10 คำถามที่โชห่วยอยากรู้


ผู้จัดการรายวัน(26 สิงหาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

• คุณสมบัติของร้านค้าที่จะสมัครเป็นสมาชิกเออาร์ที จะต้องเป็นอย่างไร

ต้องเป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการค้าปลีก ค้าส่ง หรือการค้าประเภทเดียวกัน หรือได้รับมอบหมายจากผู้ประกอบการดังกล่าว ให้ดำเนินการเป็นสมาชิกในนามของธุรกิจนั้นๆ โดยมีความประสงค์ที่จะพัฒนาธุรกิจต่อไป และมีความพร้อมที่จะเข้ารับการอบรมจากเออาร์ทีทั้งก่อนและหลังการพัฒนาร้านค้าแล้ว

• จะเข้าร่วมโครงการของเออาร์ทีได้อย่างไร?

สมัครได้ที่บริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด เลขที่ 2034 ชั้น 29 อาคารอิตัลไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10240 หรือ โทรศัพท์ 02-716-1600 ต่อ 8500 , 8504 หรือหอการค้าประจำจังหวัดทุกจังหวัด

• ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

หลังจากที่ร้านค้าติดต่อกับเออาร์ทีแล้ว ทางเออาร์ที จะให้ร้านค้ากรอกใบสมัคร และเขียนแผนที่ตั้งร้านค้า เพื่อเออาร์ทีจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของร้านแต่ละร้านว่ามีความต้องการอะไร แล้วนำกลับมาวางแผนเพื่อพัฒนาร้านค้าแต่ไป

• ร้านค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอบรมหรือไม่

ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้สมาชิกยังได้รับสิทธิในการซื้อสินค้าเข้าร้านในราคาที่ถูกลง และได้รับบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ได้รับการส่งเสริมทางการตลาด การอบรมความรู้ทางด้านค้าปลีกฟรี

• ในการปรับปรุงร้านต้องใช้เงินมากหรือไม่

ขึ้นอยู่กับว่าจะพัฒนาร้านค้าให้ดีเพียงใด โดยเริ่มตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป สำหรับปรับปรุงจัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบ ส่วนรายที่ต้องการปรับปรุงให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทางเออาร์ที จะมีรูปแบบของร้านค้าให้เลือก 4 รูปแบบ คือ แบบเอ ร้านค้า 2 คูหา ติดแอร์ , แบบบี ร้านค้า 2 คูหา ไม่ติดแอร์ , แบบซี ร้านค้า 1 คูหา ติดแอร์ และแบบดี ร้านค้า 1 คูหา ไม่ติดแอร์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงร้านของแต่ละรายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความพร้อม และรูปแบบของร้านเดิมว่ามีการตกแต่งให้สวยงามอยู่ก่อนแล้วหรือไม่

• ถ้าไม่มีเงินทุนพัฒนาร้านค้า จะทำอย่างไร

ทางเออาร์ที ได้ร่วมกับสถาบันการเงินคือ ธนาคารกรุงไทย และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บอย. ที่จะสนับสนุนสินเชื่อให้โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

• ถ้าอยู่ต่างจังหวัดจะต้องติดต่อที่ไหน

หอการค้าจังหวัดทั้ง 75 จังหวัดจะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับเออาร์ที สำหรับสั่งซื้อสินค้า และช่วยติดต่อกับสถาบันการเงินให้

• สินค้าที่สั่งซื้อจากเออาร์ที เป็นสินค้าประเภทใด

สินค้าที่เออาร์ทีจะให้บริการนั้น มาจากซัปพลายเออร์กว่า 20 ราย อาทิ ยูนิลีเวอร์ สหพัฒน์ พีแอนด์จี คอลเกต เป็นต้น โดยแต่ละรายจะนำเสนอสินค้าขายดีรายละไม่เกิน 20 รายการ ซึ่งราคาที่ซัปพลายเออร์จำหน่ายให้แก่ร้านค้ารายย่อยจะเป็นราคาเท่ากับที่ขายให้แก่ค้าปลีกรายใหญ่

• หลังจากที่ปรับปรุงร้านค้าแล้ว ยอดขายจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

จะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะต้นทุนสินค้าที่ลดลงอันเนื่องมาจากการรวมกันสั่งซื้อสินค้าในปริมาณมาก เพราะซัปพลายเออร์ให้ความร่วมมือในการเสนอราคาสินค้าที่เท่ากับค้าปลีกรายใหญ่ นอกจากนี้การจัดร้านค้าให้มีระเบียบ รวมทั้งโปรโมชั่นที่จะมีให้แก่ลูกค้า จะส่งผลให้คนเข้าร้านเพิ่มขึ้น ซึ่งร้านค้าที่เออาร์ที ได้เข้าไปปรับปรุงแล้วประมาณ 30 ราย พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น จนบางร้านยอดขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือเท่ากับยอดขายก่อนที่จะเกิดผลกระทบจากค้าปลีกรายใหญ่แล้ว

• เมื่อปรับปรุงร้านค้าเสร็จแล้วต้องทำอะไรต่อไปอีกหรือไม่

ร้านค้าควรรับการอบรมความรู้ทางด้านค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวในวงการค้าปลีก ในการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับการแข่งขัน รวมทั้งการพัฒนาร้านค้าให้ทันสมัยและบริการลูกค้าได้ตรงกับความต้องการ ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าปลีกมีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันทางการค้าต่อไปได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.