|

บิ๊กไอทีวีชี้ศก.ซบดึงธุรกิจสื่อโตลดลง อาร์เคร่วมทุนตั้งบ.ใหม่หารายได้เพิ่ม
ผู้จัดการรายวัน(21 กรกฎาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้ประกอบการสื่อครวญธุรกิจปีนี้ซบจากเศรษฐกิจชะลอตัว น้ำมันแพง ค่าโฆษณาหด คาดปีนี้โตเพียง 6-7% ลดลงจากปี 47 ที่มี 14% ด้านไอทีวีเผยกระทบรายได้ไม่มากเหตุปรับรูปแบบเหมาะสมกลุ่มเป้าหมาย ส่วนผู้ร่วมทุนคนสำคัญ "กันตนา" และ "ไตรภพ" ตามแผนชำระเงินเดือนต.ค.นี้ หากถอยก็ไม่กระทบบริษัท ส่วน "ไพศาล-บิ๊กอาร์เค มีเดีย" เผยรายได้ลดลงจากปี 2547 เตรียมร่วมทุนกับสิงคโปร์ตั้งบริษัทใหม่ 1-2 เดือนนี้
นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV เปิดเผยว่า ธุรกิจสื่อปีนี้จะมีการปรับตัวลดลงเหลือ 6-7% จากปี 2547 ที่มี 14% เนื่องจากผู้ประกอบการต่างๆ มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับด้านโฆษณาในลักษณะที่มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยจะเน้นสื่อที่มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเลือกสื่อทีวีในการโฆษณา
บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบด้านรายได้มากนัก ถึงแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของการโฆษณา แต่ช่วงไฮซีซันผู้ประกอบการหลักจะกลับมาใช้เงินโฆษณา โดยช่วงเวลาไพรม์ไทม์ อัตราค่าโฆษณาอยู่ 250,000 บาทต่อนาที ซึ่งยังไม่มีแผนปรับราคาค่าโฆษณาขึ้น รวมถึงบริษัทได้มีการจัดรูปแบบให้เหมาะสมกับลูกค้าซึ่งมีการวางรูปแบบสถานีที่ชัดเจนตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานที่มุ่งเน้นละครเด็ก วาไรตี้ ละคร และข่าว
รวมทั้งการมีรายการเรียลิตี้โชว์ช่วงเวลา 22.30 นาฬิกา ต่อเนื่องทั้งปี หลังจาก "บิ๊กบราเธอร์" และขณะนี้มี "อะคาเดมี แฟนตาเซีย" ซึ่งจะคงรายการเรียลิตี้เอาไว้ต่อเนื่องเป็นเอกลักษณ์ "
เราสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนเป็นกลยุทธ์หลักของเรา พร้อมทั้งมีการจัดอีเวนต์มาร์เกตติ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าให้คุ้มกับค่าเงินที่ลูกค้าจ่ายไอทีวี"
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า หากกันตนาและกลุ่มนายไตรภพ ลิมปพัทธ์ ไม่เข้าร่วมลงทุนในบริษัท ก็ไม่มีผลกระทบเพราะบริษัทมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่กำหนดระยะเวลาการจ่ายเงินนั้นก็ยังคงเป็นตามแผนเดิม คือเดือน ต.ค.นี้ แต่หากจะมีการเลื่อนการจ่ายเงินก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน
นายไพศาล ศรีจรัสจรรยา ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท อาร์เค มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RK เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัทในประเทศสิงคโปร์ชื่อ บริษัท แชร์ อินเวสต์เตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำข้อมูลทางการเงิน จัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อประกอบธุรกิจในการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารในระบบ Investor Reletion ของบริษัทจดทะเบียน หรือรับพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่จะตั้งภายในสิ้นปีนี้ เพราะจากที่มีการสำรวจตลาดพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ดังนั้นบริษัทจึงมีการเลื่อนจัดตั้งบริษัทให้เร็วขึ้น
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทดังกล่าว เนื่องจากบริษัทจดทะเบียน ขณะนี้ยังมีระบบ IR ที่ยังไม่ค่อยดีมากนัก ซึ่งบริษัทจะเข้าไปช่วยปรับปรุงระบบในการสื่อสารกับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นช่องทางอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ และเป็นการขยายฐานธุรกิจของบริษัทให้มีการควบคุมมากขึ้น โดยจะถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 50% ร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย และบริษัทสิงคโปร์จะถือหุ้นต่ำว่า 50%
ทั้งนี้บริษัทจะคิดอัตราค่าบริการ เป็นรายปีๆ ละ 200,000 บาท
ทั้งนี้ รายได้ในไตรมาส 2/48 คาดว่าจะไม่ดี เนื่องจากการใช้เงินตามสื่อต่างๆ ลดลง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัว และการแข่งขันที่สูงขึ้น จากการมีวิทยุชุมชนขึ้นมาก แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง รายได้จะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ทั้งปีนี้ก็คาดว่าจะลดลงจากปี 2547 ที่มี 314.89 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.94 ล้าน ซึ่งรายได้หลักของบริษัทประมาณ 70% ก็ยังคงมาจากรายได้ ด้านวิทยุ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|