ยูนิฟบ่ายหน้าสู่ภูธรเปิดศึกชาเขียวซุ่มดันอีโมชันแทน-เล็งลดไซส์


ผู้จัดการรายวัน(28 กรกฎาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

นายธนวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ยูนิเพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่ม, น้ำผัก-ผลไม้ ตรายูนิฟ เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดจากนี้ยูนิฟ กรีนทีจะเริ่มบุกตลาดต่างจังหวัดในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากพบว่าอัตราการบริโภคของตลาดต่างจังหวัดเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากปัจจุบันการทำตลาดยูนิฟ กรีนทีจะเน้นเฉพาะบริเวณกรุงเทพฯและภาคกลางเป็นหลักเท่านั้น โดยบริษัทจะเริ่มทำตลาดเจาะลูกค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ซึ่งเป็นภาคที่มีอัตราการเติบโตในอันดับต้นๆ ผ่านช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรดในสัดส่วนที่เท่ากัน 50:50

"ก่อนหน้านี้การแข่งขันตลาดชาเขียวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้พบว่าการแข่งขันของตลาดชาเขียวจะแข่งในเรื่องของดิสทริบิวชัน หรือการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยที่ผ่านมายูนิฟเน้นการทำตลาดเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นหลักในสัดส่วนถึง 90% ต่างจังหวัด 10% แต่หลังจากที่เริ่มขยายตลาดสู่ภาคกลาง สัดส่วนกรุงเทพฯ และภาคกลางรวมเป็น 75% ที่เหลือ 25% เป็นภาคอื่นๆ"

ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะหันมาสร้างตราสินค้าให้มีความแข็งแกร่ง ทั้งในเชิงคอร์ปอเรต ควบคู่กับการทำโปรโมชัน เนื่องจากการแข่งขันมีความรุนแรงมีสินค้าที่อยู่ในตลาด 35 แบรนด์ ทำให้ล่าสุดได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "ยูนิฟ 7 วันโชคทองกองตรงหน้า" แจกสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 100 เส้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์ โดยมีรางวัลใหญ่เป็นขวดยูนิฟทองคำหนัก 100 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม-10 ตุลาคม 2548

พร้อมกันนี้ยังได้นำ "กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญ "ยูนิฟ 7 วันโชคทองกองตรงหน้า" รวมทั้งคาราวาน ดารานางแบบตระเวนแห่ทอง 12 ล้านบาท ไปตามแหล่งชุมชน และยังได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท เปิดตัวโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ ทั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดแคมเปญครั้งใหญ่ในรอบปี

นางสาวชุติมา สุโรจนานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ชาเขียว ยูนิฟ กรีนที บริษัท ยูนิเพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค กรณีที่ยูนิฟ กรีนทีจะปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เล็กลงว่าจะมีการตอบรับอย่างไรบ้าง รวมทั้งเตรียมหันมาทำตลาดในลักษณะของอีโมชันมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ในระยะยาว จากที่ผ่านมาการทำตลาดจะชูในเรื่องของฟังก์ชันนัล หรือประโยชน์จากชาเขียวมาโดยตลอด และในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้จะเปิดตัวรสชาติใหม่ลงสู่ตลาด

ปัจจุบันยูนิฟ กรีนทีเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก 50% น้ำผัก-ผลไม้ 30% และไอเฟิร์ม 20% โดยหลังจากจัดแคมเปญ "ยูนิฟ 7 วันโชคทองกองตรงหน้า" คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาทดลองดื่ม รวมทั้งลูกค้าจากคู่แข่ง จะช่วยผลักดันยอดขาย 10% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 29-30% ขณะที่ตัวน้ำผัก-ผลไม้คาดว่าส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้น 15-20% ส่วนแคมเปญก่อนหน้านั้นสามารถกระตุ้นยอดขาย 20%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.