| |
"กสท" เลื่อนบริการซีดีเอ็มเอภูธรรอเครือข่ายหัวเหว่ยครบพันแห่ง
ผู้จัดการรายวัน(27 กรกฎาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
กสท ปรับแผนซีดีเอ็มเอภูธร เลื่อนให้บริการเป็นไตรมาสแรกปีหน้า หลังรอหัวเหว่ยส่งมอบเครือข่ายเฟสแรก 1 พันสถานีฐาน พร้อมสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจเชื่อมโยงเครือข่ายไอทีรัฐ หวังทดแทนรายได้จากโทร.ต่างประเทศที่ลดลง
นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กสทปรับแผนการตลาดโทรศัพท์มือถือซีดีเอ็มเอในภูมิภาคใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดบริการในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ เป็นภายในไตรมาสแรกของปี 2549 ภายหลังจากที่ผู้บริหารมีความเห็นตรงกันว่า หากเปิดบริการด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมในพื้นที่จำกัด ไม่สามารถให้บริการได้เต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับบริการซีดีเอ็มเอของกสท
นอกจากนี้บริษัท หัวเหว่ย ที่เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งเครือข่ายซีดีเอ็มเอในภูมิภาค ก็แสดงความต้องการว่าจะส่งมอบ 1,000 สถานีฐานในเฟสแรกภายในเดือนม.ค. 2549 จากเดิมที่เฟสแรกจะส่งมอบเพียง 800 สถานีฐาน ทำให้กสทเห็นว่าเมื่อได้สถานีฐานมากถึง 1,000 แห่งแล้วจึงเปิดบริการจะมีความเหมาะสมกว่า
"ถ้าให้บริการในพื้นที่จำกัด ลูกค้าอาจไม่พอใจที่บางพื้นที่ใช้ไม่ได้ และทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับแบรนด์ซีดีเอ็มเอภูมิภาคของกสท ซึ่งเป็นเรื่องยากในการจะทำให้กลับมาดีได้"
สำหรับการดำเนินงานของบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอทีไวร์เลส มัลติมีเดียซึ่งเป็นผู้ทำการตลาดโทรศัพท์มือถือระบบซีดีเอ็มเอในภาคกลาง ภายใต้ชื่อ ฮัทช์ นั้น ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากแข่งขันด้านราคาทำให้รายได้ลดลง แต่หลังจากนี้ไปคาดว่าจะดีขึ้นโดยเฉลี่ยในระบบพรีเพดประมาณ 400 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน และระบบโพสต์เพดประมาณ 1,000 บาท
นายสมพลกล่าวว่า ในด้านบริการระบบเชื่อมโยงเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศกสท ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้อีก 1,000 ล้านบาท ในอีก 2 ปี จากเดิมที่มีรายได้ในส่วนนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือ 10% ของรายได้รวมทั้งหมดโดย กสท ได้ร่วมมือกับจังหวัดนนทบุรี พัฒนาระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจังหวัดนนทบุรี
ขณะเดียวกัน ก็ตั้งเป้าหมายที่จะให้หน่วยงานราชการประมาณ 50% ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ใช้ระบบของ กสท เพื่อดำเนินโครงการ e-Government ของรัฐบาลด้วย เนื่องจากรายได้จากบริการโทรศัพท์ต่างประเทศลดลงประมาณ 20% จาก 1.2 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ทำให้กสทจำเป็นต้องสร้างรายได้จากธุรกิจด้านอื่นไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งด้านการเชื่อมโยงเครือข่าย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|