เปิดตัวสะใภ้จิราธิวัฒน์ กับการสร้างอาณาจักรเล็กๆด้วยการทำธุรกิจส่วนตัว
ที่อาศัยมุมมอง หลักคิด และวิธีการบริหารงาน ที่ส่วนหนึ่งได้รับการถ่ายทอดจากผู้ใหญ่ในตระกูลจิราธิวัฒน์
จนสามารถนำพาธุรกิจเล็กๆเหล่านี้ให้เจริญก้าวหน้า และกำลังจะขยายอาณาจักรให้ใหญ่ขึ้นในอนาคต
ตระกูลจิราธิวัฒน์ นับเป็นตระกูลเก่าแก่ที่วันนี้มีสมาชิกในครอบครัวกว่า
100 คน โดยสมาชิกในครอบครัวส่วนหนึ่งได้เข้ามาดูแลและขายงานธุรกิจในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป
จนเติบใหญ่และแข็งแกร่งในทุกวันนี้ ในขณะที่สมาชิกใหม่ที่เข้ามาเป็นสมาชิกในฐานะสะใภ้ของตระกูลจิราธิวัฒน์นั้น
แม้ว่าจะมีอยู่หลายท่านแต่อาจกล่าวได้ว่ามีเพียงจำนวนน้อยนิด ที่นอกเหนือจากการเป็นแม่บ้านและช่วยงานธุรกิจในเครือเซ็นทรัลแล้ว
ยังหันมาสร้างธุรกิจส่วนตัวและกำลังรอวันเติบใหญ่ในอนาคต
สุรางค์รัตน์ จิราธิวัฒน์ ภรรยาของศักดิ์ชัย (ลูกชายคนที่ 4 ของวันชัย จิราธิวัฒน์
ประธาน เซ็นทรัล กรุ๊ป) เป็นผู้หนึ่งที่อาสาเข้ามาช่วยงานของเซ็นทรัล กรุ๊ป
โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (Direct Marketing Director)
บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด
สุรางค์รัตน์ มีประสบการณ์ในด้านงานขายและเชี่ยวชาญด้านบริหารผลิตภัณฑ์กับกลุ่มเว็นทรัลมากกว่า
15 ปี โดยเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด แผนกสินค้าพิเศษ
บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ดูแลรับผิดชอบในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและนาฬิกา
จากนั้นได้เข้ามารับหน้าที่เป้นผู้จัดการแผนกไดเร็คมาร์เก็ตติ้งและส่งเสริมการตลาดเซ็นทรัลการ์ด
ซึ่งจากความสามารถในการบริหารและวางแผนการตลาดทำให้เธอได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในปัจจุบัน
แม้ว่าสุรางค์รัตน์ จะได้รับผิดชอบงานในส่วนที่สำคัญต่อธุรกิจของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
แต่ด้วยพื้นฐานที่จบการศึกษาปริญญาโท คณะพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต ศิริราชพยาบาล
ประกอบกับการเล็งเห็นว่าปัจจุบันธุรกิจสปา กำลังเป็นที่นิยมและขยายตัวอย่างมาก
โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมที่จะมีบริหารสปาให้แก่แขกที่มาพัก ทำให้สุรางค์รัตน์ตัดสินใจลงทุนด้วยเงินส่วนตัว
4-5 ล้านบาท เปิด “เดอะ พรีวิเลจ สปา” ที่อาคารเมอร์คิวรี่ ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
ชิดลม โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายประเภทไฮโซ และนักธุรกิจเป็นหลัก
สุรางค์รัตน์ บอกว่า ก่อนที่จะทำธุรกิจนี้ได้ขอความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ในตระกูลจิราธิวัฒน์ซึ่งทุกท่านเห็นด้วย
โดยหลังจากที่เปิดให้บริการเดอะ พรีวิเลจ สปา แล้วสุรางค์รัตน์ได้นำความรู้ความสามารถทางด้านการตลาดที่ได้รับจากเซ็นทรัลมาบริหารธุรกิจสปา
จนได้รับความนิยม และเตรียมที่จะขยายในเมืองไทยเพิ่มอีก 1 แห่ง และจะขยายในต่างประเทศอีก
1 แห่ง ซึ่งที่มองไว้ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก
“โดยส่วนตัวแล้วพี่ชอบทำงานที่สนุกสนานและท้าทาย การทำงานที่เซ็นทรัลให้อะไรกับคนทำงานมาก
ให้โอกาสเราในเรื่องของการเสนอความคิดเห็น ให้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่
และตลอดเวลาที่เข้ามาเป็นสมาชิกของตระกูลจิราธิวัฒน์ ก็ได้รู้ซึ่งในเรื่องของการช่วยเหลือเกื้อกูล
เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ”
ชนัดดา จิราธิวัฒน์ เป็นอีกผู้หนึ่งในฐานะสะใภ้จิราธิวัฒน์ โดยเป็นภรรยาของธีรยุทธ์
จิราธิวัฒน์ บุตรชายคนที่สองของสุทธิเกียรติ ซึ่งปัจจุบันธีรยุทธ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจโรงแรมในด้านการพัฒนาธุรกิจโรงแรมใหม่ๆ
ในขณะที่ชนัดดา เคยทำงานในเครือเซ็นทรัล ด้วยการดูแลงานจัดซื้อของธุรกิจฟาสต์ฟูด
ทั้งส่วนของอาหาร เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆที่จะใช้ในการเปิดสาขาร้านฟาสต์ฟูดในเครือเซ็นทรัล
“ส้มเริ่มงานที่เซ็นทรัลด้วยการดูแลร้านไอศครีมบาสกิ้นรอบบิ้น ต่อมารับผิดชอบงานด้านจัดซื้อของกลุ่มธุรกิจฟาสต์ฟูดทั้งหมด
ทำได้ 3-4 ปี จนงานเริ่มอยู่ตัว ก็มีความคิดที่อยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง
เพื่อพิสูจน์ความสามารถว่าจะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จเช่นเซ็นทรัลกรุ๊ปได้หรือไม่”
ชนัดดา เริ่มธุรกิจส่วนตัวธุรกิจแรกด้วยการทำซักรีด ภายใตื่อ Watch Me เปิดให้บริการที่หน้าท็อปส์
ซูเปอร์มาร์เก็ต วิลล่ามาร์เก็ต และในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รวมทั้งหมด
15 สาขา
แต่ด้วยความเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่ง ชนัดดาเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ จนมาลงเอยที่ธุรกิจจิวเวลรี่
ภายใต้ชื่อ “ไดมอน ทูเดย์” โดยชนัดดาให้เหตุผลว่า มีความคุ้นเคยและผูกพันกับเครื่องเพชรมาตั้บแต่เด็ก
เพราะคุณแม่พาไปร้านเพชรแถวบ้านหม้อบ่อยๆ จนซึงซายอย่างไม่รู้ตัว แต่เมื่อเติบโตสู่วัยทำงานชนัดดาเริ่มค้นพบสัจธรรมว่า
การที่ผู้หญิงทำงานสักคนจะหาซื้อเครื่องประดับเพชรไว้ใส่นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
เพราะนอกจากราคาจะแพงแล้ว ร้านที่จำหน่ายก็มีคนเฝ้าประตู ทำให้ไม่กล้าเดินเข้าร้าน
นี่จึงกลายเป็นส่วนผสมทางการตลาดที่ลงทุนของไดมอนด์ ทูเดย์ ที่จะเครื่องประดับเพชรชิ้นเล็ก
ในราคาย่อมเยาว์ และเปิดเป็นเคานต์เตอร์จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และเธอยังเลือกพนักงานขายวัยเดียวกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจและเป็นกันเองในการเลือกสินค้า
ปัจจุบันไดมอนด์ ทูเดย์ มีทั้งหมด 14 สาขา กระจายอยู่ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
โรบินสัน เซน อิเซตัน และเดอะมอลล์ โดยราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 1,000 บาทเศษไปจนถึงราคาเรือนแสน
แต่สำหรับรุ่นที่ขายดีระดับราคาจะอยู่ที่ 5,000-30,000 บาท
ชนัดดา กล่าวว่า เธอยังมีความฝันที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาอีก โดยจะเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจทางด้านแฟชั่น
ที่วันนี้ยังปิดเงียบเป็นความลับ
“แบบอย่างที่ได้จากการทำงานในวันนี้ นอกจากได้รับจากคุณพ่อคุณแม่ที่ท่านทั้งสองเป็นที่ปรึกษาที่ดีแล้ว
คุณพ่อสามี (สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์) ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้มีไฟและมีความกระตือรือล้นในการทำงานสูงมาก
แต่การเป็นจิราธิวัฒน์ อาจทำให้เราทำงานยากกว่าคนอื่น เพราะว่าต้องทำให้ดี
ให้สำเร็จ เพราะถ้าเราทำไม่สำเร็จก็จะทำให้ชื่อเสียงของจิราธิวัฒน์เสียหายได้”
ส่วนสะใภ้คนสุดท้ายที่ทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ก็คือ
ม.ล. สราลี กิติยากร จิราธิวัฒน์ ภรรยาธีรเดช จิราธิวัฒน์ (ลูกชายคนโตของสุทธิเกียรติ)
ที่แม้ว่าหน้าที่หลักของธีรเดช จะได้รับมอบหมายจากสุทธิเกียรติให้ดูแลธุรกิจฟาสต์ฟูด
แต่ม.ล.สราลี กลับมีความสุขและสนุกกับการเป็นพิธีกร และเป็นผู้ผลิตรายเที่ยวละไม
ไทยแลนด์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เป็นประจำทุกวันเสาร์เวลาประมาณ
10.00 น. ทั้งนี้คนในตระกูลจิราธิวัฒน์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าม.ล.สราลี
เป็นสะใภ้คนหนึ่งของตระกูลที่มีความสามารถ และได้นำความสามารถนั้นออกมาใช้อย่างเต็มที่
สุรางค์รัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันสะใภ้ส่วนใหญ่ของตระกูลจิราธิวัฒน์ จะทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน
หรือมีบ้างที่เข้ามาช่วยงานในเครือเซ็นทรัล แต่ไม่ว่าใครจะมีบทบาทเช่นไร
ทุกคนก็ล้วนมีปรัชญาการดำเนินชีวิตข้อหนึ่งที่เหมือนกันคือ การผสานกลมเกลียว
และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด