ดีเอสไอชง กคพ. ชี้ขาดวันนี้ปั่นหุ้นปิคนิคเป็นคดีพิเศษ


ผู้จัดการรายวัน(15 กรกฎาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณารับอนุมัติคดีกล่าวโทษกลุ่มผู้บริหารบริษัท ปิคนิค เป็นคดีพิเศษวันนี้ เพื่อให้มีอำนาจสืบสวน ระบุหลังเป็นคดีพิเศษแล้ว เป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต.ที่จะประสาน สตช.ห้ามออกนอกประเทศ ก.ล.ต.เสนอเงินยักยอกนำกลับมาเป็นผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นปิคนิคต่อไป

วานนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้บริหารบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวม 10 ราย ในข้อหาตกแต่งบัญชี และโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินของบริษัท ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ว่าคดีนี้หลังได้รับการกล่าวโทษ ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ดำเนินการตรวจสอบเอกสาร พยานหลักฐาน ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมได้เรียกเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. มาให้ข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว

โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีรายละเอียดข้อมูลพร้อมที่จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่จะมีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เวลา 10.30 น. เพื่อให้ กคพ.พิจารณาอนุมัติเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้ดีเอสไอมีอำนาจเข้าไปสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย เกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ร.บ.คดีพิเศษจะมีผลใช้บังคับ (2 ก.ค.47) ส่วน กรณีการกระทำผิดที่เกิดขึ้นหลัง พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษมีผลบังคับใช้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษสามารถเข้าไปดำเนินการได้ทันที

ส่วนที่มีการเกรงกันว่า ผู้บริหารของบริษัทปิคนิคที่ถูกกล่าวโทษดังกล่าว อาจจะหลบหนีเดินทางออกนอกประเทศนั้น พล.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า หลังจาก กคพ.มีมติอนุมัติเป็นคดีพิเศษแล้ว ก็เป็นหน้าที่โดยตรงของ ก.ล.ต.ที่จะประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการห้ามบุคคลดังกล่าวออกนอกประเทศได้ สำหรับดีเอสไอก็มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ช่วยตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน และเส้นทางการโยกย้ายถ่ายเทของเงินในบัญชี ตามที่ ก.ล.ต.ตรวจพบการกระทำความผิด เนื่องจากที่ประชุม ก.ล.ต.เห็นว่าเงินที่มีการยักยอกดังกล่าวบางส่วนจำเป็นจะต้องนำกลับมา แบ่งคืนเป็นผลกำไรให้แก่บรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท ปิคนิคฯ ต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ เลขาธิการ ปปง.เคยให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นปิคนิค ประมาณ 38 ราย แยกเป็นนิติบุคคลประมาณ 15-20 ราย และบุคคลธรรมดา 18 ราย แต่ไม่พบนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง และจะต้องรอให้ ก.ล.ต.สอบสวนต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.