ออกมีฐานะการเงินมั่นคง มีความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยสูง เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้และตราสารการเงิน ที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนหรือผู้ออมเงินที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก และมีสภาพคล่องที่ไม่ผูกมัดกับระยะเวลาที่ลงทุน
โดยกองทุนดังกล่าวเสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 18-26 สิงหาคมนี้ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท จากมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นอายุน้อยกว่า 1 ปี ที่มีความมั่นคงและมีสภาพคล่องสูง เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น
“กองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่ลงทุนในตราสารการเงินที่มีอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี ราคาตราสารที่ลงทุนจึงมีการเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อมีการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย ผู้จัดการกองทุนสามารถประเมินฐานะทางการเงินของผู้ออกตราสารได้ชัดเจนกว่าตราสารที่มีอายุยาว ขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารระยะสั้นยังทำให้กองทุนมีสภาพคล่องในการลงทุนที่สูง โดยรวมแล้วกองทุนจึงมีความเสี่ยงในการลงทุนที่ต่ำกว่ากองทุนตราสารหนี้ทั่วไปมาก”นายกำพล กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน การที่กองทุนลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นตามภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้ดีกว่าเงินฝาก จึงช่วยให้กองทุนสามารถนำเงินมาลงทุนใหม่ (Reinvest) ให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น อีกทั้งผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนดังกล่าวยังได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ดังนั้น กองทุนนี้จึงเหมาะเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินออมหรือเงินลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง อาทิ เงินออมเพื่อการใช้จ่ายประจำเดือน เงินออมที่มีแผนการใช้เงินนั้นในระหว่างช่วง 1 ปี เงินที่เตรียมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือเงินที่อยู่ระหว่างพักการลงทุนเพื่อรอจังหวะการลงทุนใหม่ให้เติบโตตามทิศทางการลงทุนและรับผลตอบแทนที่ก้าวทันดอกเบี้ยขาขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ลงทุนไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการเอง ทำให้มีอิสระในการบริหารเงินได้ตามความต้องการ
นายกำพล กล่าวเสริมว่า เนื่องจากการลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นในปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2548 ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรที่มีอายุ 1 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.55% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ 0.5% - 1.5% เท่านั้น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ยังอยู่ที่ 1% - 2% ดังนั้น การลงทุนในกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากด้วย
กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ปันผล 1 (TFIXD1) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 22 - 29 สิงหาคม ศกนี้ เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และมีนโยบายจ่ายเงินปันผล จะเหมาะกับผู้ลงทุนที่เป็นนิติบุคคล ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินปันผล และผู้ที่ต้องการออมเงินลงทุนในระยะยาว ให้เหมาะสมกับโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนจะได้รับ เป็นกองทุนเปิดที่ให้สั่งซื้อได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้เดือนละ 1 ครั้ง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|