มืออาชีพคนล่าสุดในวังขนาย


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

การแถลงข่าว "ทิศทางใหม่กลุ่มวังขนาย พร้อมก้าวไปอย่างมืออาชีพ" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อเปิดตัว ดร.วีรพงษ์ รามางกูร โดยเฉพาะ เพราะทั้งการแถลงข่าว และการตอบคำถามสื่อมวลชนบนเวที ล้วนเป็นหน้าที่ของ ดร.วีรพงษ์ เพียงผู้เดียว

"ท่านอาจจะแปลกใจกับหมวกใบใหม่ของผม สาเหตุที่ผมตัดสินใจรับหน้าที่นี้ เพราะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากของบริษัทวังขนายและได้เห็นความตั้งใจของผู้ถือหุ้นที่จะพัฒนาบริษัทให้ได้มาตรฐานสากล" ดร.วีรพงษ์เริ่มการแถลงข่าวด้วยการให้เหตุผล ถึงการเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทและที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร กลุ่มวังขนายตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ความเปลี่ยนแปลงที่พูดถึงนั้นข้อที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด น่าจะเป็นความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทน้ำตาลวังขนาย และบริษัทน้ำตาลรีไฟน์ชัยมงคล จำนวน 10,441 ล้านบาท โดยการรีไฟแนนซ์จากธนาคารทหารไทยไปยังธนาคารนครหลวงไทย ทำให้ยอดหนี้ปรับลดลง 61.7% เหลือเพียง 4,000 ล้านบาท ทำให้ ฐานะการเงินมั่นคงขึ้นและต้นทุนการเงินอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ โดยหลังจากปรับโครงสร้างหนี้ส่วนนี้แล้ว กลุ่มวังขนายยังคงมีภาระหนี้อยู่กับธนาคารกรุงเทพ จำนวน 7,400 ล้านบาท ซึ่งหนี้ก้อนนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เช่นกัน

บทบาทของ ดร.วีรพงษ์ในกลุ่มวังขนาย จะเป็นการบริหารด้านการเงิน บริหารต้นทุน เช่น ดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน การสร้าง ระบบเตือนภัยทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงจากการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ฐานะของกลุ่มวังขนายมั่นคงในระยะยาว และให้มีต้นทุนของเงินที่เหมาะสมเพื่อที่จะแข่งขันได้ในอนาคต

แนวทางของกลุ่มวังขนายหลังจากนี้จะมุ่งไปทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และการทำตลาดให้มากขึ้น โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานตามความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนในด้านการตลาดนั้น ที่ผ่านมากลุ่มวังขนายได้ใช้ช่องทาง โมเดิร์นเทรดมากว่า 10 ปี และยังรับผลิตน้ำตาลให้กับห้างเทสโก้โลตัส และบิ๊กซีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กลุ่มวังขนายจะมุ่ง เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเองมากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับ ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการส่งออกน้ำตาลบรรจุภัณฑ์แทนการส่งออกน้ำตาลดิบอย่างที่ผ่านมา โดยอาจจะเปิดทางให้ strategic partner ที่มีความชำนาญในด้านการตลาดเข้ามาร่วมถือหุ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านนี้

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะภัยแล้งส่งผลต่อผลผลิตอ้อยที่เป็นวัตถุดิบสำคัญ ทำให้กำลังการผลิตในปีนี้ทำได้ประมาณ 5 แสนตันลดลงจาก 7 แสนตันในปีที่แล้ว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.