เอไอเอสยกระดับหนีคู่แข่ง ใช้สำนักควบคุมคุณภาพเครือข่าย สร้างมาตรฐานตรวจสอบเครือข่ายให้ใช้งานได้โดนใจลูกค้าด้วย
3 องค์ประกอบเริ่มจากพื้นที่ให้บริการครอบคลุมต่อเนื่อง
ความสามารถในการเข้าถึงระบบ และความมีเสถียรภาพของระบบ พร้อมเดินหน้าตั้ง
Regional Head Quarter ภาคใต้ บริหารงานเบ็ดเสร็จทั้งเครือข่ายและการตลาด
เพื่อให้แพกเกจโปรโมชั่นสนองตอบตรงความต้อง การมากที่สุด นายพีรเวท กิจบูรณะ
ผู้จัด การสำนักควบคุมคุณภาพเครือข่าย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส
หรือเอไอเอสกล่าวว่าเอไอเอสให้ความสำคัญกับคุณภาพเครือข่าย (Network Quality)
ที่จะต้องสามารถสนองตอบความต้องการใช้งานของผู้บริโภคให้ได้ เอไอเอสจึงได้มองการพัฒนาเครือข่ายในเชิงลึก
ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานควบคุมคุณภาพเครือข่ายขึ้น เพื่อเป็นเหมือนศูนย์กลางในการรวบ
รวมข้อมูลผลการวัดคุณภาพของเครือข่าย สรุปคำร้องเรียนลูกค้าและความต้องการของลูกค้า
จากนั้นทำหน้าที่วิเคราะห์และจัดทำเป็น เกณฑ์เพื่อวัดและสร้างมาตรฐานในการจัดการและควบคุมคุณภาพเครือข่ายของเอไอเอส
มาตรฐานการจัดการที่ตั้งขึ้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะกล่าวคือ
1.พื้นที่ให้บริการของเครือ ข่ายต้องครอบคลุมและต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการใช้งานของผู้บริโภคในแต่ละบริเวณอย่างแท้จริง
โดยจะต้องสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้ทันสถานการณ์ความต้องการที่เกิดขึ้น
2.ความสามารถในการเข้าถึงระบบ หมายถึงต้องสามารถโทร.เข้าออกได้อย่าง ไร้ข้อจำกัดในทุกพื้นที่
และ3.ความมีเสถียรภาพของระบบ หมายถึงความเชื่อมั่นในการใช้งาน อาทิ สัญญาณคมชัด
ปราศจากเสียงรบกวนและโทร.ได้ต่อเนื่อง ในปี 2544-2545 เอไอเอสลงทุนเครือข่ายเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก
โดยในปี 2544 รวมเป็นเงิน 21,800 ล้านบาท และเพียงแค่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี
2545 เอไอเอสลงทุนด้านเครือข่ายไปแล้วประ มาณ 18,620 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนสถานีฐานในระบบจีเอสเอ็ม
แอดวานซ์ทั้งหมด 4,766 แห่ง ระบบเซลลูล่าร์ 900 ประมาณ 1,551 แห่ง โดยมีความสามารถของระบบจีเอส
เอ็ม แอดวานซ์ รองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณ 8.2 ล้านเครื่อง ในขณะที่มีคนใช้ประมาณ
7.2
ล้านเครื่อง เอไอเอสดำเนินการทดสอบคุณภาพของเครือข่ายด้วยการพาสื่อมวลชนเดินทางไปยังอ.หาดใหญ่
จ.สงขลา แล้วใช้วิธีการนั่งรถบัสทด
สอบสัญญาณไปตามเส้นทางหลวงสายหลักจนถึงจ.สุราษฎร์ธานี และข้ามไปยังเกาะสมุย
ซึ่งปรากฏว่าตลอดเส้นทางสัญญาณสามารถใช้งานได้ดีในระดับน่าพอใจ
ไม่เพียงแต่มีการจัดตั้งสำนักควบคุมคุณภาพเครือข่าย แต่ภายหลังจากที่เอไอเอสมีการปรับโครง
สร้างการบริหารงานแบบ Network Organization
ที่เป็นรูปแบบของการกระจายอำนาจการบริหารในแนวตั้งและแนวนอน โดยส่วนหนึ่ง
คือการจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการ ส่วนภูมิภาคหรือ Regional Head Quarter
เพื่อเข้าใกล้ผู้บริโภคให้มากขึ้น
"การจัดองค์กรแบบนี้ เพื่อให้มีแผนงานเป็นของภาคใต้ เพื่อให้ สนองตอบความต้องการของลูกค้า
ภาคใต้อย่างแท้จริง"นายสุทธิศักดิ์ กุณทีกาญจน์ ผู้จัดการสำนักปฏิบัติ
การส่วนภูมิภาคเอไอเอส
กล่าวย้ำว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นการสนอง ตอบการทำตลาดแบบ Localize Marketing
ซึ่งการตัดสินใจด้านการตลาดในการจัดแพกเกจโปรโมชั่นต่างๆจะเบ็ดเสร็จในภาคใต้
แต่ก็อาจต้องมีการขอความเห็นจากส่วนกลางด้วย โดยจะเห็นการทำตลาดเป็นรูปธรรมในต้นปีหน้า
สำหรับพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของคนในภาคใต้ เอไอเอสพบว่า
1.ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้โทร.ทางไกลมากกว่าโทร.ในพื้นที่ ในสัดส่วน 80/20 2.ลูกค้าจะมีการเดินทางบ่อยครั้ง
ไม่อยู่กับที่เดินทางข้ามจังหวัดมาก การใช้งานจะอยู่ตามเส้นทางหลวงสายหลักค่อน
ข้างสูง
3.ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ เข้ามาใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติหรืออินเตอร์เนชั่นแนล
โรมมิ่งจำนวนมาก และบางพวกหันมาซื้อซิมการ์ดโลคัลจำนวนมาก ซึ่งแนว
ทางการทำโปรโมชั่นเฉพาะภาคใต้อาจใช้วิธีการให้โทร.เป็นอัตราคงที่หรือแฟลตเรต
แล้วเพิ่มจำนวนนาทีให้มากขึ้น "ผมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง 2 เดือน
ภารกิจหลักๆตอนนี้คือการดูแลและสนับสนุนตัวแทนจำหน่าย ในการเรื่องการทำธุรกิจให้เกิดความ
คล่องตัวมากที่สุด รวมทั้งสร้างความใกล้ชิดกับดีลเลอร์ รวมทั้งการให้บริการลูกค้ารายใหม่
ส่วนลูก
ค้าปัจจุบันก็จัดให้มีกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น ดูแลเรื่องการเปลี่ยนโปร โมชั่นต่างๆ
ซึ่งราไยด้เฉลี่ยต่อเลขหมายในภาคใต้ หากเป็นระบบโพสต์เพดประมาณ 1,200 บาทต่อเลขหมายถ้าเป็นพรีเพดประมาณ
600
บาทต่อเลขหมาย" นายสุทธิศักดิ์กล่าวว่าการจัดตั้งสำนักปฏิบัติการส่วนภูมิภาค
เชื่อว่าจะทำให้เอไอเอสสามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในแต่ ละภูมิภาคอย่างแท้จริง
รวมทั้งสามารถตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็ว ทันต่อความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรูป
แบบการให้บริการ การจัดกิจกรรม ต่างๆที่ถูกใจคนท้องถิ่น
การใช้พนักงานที่เป็นคนในพื้นที่ซึ่งเข้าใจถึงนิสัยใจคอและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการ
รวมทั้งศักยภาพในการขยายเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วเนื่อง จากความคุ้นเคยพื้นที่