เอเอ็มดีดึงผู้บริหารไอบีเอ็มคุมกิจการดีไซน์ชิป


ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังประกาศขยายความร่วมมือออกไปอีก 3 ปีถึงปี 2011 ล่าสุดเอเอ็มดีดึงผู้บริหารไอบีเอ็มเข้ารับตำแหน่งประธานฝ่ายซิลิคอนดีไซน์ ดูแลคอมพิวติ้งโซลูชั่นทั้งหมดของเอเอ็มดี รวมถึงแผนการพัฒนาโปรเซสเซอร์ในอนาคต โดยยังคงยึดหลักตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้ มั่นใจผู้บริโภคไม่ผิดหวัง

บริษัทเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices; AMD) ผู้นำด้านการออกแบบชิป เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2005 ว่า เอเอ็มดีประกาศแต่งตั้ง เจฟฟ์ เวอร์ฮีล (Jeff VerHeul) เป็นรองประธานฝ่ายซิลิคอนดีไซน์ รับผิดชอบการพัฒนาคอมพิวติ้งโซลูชั่นทั้งหมดของเอเอ็มดี รวมถึงโร้ดแม็ปสำหรับผลิตภัณฑ์ซิลิคอนและการประสานงานด้านวิศวกรรมทั่วโลก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเอเอ็มดีจะตอบสนองทุกๆความต้องการได้อย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ เจฟฟ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) และร่วมงานกับไอบีเอ็มมานานกว่า 25 ปี

"นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเอเอ็มดีและผู้บริโภคเทคโนโลยีทั่วโลก เอเอ็มดีปฏิวัติศักยภาพในการแข่งขันของตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า โดยมุ่งที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้า" เจฟฟ์ กล่าวและว่า "ผมตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ และจะร่วมงานกับเดิร์คและทีมงาน มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภค"

ก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่า เอเอ็มดีและไอบีเอ็มได้ขยายความร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีออกไปจนถึงปี 2011 จากเดิมที่เป็นปี 2008 นอกจากนี้ยังจะขยายความร่วมมือเข้าในส่วนอื่นๆนอกเหนือจากการพัฒนาชิปด้วย ตัวอย่างเช่น การพัฒนาเทคนิคการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 32 และ 22 นาโนเมตร

ปัจจุบันเอเอ็มดีเป็นผู้ผลิตชิปอันดับ 2 ของโลก แต่การเติบโตของพวกเขากำลังน่าสนใจและควรค่าแก่การจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เอเอ็มดีเป็นผู้บุกเบิกวิธีเพิ่มสมรรถนะชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ด้วยการเพิ่มความสามารถด้าน 64 บิตเข้าไป ที่รู้จักกันในชื่อ AMD64 ทำให้ชิปจากเดิมที่ประมวลผลได้เพียงแอพพลิเคชั่น 32 บิตอย่างเดียว ก็ทำงานได้กับทั้งแอพพลิเคชั่น 32 และ 64 บิต นอกจากนี้ยังทำให้ระบบรองรับหน่วยความจำได้มากกว่า 4GB ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆในอนาคต

Opteron คือสายพันธุ์แรกของเทคโนโลยี AMD64 เปิดตัวออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะผู้บริโภคระดับองค์กร ที่สำคัญนับตั้งแต่ออกสู่ตลาด มันก็กัดกินส่วนแบ่งทางการตลาดของอินเทล (Intel) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เอเอ็มดีมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาด x86 เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 10% แล้วในปัจจุบัน

หุ้นเอเอ็มดีปิดที่ 21.19 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.89 ดอลลาร์หรือ +4.38%ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ส่วนหุ้นไอบีเอ็มปิดที่ 81.30 ดอลลาร์เท่ากับเมื่อตอนเปิดตลาด ขณะที่หุ้นอินเทลปิดที่ 26.09 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.09 ดอลลาร์หรือ +0.35%ที่ตลาดแนสแดค เมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2005


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.