วัน-ทู-คอลดึง"ปาล์มมี่"สร้างกระแสใหม่


ผู้จัดการรายวัน(16 สิงหาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

วัน-ทู-คอล เปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ดึง "ปาล์มมี่"เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ วางงบกิจกรรมการตลาดโปรโมตหนักกว่า 60 ล้านบาทในช่วงแรก สื่อสารตรงใจถึงกลุ่มเป้าหมาย ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ปลายปีฟันเต็มๆ กว่า 8 ล้านเลขหมาย เติบโตขึ้น 360% ยึดตำแหน่งมาร์เกตดีลเลอร์ในฐานะเบ็ดเสร็จ พร้อมอัดบริการเสริมใหม่รอง รับความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ สร้างรายได้หลักทั้งจากค่าแอร์ไทม์และบริการเสริมเพียบ

นายทรงศักดิ์ เปรมสุข รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงาน การตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่วัน-ทู-คอล เปิดเผยว่าทางบริษัทเตรียมแต่งตัวให้กับแบรนด์วัน-ทู-คอลใหม่ โดยการดึงศิลปินเพลง "ปาล์มมี่" มาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่แทน "ซาร่า" ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ ให้กับวัน-ทู-คอล มากว่า 2 ปี เท่า กับอายุของแบรนด์ที่เป็นมา 2 ปีกว่าเช่นกัน นับเป็นการสะท้อนภาพลักษณะอิสระในแบบวัน-ทู-คอล อย่างแท้จริง

สำหรับการที่วัน-ทู-คอล เลือก "ปาล์มมี่" เป็นพรีเซนเตอร์ เนื่องจากเป็นนักร้องรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมมากจากการออกผลงานเพลงชุดแรก ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแบรนด์ ที่ต้องการเลือกตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ เบื้องหลังความสำเร็จของปาล์มมี่มาจากความมั่นใจ มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองรัก และหาโอกาสที่จะทำให้ตนเองประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นบุคลิก ที่สอดคล้องกันแนวความคิดของวัน-ทู-คอล และปาล์มมี่มีบุคลิกและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่สอด คล้องกับบุคลิกของกลุ่มเป้าหมาย และบุคลิกของผลิตภัณฑ์วัน-ทู-คอล

"ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่สอด คล้องกันทำให้วัน-ทู-คอล เชื่อมั่นว่า การมีพรีเซ็นเตอร์เป็นปาล์มมี่จะช่วยในการส่งเสริม และตอกย้ำแนวคิดอิสระ หรือฟรีดอทคอนเซ็ปต์ ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของผลิตภัณฑ์วัน-ทู-คอล ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน"

ที่สำคัญ "ปาล์มมี่" จะเสมือนตัวแทนของแบรนด์วัน-ทู-คอล ในการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลให้วัน-ทู-คอล สามารถเข้า ไปเป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเลือกใช้ โดยในระยะแรกปาล์มมี่มีสัญญากับทางวัน-ทู-คอล 1 ปี ส่วนรายละเอียดของค่า ตัวนั้นทางผู้บริหารวัน-ทู-คอล เปิดเผยว่าเป็นตัวเลขประมาณเจ็ดหลัก ส่วนงบกิจกรรมทาง การตลาดในช่วงการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ในครั้งนี้ ทางวัน-ทู-คอล ได้เตรียมงบไว้กว่า 60 ล้านบาท

นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากปาล์มมี่จะเป็นตัวแทนของแบรนด์แล้ว ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างยอดขายของวัน-ทู-คอล ให้เดินหน้าต่อไป โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นมาร์เก็ตดีลเลอร์ของตลาดโทรศัพท์มือถือพรีเพด คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ตัวเลขผู้ใช้วัน-ทู-คอล จะมีทั้งสิ้นประมาณ 8 ล้านเลขหมาย ซึ่ง ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงอัตราการเติบโตถึง 360% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขผู้ใช้บริการในปี 2544 ที่มีประมาณ 2.2 ล้านเลขหมาย

ปัจจุบันวัน-ทู-คอล ยังอยู่ในฐานะผู้นำตลาดพรีเพด โดยมียอดผู้ใช้งานทั้งสิ้น 5.7 ล้าน เลขหมาย จากตลาดรวมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 12.7 ล้านเลขหมาย หรือมีส่วนแบ่งทาง การตลาดประมาณ 39% หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 64% จากตลาดพรีเพดทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 7.8 ล้านเลขหมาย ขณะที่บริษัทคู่แข่งมียอดผู้ใช้งานน้อยกว่ามาก โดยดีแทคมีประมาณ 2.7 ล้านเลขหมาย และทีเอออเร้นจ์มีประมาณ 1 แสนเลขหมาย

"เดือนที่ผ่านมาถือเป็นเดือนที่วัน-ทู-คอลทำ สถิติยอดขายสูงสุดคือ 6.6 แสนเลขหมาย หลังจากที่ตัวเลขยอดขายเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี โดยใน เดือนมกราคมมียอดขายอยู่ที่ 3.9 แสนเลขหมาย ต่อเดือน และเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนปัจจุบันมียอดขายเกือบ 7 แสนเลขหมาย"

นอกจากการผลักดันตัวเลขในด้านยอดขาย แล้ว วัน-ทู-คอลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการเสริมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงทำ ให้มีความต้องการที่หลากหลายทั้งทางด้านไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการ พบว่าลูกค้าวัน-ทู-คอล มีคามต้องการใช้บริการเสริมประเภทนอนวอยซ์เพิ่มมากขึ้น

วัน-ทู-คอล จึงได้พัฒนาบิรการในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอดมา เพื่อการตอบสนอง การให้บริการทางด้านไลฟ์สไตล์ ได้แก่ บริการส่ง ข้อความสั้น บริษัทดาว์นโหลดโลโก้ ริงโทน บริการมิวสิคทูเกตเตอร์ และบริการอินเตอร์เนชั่นแนลคอลล์ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี

ล่าสุดวัน-ทู-คอล ได้เปิดให้บริการ Freedom Planet บริการข้ามแดนอัตโนมัติ ถือได้ว่า เป็นบริการที่ตรงกับแนวคิดของผลิตภัณฑ์ ที่มีความสะดวก ง่าย และรวดเร็ว โดยเป็นบริการที่ ใช้บริการได้ทันที ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปิด ใช้บริการ เพิ่มความสะดวกเนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถโทร.กลับมาประเทศไทยเพื่อเติมเงินได้ฟรี โดยใช้ Refilled Card จากการใช้มือถือของตนเอง สามารถเช็กยอดเงินคงเหลือได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถโทร.กลับมาสอบถามวิธีการใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เอไอเอสคอลล์เซ็นเตอร์ โดยการกด *122# โดยบริการบริการข้ามแดนอัตโนมัติจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งวันที่ 19 สิงหาคม 2545

นายทรงศักดิ์ กล่าวว่าขณะนี้รายได้ของวัน-ทู-คอล จึงไม่ได้มาเฉพาะค่าแอร์ไทม์เท่านั้น แต่ จะมาจากรายได้ของบริการเสริม ซึ่งเฉพาะบริการ ข้ามแดนอัตโนมัติบริษัทคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมี ยอดผู้ใช้บริการกว่า 350,000 คน สามารถทำราย ได้กว่า 250 ล้าน บาท ส่วนรายได้บริการเสริมอื่นๆ ยอดตัวเลขเดือนล่าสุดระบุว่าบริการส่งข้อ ความสั้นมีรายได้ประมาณ 75 ล้านบาทต่อเดือน บริการอินเตอร์เนชั่นแนลคอลล์ 58 ล้านบาทต่อเดือน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.