|
น้ำมันพ่นพิษตลาดหุ้นไทยหมดเสน่ห ์"อเบอร์ดีน" พุ่งเป้าบุกอินเดีย-สิงคโปร์
ผู้จัดการรายวัน(3 สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหุ้นไทยหมดเสน่ห์หลังราคา น้ำมันทะยาน อเบอร์ดีนเตรียมลุยตลาดหุ้นอินเดีย-สิงคโปร์ เนื่องจากมีศักยภาพการทำกำไรในอนาคต หวังกระจายความเสี่ยง ล่าสุดเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด "อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิก เอค-ควิตี้ ฟันด์" มูลค่า 420 ล้านบาท ลุยตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนตั๋วบี/อี ปิคนิคเจ้าปัญหา ยันตีมูลค่าเป็นศูนย์เรียบร้อย ไม่มีนโยบายแปลงหนี้เป็นทุน
นายปีเตอร์ เอมส์ ผู้อำนวยการด้านการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด ประจำประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า กองทุนอเบอร์ดีนประเมินว่าในระยะยาวตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียถือว่าน่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ต้องพึ่งพาการลงทุนจากภูมิภาคอื่นมากนัก และมีอัตราการเติบโตที่เร็วกว่า
ขณะเดียวกัน ปัจจัยพื้นฐานด้านต่างๆ ถือว่าอยู่ ในเกณฑ์ดี และในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนได้มีการปรับตัวในเรื่องของต้นทุน ขณะที่ผู้บริหารก็ให้ความสนใจผู้ถือหุ้นรายย่อยมากขึ้น รวมทั้งมีการซื้อหุ้นกลับคืน และเริ่มให้ความสำคัญกับการจ่ายปันผลมากขึ้น นอกจากนี้ ระดับราคาซื้อขายหุ้นยังถือว่าถูกกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆด้วย
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ คือปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งส่งผลต่อเนื่องถึงการลงทุนที่ชะลอตัวลง
สำหรับตลาดหุ้นที่ กองทุนอเบอร์ดีนให้น้ำหนัก การลงทุนมากที่สุดคือประเทศอินเดีย และประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากทั้งสองประเทศนั้น โดยเฉพาะอินเดียมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างสูงประกอบกับการมีบริษัทที่มีคุณภาพ และยังมีศักยภาพในการดำเนินงานสูงในหลายอุตสาห-กรรม โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์และไอที
ส่วนประเทศสิงคโปร์นั้นความน่าสนใจอยู่ที่การ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังได้ รับผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ ประกอบกับการดำเนินงานของบริษัทที่มีความโปร่งใสมีความสามารถ ในการจ่ายปันผลได้ดีขึ้น และราคาซื้อขายหุ้นก็ไม่แพง
สำหรับการปรับค่าเงินหยวนของจีนนั้น นายปีเตอร์ กล่าวว่า ส่งผลดีทั้งในแง่การเมืองและมีความคล่องตัวมากขึ้นในแง่การเงินในประเทศ แต่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นแค่ไหน เนื่องจากจะส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการในประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ใช่ปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงมากในขณะนี้
นายณสุ จันทร์สม ผู้จัดการกองทุน บลจ. อเบอร์ดีน กล่าวว่า จากผลพวงของราคาน้ำมันที่ปรับ ตัวสูงขึ้นส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยชะลอตัวลง ทำให้บลจ.อเบอร์ดีนไม่ได้ตั้งเป้าดัชนีสิ้นปีว่าจะปรับตัวขึ้นไปได้ในระดับไหน ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดหุ้นในประเทศไทยยังมองว่าหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ และพลังงานน่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากมีการบริหารที่ดี ประกอบกับมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง
ล่าสุดบลจ.อเบอร์ดีนได้เปิดตัวกองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิก เอคควิตี้ ฟันด์ มูลค่า 420 ล้านบาทซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) กองแรกของบริษัท
โดยนายโรเบิร์ต เพนาโลซ่า รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า กองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่จะเข้าไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุน Aberdeen Pacific Equity Fund ที่จัดตั้งในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ของเอเชีย แปซิฟิก ที่ครอบคลุม 12 ตลาด ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ อินเดีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และศรีลังกา โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 10-31 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นที่เป็นการลง ทุนทั้งในหน่วยลงทุนและหุ้นสามัญที่มีปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและแข็งแกร่ง รวมทั้งมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 12.8% เมื่อเทียบกับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.6% โดยปัจจุบันกองทุน Aberdeen Pacific Equity Fund มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 127.3 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5,200 ล้านบาท
นายโรเบิร์ต กล่าวถึงกรณีที่กองทุนได้ไปลงทุน ในตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋ว B/E ของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) ว่า บลจ.อเบอร์ดีนมีสัดส่วนการลงทุนในตั๋ว B/E ของ PICNI เพียง 2.3% หรือประมาณ 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับผู้ลงทุนรายอื่นๆ โดยในส่วนของกองทุนที่กำลังจะหมดอายุในเดือนพฤศจิกายนนั้น ขณะนี้บริษัทได้รีแวลูกองทุนดังกล่าวเป็นศูนย์แล้ว ซึ่งหาก PICNI มีการจ่ายหนี้คืนให้ก็จะทำให้มูลค่าหน่วยลงทุน (เอ็นเอวี) สูงขึ้น
ทั้งนี้ หาก PICNI จะจ่ายคืนหนี้ด้วยการแปลง หนี้เป็นทุนนั้น ตามกฎก.ล.ต.แล้วไม่สามารถทำได้ PICNI จะสามารถจ่ายคืนหนี้ในรูปของเงินสดได้เท่านั้น ไม่สามารถจะแปลงหนี้เป็นทุนได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|