หุ้นสื่อสารปั่นป่วน JASMIN เปิดฉากพึ่ง ศาลฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งบริษัทลูกอย่างจัสมิน โอเวอร์ซีส์ เนื่อง จากกระแสเงินสดของบริษัทไม่สอดคล้องกับตารางชำระหนี้ที่เป็นเงินสกุลต่างประเทศ จึงต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับโครงสร้างรายได้ ฉุด TT&T ร่วงตาม แถม ด้วย ADVANC ที่ต้องวัดดวงเรื่องหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท

แม้ว่าวานนี้(13 ส.ค.)ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับลดลงเพียง เล็กน้อย แค่ 0.60 จุด ปิดที่ 366.47 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่หนาตาขึ้นกว่าเดิมที่ 7,210.60 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศซื้อหุ้นสุทธิ 396.35 ล้านบาท

ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันในประเทศเทขายออกมา หลังจากแตกตื่นจากการที่บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ JASMIN ได้ ยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นตัวนี้และบริษัทลูกอย่างบริษัท ไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T ออกมาอย่างหนัก

หุ้นของ JASMIN ปิดตลาดที่ 2.74 บาท ลดลง 1.16 บาท หรือ ลดลง29.74% ขณะที่บริษัท TT&T ที่เป็นบริษัทลูกที่จัสมินถือหุ้นอยู่ราว 35% ก็ถูกเทขายหนักไม่แพ้กัน ปิด ตลาดที่ 2.14 บาท ลดลง 0.48 บาท หรือลดลง 18.32%

ขณะที่บริษัทเทเลคอมเอเชียก็มีการเพิ่มทุนอีก 1 หมื่นล้านบาท กลายเป็นข่าวรายสำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร ส่งผลให้หุ้นทุกตัวในกลุ่มสื่อสารทั้งหมดปรับตัวลดลงทั้งกลุ่ม ฉุดให้ดัชนีของกลุ่มลดลง 10.76% อึ้งจัสมินฟื้นฟูกิจการ

นายสมบุญ พัชรโสภาคย์ กรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JASMIN แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการของ บริษัท ครั้งที่ 7/2545 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2545 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอดำเนินการฟื้นฟูกิจการของบริษัทภายใต้กฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟู กิจการเนื่องจากที่ผ่านมา กระแสเงินสดของบริษัทไม่สอดคล้องกับตารางการชำระหนี้ ซึ่งอยู่ ในรูปของเงินตราต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงมี ความจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอด คล้องกับโครงสร้างรายได้ของบริษัท

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทยังมีศักยภาพในการสร้างรายได้จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน อันได้แก่การออกแบบ จัดหา ติดตั้งระบบสัญญาณและโทรคมนาคมให้กับลูกค้าทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน โดยในการนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ให้สัตยาบันในการจัดตั้ง บริษัท แจ้งวัฒนะ แพลนเนอร์ จำกัด และอนุมัติให้เสนอ แต่งตั้งบริษัท แจ้งวัฒนะ แพลนเนอร์ จำกัดให้เป็นผู้บริหารชั่วคราวและผู้ทำแผนของบริษัทภาย ใต้กฎหมายเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการ

บริษัทลูกก็ฟื้นฟู

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการของ บริษัท ครั้งที่ 7/2545 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2545 ยังได้มีมติรับทราบในกรณี บริษัท จัสมิน อิน-เตอร์เนชั่นแนล โอเวอร์ซีส์ จำกัด หรือ JIOC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 87.32% ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอดำเนินการฟื้นฟูกิจการของบริษัทภายใต้กฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูกิจการ ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการของ JIOC ครั้งที่ 3/2545 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2545 ได้มีมติอนุมัติให้ JIOC ดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้

เนื่องจากที่ผ่านมา กระแสเงินสดของ JIOC ไม่สอดคล้องกับตารางการชำระหนี้ ซึ่งอยู่ในรูปของเงินตราต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความ จำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับโครงสร้างรายได้ของ JIOC และ JIOC ยังมี ความสามารถในการสร้างรายได้จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เช่น การถือหุ้นในบริษัท ACeS Regional Service (ผ่านบริษัท ACeS Thailand Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม และเป็นผู้ถือหุ้น และริเริ่มก่อตั้ง บริษัท ACeS International Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินงาน และเป็นเจ้าของดาวเทียมสื่อสาร ACeS เป็นต้น

ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท มีมติ รับทราบการจัดตั้งบริษัท ปากเกร็ด แพลนเนอร์ จำกัด และรับทราบมติที่ประชุมคณะกรรมการของ JIOC ที่เสนอให้แต่งตั้งบริษัท ปากเกร็ด แพลนเนอร์ จำกัด ให้เป็นผู้บริหารชั่วคราวและผู้ทำแผนของ JIOC ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับการ ฟื้นฟูกิจการ

พร้อมกันนี้ JASMIN ได้แจ้งผลประกอบการไตรมาส2 ของปี 2545 ว่า บริษัทมีผลขาดทุน 1,404.89 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ มีกำไร 168.75 ล้านบาท ส่งผลให้จากที่กำไร 0.44 บาท เป็นขาดทุน 3.39 บาทต่อหุ้น

การที่บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2545 จำนวน 1,404 ล้านบาท ลดลง 1,572 ล้านบาท หรือ 935% จากกำไรสุทธิ 168 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

เนื่องจาก บริษัทและบริษัทย่อย มียอดขาย จำนวน 1,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท หรือ 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายอุปกรณ์สื่อสารให้แก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และรายได้จากการออกแบบจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนจาก การดำเนินงานจำนวน 265 ล้านบาท แม้ว่าจะมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 26 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และยังมีกำไรจากส่วนแบ่งผลกำไรจากบริษัทร่วม จำนวน 249 ล้านบาท โดยเป็นส่วนแบ่งจากบริษัท TT&T

นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการของ JASMIN ยังแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดเดิมให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกวาระหนึ่ง โดยมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งอีก 3 ปี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2545 เป็นต้นไป คือประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจ สอบดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ดร.วรพลโสคติยานุรักษ์ นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ และนางอุไรพร เจริญจิตร

กระเทือน ADVANC

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กล่าวว่า การแจ้งเข้า สู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของจัสมินฯ ได้ทำลาย บรรยากาศของการลงทุน แม้ว่าตลาดหุ้นกำลังคาดการณ์ในเรื่องผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะทราบผลในเรื่องอัตราดอกเบี้ยเช้าวันนี้(14 ส.ค.) ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นในกลุ่ม นี้ทั้งหมด รวมทั้งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC ที่เตรียม การออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในขณะนี้เกิด ปัญหาในเรื่องกำลังซื้อในประเทศเต็ม และอาจจะต้องชะลอการออกไปอีกหากธนาคารกลางสหรัฐฯปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นตัวนี้ค่อนข้างแรง โดยปิดตลาดที่ 31.75 บาท ลดลง 4.75 บาทหรือลดลง 13.01%

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ตลาดหลัก ทรัพย์ปิดทำการ ทางบริษัท TT&T ได้แจ้งผลการ ดำเนินงานไตรมาส 2 ออกมาโดยมีกำไรสุทธิ 836 ล้านบาท เมื่อรวมงวด 6 เดือน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 1,080.66 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนของปีก่อน 872.45 ล้านบาท หรือคิดเป็น 419%

สำหรับหุ้นในกลุ่มสื่อสารโดยเฉพาะกลุ่มที่ให้บริการโทรศัพท์ จะต้องแยกออกเป็น

โทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์พื้นฐาน ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโทรศัพท์พื้นฐานมักจะต้องใช้เงินลงทุนสูงและในช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตด้าน เศรษฐกิจจำนวนผู้ขอใช้โทรศัพท์ได้ลดลงและมียอดการคืนหมายเลขผู้ใช้มาก จึงทำให้รายได้ไม่ เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่บริษัทมีต้นทุนที่ต้อง เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้บริการ เมื่อรายได้ไม่เข้าเป้าจึงเกิดปัญหาอย่างที่เห็นอยู่ ส่วน จะมีรายอื่นนอกเหนือจากจัสมินหรือไม่คงต้องรอ อีกระยะหนึ่ง