การขายหุ้นที่ถืออยู่ในโรงแรมดุสิตธานีของบริษัททุนลดาวัลย์ จำนวน 8,739,572
หุ้น คิดเป็น 10.28% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้กับกลุ่ม Grandsworth Pte. เมื่อวันที่
2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวที่บ่งบอกถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลง
ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในโรงแรมเก่าแก่ และเคยเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานครแห่งนี้
ทุนลดาวัลย์ เป็นบริษัท Holding Company ของสำนัก งานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ที่จัดตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสำนักงานทรัพย์สินฯ
ในการลงทุนถือหุ้นบริษัทต่างๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ส่วน Grandsworth Pte. เป็น Holding Company เช่นกัน โดยเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่าง
Pioneer Global Group กับ ครอบครัว Gaw โดย Pioneer Global Group เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่
Hong Kong ส่วนครอบครัว Gaw ก็เป็นผู้บริหารของ Pioneer Global Group ด้วย
สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้มีการลงทุนถือหุ้นของโรงแรมดุสิตธานีไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรแล้ว
ก่อนจะมีการขายหุ้นออกมาในคราวนี้ ดังนั้นเมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้มี
การตัดสินใจขายหุ้นล็อตนี้ ย่อมต้องมีข้อสงสัยตามมาว่าจะมีเหตุผลอื่นใดอีกหรือไม่
นอกเหนือจากเป็นการปรับพอร์ตการลงทุน เพียงอย่างเดียว
ก่อนหน้าการขายหุ้นของทุนลดาวัลย์ เคยมีข่าวเป็นระยะ ว่ากลุ่มโกลด์แมนแซคส์
ซึ่งร่วมถือหุ้นของดุสิตธานีไว้ด้วยเป็นจำนวน 26.7 ล้านหุ้น หรือประมาณ 31.47%
ก็มีความต้องการที่ จะขายหุ้นที่ถือเอาไว้ แต่ยังไม่มีการรายงานการขายหุ้นออกมา
ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ หลังการทำรายการซื้อขายหุ้นกันระหว่างทุนลดาวัลย์กับ
Grandsworth Pte. ได้ไม่นาน ก็มีความเคลื่อนไหวจากฝั่งของท่านผู้หญิงชนัตถ์
ปิยะอุย โดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ได้เข้ามาซื้อหุ้นล็อตใหญ่ของโรงแรมดุสิตธานีในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ออกไปถึง 3 ครั้ง ในเวลาใกล้เคียงกัน
ครั้งแรก มีการซื้อขายกันในวันที่ 10 กรกฎาคม จำนวน 3.8 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ
37.25 บาท
ครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 มกราคม ท่านผู้หญิงชนัตถ์ได้ซื้อหุ้น อีกจำนวน
1.1 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 28 บาท
ครั้งที่ 3 มีการซื้อขายในวันที่ 24 กรกฎาคม จำนวน 60,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ
37 บาท
รวม 3 ครั้ง มีการซื้อหุ้นออกไปเป็นจำนวน 4.96 ล้านหุ้น เมื่อรวมกับหุ้นเดิมที่กลุ่มของท่านผู้หญิงชนัตถ์ได้ถือไว้ประมาณ
33.9 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 39.94% แล้ว สัดส่วนการถือหุ้น ของกลุ่มท่านผู้หญิงชนัตถ์
ปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณ 45%
ยังไม่มีรายงานออกมาว่าใครเป็นผู้ที่ขายหุ้นจำนวน 4.96 ล้านหุ้นให้กับท่านผู้หญิงชนัตถ์
แม้ในช่วงแรกที่ทุนลดาวัลย์มีการขายหุ้นให้กับ Grands worth Pte. บริษัทดุสิตธานีได้แจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ
ว่าการ เข้ามาซื้อหุ้นครั้งนี้ Grandsworth Pte. มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามา
ลงทุนระยะยาวในธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของ
Grandsworth Pte. นั้น Grandsworth Pte. จะเข้ามาช่วยสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาในกิจการของบริษัท
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น แต่ทั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานประจำวันของบริษัทแต่อย่างใด
แต่ปฏิกิริยาที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์จำเป็นต้องเข้าไปกว้านซื้อหุ้นในตลาดออกไป
ย่อมดึงดูดให้เรื่องราวความเป็นไปในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของโรงแรมดุสิตธานี
เป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตามต่อไปอย่างยิ่ง