โค้งสุดท้ายประมูล TPIPL วัดใจเจ้าหนี้-ซีมองต์ฯถอย


ผู้จัดการรายวัน(1 สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น คึกคักแห่ขอร่างทีโออาร์แต่เอาเข้าจริงคิดหนัก "ซีมองต์ ฟรองเซส์-จากฝรั่งเศส" เลี่ยงเผชิญปัญหาขัดแย้ง "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ไม่เข้าประมูล ยังเหลือพันธมิตรซีมองต์ฯ แบงก์กรุงเทพเจ้าหนี้ทีพีไอโพลีนซื้อทีโออาร์อีกชุดในนามแบงก์ กลุ่มยักษ์ใหญ่ "โฮลซิม-ปูนกลาง" "ซีเม็กซ์" ตัวเก็ง แต่การประมูลมีผลถือหุ้น 30% เข้าข่ายเกิน 25% ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือไม่ยังเป็นปัจจัยกดดันการตัดสินใจ

แหล่งข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน (TPIPL) ว่า หลังจากที่มีการเปิดให้ผู้สนใจขอร่างเอกสารการประมูลราคาหุ้น (ทีโออาร์) เพื่อเข้าประมูลหุ้นทีพีไอโพลีน ที่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ถืออยู่จำนวน 249 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียน 807.5 ล้านหุ้น ได้ปรากฏว่า มีผู้ขอยื่นเอกสารไปจำนวนมากถึง 20 กว่าราย แสดงให้เห็นว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน จำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลจริงในวันที่ 9 สิงหาคม นี้กี่รายด้วยกัน

สำหรับผู้เข้าขอร่างทีโออาร์ ปรากฏว่า ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่เป็นยักษ์ในวงการธุรกิจปูนซีเมนต์ โลกหลายกลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มโฮลซิม ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนกลาง (SCCC) กลุ่มซีเม็กซ์ จากเม็กซิโก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามารวมทุนกับทีพีไอโพลีนอยู่แล้ว และกลุ่มบริษัทซีมองต์ ฟรองเซส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย ที่มี ธนาคารกรุงเทพร่วมถือหุ้นด้วย โดยก่อนหน้านี้กลุ่ม ซีมองต์ ฟรองเซส์ ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัทชลประทานซีเมนต์ ปูนเล็ก (JCC) 63.51% และนำหุ้นปูนเล็กออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯไป

ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซึ่งอยู่ในสถานะเป็นเจ้าหนี้ของทีพีไอโพลีน ด้วย ยังได้เข้าขอร่างทีโออาร์ในนามของธนาคารกรุงเทพ ส่วนกลุ่ม ซีมองต์ฯความคืบหน้าล่าสุดมีกระแสข่าวว่าได้ประชุมและลงมติตัดสินใจไม่เข้าประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนแล้ว เนื่องจากหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปมีส่วนขัดแย้งกับ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารคนสำคัญในทีพีไอโพลีน

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ซื้อเอกสารเพื่อ เข้าประมูลจากเดิมที่คาดว่าจะมี 4-5 รายจากจำนวน 20 กว่ารายนั้น ทั้งที่เป็นกลุ่มทุนเมืองไทยและยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจปูนซีเมนต์นั้น ปรากฏว่ายังไม่มีความ ชัดเจนว่าจะตัดสินใจเข้าประมูลซื้อหุ้น เพราะนอก จากปัจจัยกังวล คือ ไม่ต้องการที่จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยว ข้องกับความขัดแย้งกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แล้ว ยังพบว่ามีปัจจัยในเรื่องของสัดส่วนที่เข้าถือหุ้นเกิน 25% เข้าเกณฑ์ต้องมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นเป็นการทั่วไป หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์

"ความกังวลในเรื่องการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ถือเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการตัดสินใจเข้าประมูลหุ้นทีพีไอครั้งนี้ด้วย คนที่จะเข้าประมูลจริงต้องพิจารณาประเด็นนี้ เพราะเม็ดเงินที่ต้องใช้ทำเทน-เดอร์ฯหุ้นที่เหลือเป็นเม็ดเงินที่สูงมากจนหลายกลุ่มถึงกลับตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน อีกทั้งการทำเทนเดอร์ฯจะเป็นปัจจัยที่จะกดราคาประมูลหุ้นทีพีไอโพลีนลงอีกด้วย แม้แต่กลุ่มปูนกลาง ซึ่งได้แรงหนุนจากโฮลซิม และมีแนวโน้มที่จะชนะการ ประมูลสูงสุด เพราะปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ใช้กำลังการผลิตไปแล้วกว่า 90% ขณะที่มีกระแสเงินสด ถึง 3.2 พันล้านบาทในไตรมาสแรก ก็ยังต้องคิดหนักในประเด็นนี้"

ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุไว้ว่า การเข้าถือหุ้นข้ามร้อยละ 25 50 และ 75 ต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แต่อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ได้เปิดทางเรื่องการขอผ่อนผันไว้ โดยมีกฎ-เกณฑ์ที่เรียกว่า ไวท์วอช ซึ่งสามารถขอผ่อนผันจาก ก.ล.ต.ได้ แต่จะต้องผ่านการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของ ทีพีไอโพลีน โดยเสียง 3 ใน 4 แต่ทั้งนี้กรณีทีพีไอโพลีนจะต้องมีการปรึกษากันในหลายส่วนก่อน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.เอเพกซ์ จำกัด วิเคราะห์ว่า การเสร็จสิ้นการประมูลทีพีไอโพลีน จะส่งผลดีต่อทั้ง ทีพีไอ ที่คาดว่าจะสามารถลดหนี้ไปได้ กว่า 249 ล้านดอลล์ และดีต่อ ทีพีไอโพลีน ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจ เป็นทั้งพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ นักลงทุนที่มีฐานเงินทุนสนับสนุน และทำให้ราคาหุ้นไม่ตำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จากกรณีการวิตกต่อแรงขายของ ทีพีไอ

ในช่วงที่ผ่านมาบล.เอเพกซ์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ทีพีไอ จากข่าวดีหนี้ที่จะปรับลดลง และ ทีพีไอจากคาดว่าราคาหุ้นที่เหมาะสมจะปรับสูงขึ้นในอนาคต แนะนำ เก็งกำไรทีพีไอโพลีน Consensus Price 35.21 บาท


โค้งสุดท้ายประมูลTPIPLวัดใจเจ้าหนี้-ซีมองต์ฯถอย ประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น คึกคักแห่ขอร่างทีโออาร์แต่เอาเข้าจริงคิดหนัก "ซีมองต์ ฟรองเซส"์ จากฝรั่งเศส เลี่ยงเผชิญปัญหาขัดแย้ง "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ไม่เข้าประมูล ยังเหลือพันธมิตรซีมองต์ฯ แบงก์กรุงเทพเจ้าหนี้ทีพีไอโพลีนซื้อทีโออาร์อีกชุดในนามแบงก์ กลุ่มยักษ์ใหญ ่"โฮลซิม-ปูนกลาง" "ซีเม็กซ์" ตัวเก็ง แต่การประมูลมีผลถือหุ้น 30% เข้าข่ายเกิน 25% ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือไม่ยังเป็นปัจจัยกดดันการตัดสินใจ

แหล่งข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน (TPIPL) ว่า หลังจากที่มีการเปิดให้ผู้สนใจขอร่างเอกสารการประมูลราคาหุ้น (ทีโออาร์) เพื่อเข้าประมูลหุ้นทีพีไอโพลีน ที่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ถืออยู่จำนวน 249 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียน 807.5 ล้านหุ้น ได้ปรากฏว่า มีผู้ขอยื่นเอกสารไปจำนวนมากถึง 20 กว่าราย แสดงให้เห็นว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน จำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลจริงในวันที่ 9 สิงหาคม นี้กี่รายด้วยกัน

สำหรับผู้เข้าขอร่างทีโออาร์ ปรากฏว่า ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่เป็นยักษ์ในวงการธุรกิจปูนซีเมนต์ โลกหลายกลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มโฮลซิม ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนกลาง (SCCC) กลุ่มซีเม็กซ์ จากเม็กซิโก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามารวมทุนกับทีพีไอโพลีนอยู่แล้ว และกลุ่มบริษัทซีมองต์ ฟรองเซส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย ที่มี ธนาคารกรุงเทพร่วมถือหุ้นด้วย โดยก่อนหน้านี้กลุ่ม ซีมองต์ ฟรองเซส์ ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัทชลประทานซีเมนต์ ปูนเล็ก (JCC) 63.51% และนำหุ้นปูนเล็กออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯไป

ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซึ่งอยู่ในสถานะเป็นเจ้าหนี้ของทีพีไอโพลีน ด้วย ยังได้เข้าขอร่างทีโออาร์ในนามของธนาคารกรุงเทพ ส่วนกลุ่ม ซีมองต์ฯความคืบหน้าล่าสุดมีกระแสข่าวว่าได้ประชุมและลงมติตัดสินใจไม่เข้าประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนแล้ว เนื่องจากหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปมีส่วนขัดแย้งกับ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารคนสำคัญในทีพีไอโพลีน

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ซื้อเอกสารเพื่อ เข้าประมูลจากเดิมที่คาดว่าจะมี 4-5 รายจากจำนวน 20 กว่ารายนั้น ทั้งที่เป็นกลุ่มทุนเมืองไทยและยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจปูนซีเมนต์นั้น ปรากฏว่ายังไม่มีความ ชัดเจนว่าจะตัดสินใจเข้าประมูลซื้อหุ้น เพราะนอก จากปัจจัยกังวล คือ ไม่ต้องการที่จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยว ข้องกับความขัดแย้งกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แล้ว ยังพบว่ามีปัจจัยในเรื่องของสัดส่วนที่เข้าถือหุ้นเกิน 25% เข้าเกณฑ์ต้องมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นเป็นการทั่วไป หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์

"ความกังวลในเรื่องการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ถือเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการตัดสินใจเข้าประมูลหุ้นทีพีไอครั้งนี้ด้วย คนที่จะเข้าประมูลจริงต้องพิจารณาประเด็นนี้ เพราะเม็ดเงินที่ต้องใช้ทำเทน-เดอร์ฯหุ้นที่เหลือเป็นเม็ดเงินที่สูงมากจนหลายกลุ่มถึงกลับตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน อีกทั้งการทำเทนเดอร์ฯจะเป็นปัจจัยที่จะกดราคาประมูลหุ้นทีพีไอโพลีนลงอีกด้วย แม้แต่กลุ่มปูนกลาง ซึ่งได้แรงหนุนจากโฮลซิม และมีแนวโน้มที่จะชนะการ ประมูลสูงสุด เพราะปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ใช้กำลังการผลิตไปแล้วกว่า 90% ขณะที่มีกระแสเงินสด ถึง 3.2 พันล้านบาทในไตรมาสแรก ก็ยังต้องคิดหนักในประเด็นนี้"

ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุไว้ว่า การเข้าถือหุ้นข้ามร้อยละ 25 50 และ 75 ต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แต่อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ได้เปิดทางเรื่องการขอผ่อนผันไว้ โดยมีกฎ-เกณฑ์ที่เรียกว่า ไวท์วอช ซึ่งสามารถขอผ่อนผันจาก ก.ล.ต.ได้ แต่จะต้องผ่านการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของ ทีพีไอโพลีน โดยเสียง 3 ใน 4 แต่ทั้งนี้กรณีทีพีไอโพลีนจะต้องมีการปรึกษากันในหลายส่วนก่อน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.เอเพกซ์ จำกัด วิเคราะห์ว่า การเสร็จสิ้นการประมูลทีพีไอโพลีน จะส่งผลดีต่อทั้ง ทีพีไอ ที่คาดว่าจะสามารถลดหนี้ไปได้ กว่า 249 ล้านดอลล์ และดีต่อ ทีพีไอโพลีน ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจ เป็นทั้งพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ นักลงทุนที่มีฐานเงินทุนสนับสนุน และทำให้ราคาหุ้นไม่ตำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จากกรณีการวิตกต่อแรงขายของ ทีพีไอ

ในช่วงที่ผ่านมาบล.เอเพกซ์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ทีพีไอ จากข่าวดีหนี้ที่จะปรับลดลง และ ทีพีไอจากคาดว่าราคาหุ้นที่เหมาะสมจะปรับสูงขึ้นในอนาคต แนะนำ เก็งกำไรทีพีไอโพลีน Consensus Price 35.21 บาท


โค้งสุดท้ายประมูลTPIPLวัดใจเจ้าหนี้-ซีมองต์ฯถอย ประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น คึกคักแห่ขอร่างทีโออาร์แต่เอาเข้าจริงคิดหนัก "ซีมองต์ ฟรองเซส์-จากฝรั่งเศส" เลี่ยงเผชิญปัญหาขัดแย้ง "ประชัย เลี่ยวไพ-รัตน์" ไม่เข้าประมูล ยังเหลือพันธมิตรซีมองต์ฯ แบงก์กรุงเทพเจ้าหนี้ทีพีไอโพลีนซื้อทีโออาร์อีกชุดในนามแบงก์ กลุ่มยักษ์ใหญ ่"โฮลซิม-ปูนกลาง" "ซีเม็กซ์" ตัวเก็ง แต่การประมูลมีผลถือหุ้น 30% เข้าข่ายเกิน 25% ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือไม่ยังเป็นปัจจัยกดดันการตัดสินใจ

แหล่งข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน (TPIPL) ว่า หลังจากที่มีการเปิดให้ผู้สนใจขอร่างเอกสารการประมูลราคาหุ้น (ทีโออาร์) เพื่อเข้าประมูลหุ้นทีพีไอโพลีน ที่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ถืออยู่จำนวน 249 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียน 807.5 ล้านหุ้น ได้ปรากฏว่า มีผู้ขอยื่นเอกสารไปจำนวนมากถึง 20 กว่าราย แสดงให้เห็นว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีน จำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลจริงในวันที่ 9 สิงหาคม นี้กี่รายด้วยกัน

สำหรับผู้เข้าขอร่างทีโออาร์ ปรากฏว่า ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่เป็นยักษ์ในวงการธุรกิจปูนซีเมนต์ โลกหลายกลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มโฮลซิม ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนกลาง (SCCC) กลุ่มซีเม็กซ์ จากเม็กซิโก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามารวมทุนกับทีพีไอโพลีนอยู่แล้ว และกลุ่มบริษัทซีมองต์ ฟรองเซส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย ที่มี ธนาคารกรุงเทพร่วมถือหุ้นด้วย โดยก่อนหน้านี้กลุ่ม ซีมองต์ ฟรองเซส์ ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัทชลประทานซีเมนต์ ปูนเล็ก (JCC) 63.51% และนำหุ้นปูนเล็กออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯไป

ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซึ่งอยู่ในสถานะเป็นเจ้าหนี้ของทีพีไอโพลีน ด้วย ยังได้เข้าขอร่างทีโออาร์ในนามของธนาคารกรุงเทพ ส่วนกลุ่ม ซีมองต์ฯความคืบหน้าล่าสุดมีกระแสข่าวว่าได้ประชุมและลงมติตัดสินใจไม่เข้าประมูลซื้อหุ้นทีพีไอโพลีนแล้ว เนื่องจากหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปมีส่วนขัดแย้งกับ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารคนสำคัญในทีพีไอโพลีน

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ซื้อเอกสารเพื่อ เข้าประมูลจากเดิมที่คาดว่าจะมี 4-5 รายจากจำนวน 20 กว่ารายนั้น ทั้งที่เป็นกลุ่มทุนเมืองไทยและยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจปูนซีเมนต์นั้น ปรากฏว่ายังไม่มีความ ชัดเจนว่าจะตัดสินใจเข้าประมูลซื้อหุ้น เพราะนอก จากปัจจัยกังวล คือ ไม่ต้องการที่จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยว ข้องกับความขัดแย้งกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แล้ว ยังพบว่ามีปัจจัยในเรื่องของสัดส่วนที่เข้าถือหุ้นเกิน 25% เข้าเกณฑ์ต้องมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นเป็นการทั่วไป หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์

"ความกังวลในเรื่องการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ถือเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการตัดสินใจเข้าประมูลหุ้นทีพีไอครั้งนี้ด้วย คนที่จะเข้าประมูลจริงต้องพิจารณาประเด็นนี้ เพราะเม็ดเงินที่ต้องใช้ทำเทนเดอร์ฯหุ้นที่เหลือเป็นเม็ดเงินที่สูงมากจนหลายกลุ่มถึงกลับตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน อีกทั้งการทำเทนเดอร์ฯจะเป็นปัจจัยที่จะกดราคาประมูลหุ้นทีพีไอโพลีนลงอีกด้วย แม้แต่กลุ่มปูนกลาง ซึ่งได้แรงหนุนจากโฮลซิม และมีแนวโน้มที่จะชนะการ ประมูลสูงสุด เพราะปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ใช้กำลังการผลิตไปแล้วกว่า 90% ขณะที่มีกระแสเงินสด ถึง 3.2 พันล้านบาทในไตรมาสแรก ก็ยังต้องคิดหนักในประเด็นนี้"

ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุไว้ว่า การเข้าถือหุ้นข้ามร้อยละ 25 50 และ 75 ต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แต่อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ได้เปิดทางเรื่องการขอผ่อนผันไว้ โดยมีกฎ-เกณฑ์ที่เรียกว่า ไวท์วอช ซึ่งสามารถขอผ่อนผันจาก ก.ล.ต.ได้ แต่จะต้องผ่านการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของ ทีพีไอโพลีน โดยเสียง 3 ใน 4 แต่ทั้งนี้กรณีทีพีไอโพลีนจะต้องมีการปรึกษากันในหลายส่วนก่อน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.เอเพกซ์ จำกัด วิเคราะห์ว่า การเสร็จสิ้นการประมูลทีพีไอโพลีน จะส่งผลดีต่อทั้ง ทีพีไอ ที่คาดว่าจะสามารถลดหนี้ไปได้ กว่า 249 ล้านดอลล์ และดีต่อ ทีพีไอโพลีน ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจ เป็นทั้งพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ นักลงทุนที่มีฐานเงินทุนสนับสนุน และทำให้ราคาหุ้นไม่ตำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จากกรณีการวิตกต่อแรงขายของ ทีพีไอ

ในช่วงที่ผ่านมาบล.เอเพกซ์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ทีพีไอ จากข่าวดีหนี้ที่จะปรับลดลง และ ทีพีไอจากคาดว่าราคาหุ้นที่เหมาะสมจะปรับสูงขึ้นในอนาคต แนะนำ เก็งกำไรทีพีไอโพลีน Consensus Price 35.21 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.