|
วันคืนสู่เหย้าของ John Mack
นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
John Mack อดีตผู้บริหาร Morgan หวนคืนบริษัทอีกครั้ง หลังจากเคยจากไปอย่างช้ำใจ
John Mack คิดว่า เขาคงจะเป็นคน สุดท้ายที่ Morgan Stanley จะเลือกให้มา บริหารวาณิชธนกิจชื่อดังรายนี้ หลังจากที่ Phil Purcell ประธานเจ้าหน้าที่บริหารถูกกดดันให้ลาออกไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
เพราะเมื่อตอนที่ Mack ออกจาก Morgan ไปเมื่อปี 2001 นั้น ได้ขัดแย้งอย่างรุนแรงกับ Purcell และได้กล่าวโจมตี Purcell อย่างรุนแรงต่อสาธารณชนว่า เขามี ฝีมือไม่ถึงที่จะเป็น CEO ของ Morgan ซ้ำ ยังตำหนิคณะกรรมการบริษัทว่า ตามืดมัวที่มองไม่เห็นข้อบกพร่องของ Purcell
ซึ่งต่อมาก็ปรากฏว่า Mack เป็นฝ่ายถูก และกลายเป็นเรื่องเสียหน้าอย่างแรง ของคณะกรรมการบริษัท ทำให้หลังจากที่ Purcell ลาออก บรรดากรรมการบริษัทต่างกล่าวอย่างเปิดเผยว่า Mack ไม่เคยมีชื่ออยู่ ในรายชื่อผู้ที่อาจจะได้ขึ้นแท่นแทน Purcell
ส่วนบรรดาผู้ที่จงรักภักดีต่อ Purcell ก็พยายามโจมตี Mack ว่า ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ และเป็นคนอารมณ์รุนแรง (เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีสไตล์การบริหารที่ดุดัน จนได้ ฉายาว่า Mack the Knife และเคยทุ่มโทรศัพท์ด้วยความโมโห)
แต่เพียงวันเดียวหลังจากที่บรรดากรรมการบริษัทเพิ่งกล่าวต่อต้าน Mack อดีต ลูกหม้อของ Morgan ผู้นี้ ก็ได้รับโทรศัพท์ขณะที่เขากำลังนั่งทำงานอยู่ที่สำนักงานกองทุนเก็งกำไร Pequot Capital ใน Manhattan ซึ่งเขาช่วยบริหารอยู่ โทรศัพท์ จากตัวแทนของคณะกรรมการสรรหา CEO ของ Morgan ได้ถามเขาว่า สนใจที่จะบริหาร Morgan หรือไม่
Mack เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจหรือไม่ประหลาดใจที่ได้รับโทรศัพท์นั้น แต่ถ้าจะให้ถูกคงต้องบอกว่า เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะได้รับการทาบทามจาก Morgan และเขาก็ไม่ได้กระแทกหูใส่ผู้ที่โทรศัพท์มานั้น โดยตั้งแต่อายุเลยวัยแซยิดมาแล้ว เขาก็ไม่เคยขว้างโทรศัพท์ใส่ใครอีก
ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่ Mack จะต้องเผชิญที่ Morgan คือ การปลุกปลอบขวัญพนักงานซึ่งกำลังเสียขวัญและสับสนอย่างหนัก ในช่วงแห่งความโกลาหลวุ่นวายภายใต้การบริหารของ Purcell ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทตกรูดลง จากมากกว่า 100 ดอลลาร์ต่อหุ้น เหลือเพียงประมาณ 50 ดอลลาร์เท่านั้น นอกจากนี้บริษัทยังเจอปัญหา สมองไหลขนาดหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลให้ Purcell ถูกขับออกจากบริษัท
ในการกล่าวหลังรับตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่ของ Morgan ซึ่งคำพูดของเขาได้รับการยืนปรบมือหลายครั้ง Mack ซึ่งตัวเขาเองเคยเป็นลูกหม้อของ Morgan มาถึง 29 ปี ได้เรียกร้องให้พนักงานทุกคน มาร่วมกันทำให้ Morgan กลับมาเป็น "มาตรฐานทองคำ" ของวอลล์สตรีทอีกครั้งหนึ่ง
Mack ยังไม่ได้ประกาศว่า เขาจะทำยังไงเพื่อแก้ปัญหาที่หนักหน่วงของ Morgan ในครั้งนี้ แต่เมื่อครั้งที่เขาเดินจาก Morgan ไปเมื่อ 4 ปีก่อนนั้น Mack ได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO ของ Credit Suisse First Boston และหนึ่งในงานแรกที่เขาทำ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนเงินสดของบริษัทดังกล่าวก็คือ ขอร้องให้บรรดาผู้บริหารยอมลดเงินเดือน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลอยแพพนักงาน
ก่อนหน้านี้ในขณะที่ Morgan กำลังเกิดศึกภายในอันเนื่องมาจาก Purcell นั้น Mack วางเฉยและไม่เข้าข้างฝ่ายใด รวมทั้งไม่เอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนั้น เขายังคงนิ่งเฉยเมื่อคณะกรรมการของ Morgan กล่าวต่อต้านการกลับมาของเขาอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม Miles Marsh กรรมการคนหนึ่งของ Morgan อธิบายในภายหลังว่า เหตุผลที่กรรมการบริษัทประกาศตัด Mack ออกตั้งแต่แรก เป็นเพียงอุบายที่จะทำให้ Mack ยอมรับตำแหน่ง
ไม่ว่าที่ Marsh กล่าวจะเป็นจริงหรือ ไม่ แต่มันได้ผลเกินคาด เพราะพนักงานและนักลงทุนรายใหญ่ได้ลุกขึ้นรณรงค์ให้ดึง Mack กลับมากุมบังเหียน Morgan อีกครั้ง และครอบครัวของเขาเองก็สนับสนุน การหวนคืนบริษัทเดิมของเขา
Mack ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับบริหารอีก และเขายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจอีกเรื่องคือ จะเก็บ Dean Witter บริษัทโบรกเกอร์ที่อ่อนแอเอาไว้หรือขายทิ้ง แม้ว่าเขาจะเคยมีส่วนสำคัญในการซื้อบริษัทดังกล่าวในปี 1997 มาก่อน
คนที่รู้จัก Mack ดีคาดว่า เขาคง จะอยู่แก้ปัญหาที่ Morgan อีกหลายปี จนกว่าจะแก้ปัญหาทุกอย่างหมด แล้วจึงจะส่งต่อให้คนอื่น ซึ่งหนึ่งในผู้ที่อาจจะได้สืบตำแหน่งต่อจากเขาคือ Larry Fink เพื่อน สนิทของเขาเอง ซึ่งขณะนี้เป็น CEO ของ Blackrock บริษัทบริหารเงินสด ซึ่งเคยได้รับเชิญจากคณะกรรมการสรรหาผู้บริหารของ Morgan ให้มาสัมภาษณ์งาน และเป็นผู้ที่แนะนำคณะกรรมการสรรหาให้ทาบทาม Mack นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ตาม Mack ก็รู้สึกพอใจอย่างยิ่งที่ได้คืนสู่เหย้าใน คราวนี้ และเป็นการกลับมาอย่างสง่างาม
แปลและเรียบเรียงจาก Newsweek
July 11, 2005
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|