|
เจ้าของจักรยาน LA บุกอสังหาฯ ดันแบรนด์ "อิมเมจ เพลส" ชิมลาง-เจาะตลาดย่านพุทธมณฑล
ผู้จัดการรายวัน(27 กรกฎาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เจ้าของจักรยาน LA และกลุ่มธุรกิจสิ่งทอ ลุยธุรกิจอสังหาฯ ประเดิมโครงการแรก "อิมเมจ เพลส" มูลค่า 1,600 ล้าน หวังสร้างชื่อในย่านพุทธมณฑลสาย 4 ยันพัฒนาต่อเนื่อง แต่ขอดูภาวะเศรษฐกิจก่อนลงมือ เล็งหาที่ดินกว่า 400 ไร่สร้างอาณาจักร "ติยะวัชรพงศ์"
นายสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมเมจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยเปิดโครงการแรกภายใต้ชื่อ "อิมเมจ เพลส (IMAGE PLACE)" ตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่พุทธมณฑลสาย 4 จ.นครปฐม เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 327 ยูนิต บนพื้นที่ 85 ไร่ ขนาดตั้งแต่ 50-80 ตร.ว. ราคา 3.9-7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
"โครงการฯ นี้เป็นโครงการแรกของเราเพื่อต้องการก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว และสร้างรากฐานให้ธุรกิจนี้เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ของครอบครัว ไม่ได้ยึดอยู่เพียงแค่ธุรกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอและธุรกิจอื่นๆ ของครอบครัวที่สร้างรากฐานมานานตั้งแต่ดั้งเดิมเท่านั้น อีกทั้งเรามีเป้าหมายผลักดันให้บริษัทฯนี้เติบโตอย่างมั่นคง เป็นบริษัทฯ ระดับชั้นนำในวงการต่อไปด้วย" นายสุรสิทธิ์กล่าว
นายสุรสิทธิ์กล่าวอีกว่า ได้เล็งเห็นแล้วว่า ทิศทางและโอกาสการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในสภาวะตกต่ำ มีปัจจัยลบภายนอกต่างๆ มากระทบ แต่ธุรกิจนี้ต่างก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นธุรกิจที่คงอยู่ต่อไปและบ้านถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนฝันอยากจะมีที่อยู่อาศัยที่ดีเป็นของตนเอง
นอกจากนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงผันผวน แต่หากสินค้าที่พัฒนาตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ การพัฒนาคุณภาพสูง ก็เชื่อว่าการทำการตลาดจะไม่ยาก ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการฯถือว่าอยู่ในเขตควบคุมอาคารพุทธมณฑล ที่กำหนดให้การสร้างอาคารในรัศมี 1 กิโลเมตรต้องสูงไม่เกิน 18 เมตร เนื้อที่ไม่เกิน 1,000 ตร.ม. ในรัศมีไม่เกิน 300 เมตร สร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 12 เมตร จึงเชื่อได้ว่าเขตดังกล่าวจะไม่มีตึกสูงเกิดขึ้น จึงเหมาะที่จะอยู่อาศัยอย่างยิ่ง
สำหรับโครงการ 2 ที่จะพัฒนาตามมาต่อเนื่องนั้น นายสุรสิทธิ์กล่าวว่า จะมุ่งพัฒนาที่ดินในย่านพุทธมณฑลเป็นพื้นที่หลัก ในลักษณะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยว ขณะนี้กำลังทำการรวบรวมแลนด์แบงก์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 50 ไร่ รวมถึงพิจารณาลักษณะที่อยู่อาศัยในประเภทต่างๆ โดยศึกษาอย่างละเอียดทั้งคู่แข่ง กลุ่มลูกค้า ความต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงปัจจัยลบ นอกจากนี้ยังรอดูภาวะตลาดอสังหาฯโดยรวมและภาวะเศรษฐกิจก่อนพัฒนาด้วย นอกจากนี้ยังมีที่ดินริมแม่น้ำท่าจีนอีกกว่า 100 ไร่แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา
นายสุรพล ธนโชติวรพงศ์ ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า ถือเป็นโครงการที่มุ่งสร้างคุณภาพและมาตรฐานของที่อยู่อาศัยที่ดีในระดับเทียบเท่ากับโครงการบ้านหรู เพื่อทำชื่อเสียงที่ดีให้แก่บริษัทฯ ปูทางสู่โครงการอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ดังนั้น จากสภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในย่านพุทธมณฑลสาย 4 ที่ส่วนใหญ่ 80% มาจากผู้ประกอบการท้องถิ่น มีลักษณะเป็นโครงการเล็ก ขนาดไม่ใหญ่ จะมีเพียงส่วนน้อยที่มาจากผู้ประกอบการรายใหญ่และมักเป็น บ้านขนาด 100 ตารางวาในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ท่ามกลางสภาวะตลาดบ้านแพงมีการแข่งขันสูง และยังไม่มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลางขนาดใหญ่ 200 ยูนิตขึ้นไปในย่านนี้มาก่อน จึงเป็นช่องว่างตลาดที่โครงการอิมเมจ เพลส มุ่งทำตลาดบ้านเดี่ยวคุณภาพดีมีมาตรฐานระดับกลาง
ทั้งนี้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย จากทาวน์เฮาส์ บ้านขนาดเล็ก หรืออาคารพาณิชย์ มาเป็นบ้านเดี่ยวขนาดที่ใหญ่ขึ้น เป็นครอบครัวในระดับปานกลาง คนรุ่นใหม่ที่มีรายได้รวมกันในระดับตั้งแต่ 4-5 หมื่นบาทขึ้นไป ในพื้นที่บริเวณย่านพุทธมณฑลสาย 4 เพชรเกษม ศาลายา อ้อมใหญ่ อ้อมน้อย หนองแขม และย่านพุทธมณฑลสาย 5
บริษัทฯ จึงวางจุดเด่นโครงการเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย ให้เป็น "สังคมที่สมบูรณ์พร้อม" โดยจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง 5% พร้อมโซนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านหน้าโครงการ ได้แก่ Sport Center ที่ประกอบด้วย ฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำมาตรฐาน สร้างเป็นศูนย์สุขภาพชั้นนำระดับมาตรฐานสากล ศูนย์การเรียนการสอนบนพื้นที่ 3 ไร่ ส่วนพื้นที่พลาซา ในเนื้อที่ 5 ไร่เศษสร้างเป็นร้านค้า และร้านอาหาร
ด้านการขายของบริษัทมุ่งขายบ้าน 2 ลักษณะในสไตล์แบบบ้านยูโรเปี้ยนคลาสสิก คือ ส่วนที่เป็นกลุ่มบ้านพร้อมอยู่ ขณะนี้ทำการขายพรีเซลช่วง 6 เดือนที่ผ่านไปแล้วจำนวน 110 หลัง มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และในช่วงเปิดตัวเป็นทางการเดือน ก.ค.-ส.ค. นี้คาดว่าจะขายได้เพิ่มอีก 40 หลัง และยังมีส่วนที่เป็นกลุ่มบ้านสั่งสร้างบริเวณเฟสด้านหน้าจำนวน 40 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันเปิดให้จองในช่วงเปิดโครงการนี้ด้วย สำหรับโครงการนี้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 7 เฟส ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเฟสที่ 3 จำนวน 50 ยูนิต
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงเปิดตัวเป็นทางการดังกล่าว บริษัทฯ จัดรายการส่งเสริมการขายโดยการให้ส่วนลดค่าที่ดินตารางวาละ 2,000 บาท ส่วนลดราคาบ้านหลังละ 1 แสนบาท แถมชุดครัว แอร์ ติดวอลเปเปอร์ให้ จัดสวนทุกหลัง เฉพาะ 20 หลังแรกที่ตัดสินใจจองในช่วง Grand Opening จะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 1 แสนบาท จาก SB Furniture ส่วนความคืบหน้าด้านการ ก่อสร้าง ทางโครงการฯเริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2547 การก่อสร้างคืบหน้าไปประมาณ 40% คาดว่าจะแล้วเสร็จ ก.ค. 2550 มีธนาคารกรุงเทพฯ เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการฯวงเงิน 300 กว่าล้านบาท
ในปัจจุบันแต่ละบริษัทในกลุ่มจะมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ในย่านพุทธมณฑล นครปฐม ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะจัดหาที่ดินขนาด 400-500 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมของตระกูล "ติยะวัชรพงศ์" โดยจะรวมเอาโรงงานทุกโรงเข้ามาไว้ในนิคมฯ นี้เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|