จีอีฯ ถกสุริยะล้างภาพซีทีเอ็กซ์


ผู้จัดการรายวัน(7 กรกฎาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"จีอี อินวิชั่น" บินลัดฟ้าเข้าพบ "สุริยะ" เจรจาซื้อ-ขายเครื่องซีทีเอ็กซ์โดยตรง สุริยะได้ทีคุยฟุ้ง จีอีเชื่อมั่นในความโปร่งใสของรัฐบาล เผยได้คุยถึงแนวทางขายตรงและเร่งรัดส่งมอบเครื่องให้เร็วที่สุด พร้อมถือโอกาสเคลียร์ข้อครหา ให้บทม.จ่ายเงินทั้งที่ไม่ได้เครื่อง ด้าน "วิษณุ" สั่ง กก.สอบสวน CTX ซื้อ วีซีดี ปชป.ถอดเทปหาประเด็นที่ยังไม่ได้สอบเพื่อดำเนินการต่อ เผยเบื้องต้นมีอยู่ในใจแล้ว 3-4 ประเด็นที่ต้องเช็กเพิ่ม ขณะที่อธิบดีกรมบัญชีกลางรับลูกเตรียมเรียกประชุมกรรมการฯ ศุกร์นี้ คาดสิ้นเดือนเสร็จ ด้าน ปชป.ขยายแผลทุจริต CTX เตรียมแจ้งความควอโทรเทค ปลอมเอกสารหลอก บทม.เป็นที่ปรึกษา

วานนี้ (6 ก.ค.) ผู้บริหารบริษัท จีอี อินวิชั่น ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเจรจาในการซื้อขายตรงเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่น CTX 9000 กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) โดยได้นัดหารือกับฝ่ายการเมืองของไทย โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ต้องการเจรจากับผู้บริหารจีอี อินวิชั่น ถึงแนวทางการขายตรงและเร่งรัดการส่งมอบเครื่องทั้ง 26 เครื่องที่ผลิตเสร็จแล้วจากสหรัฐฯ ให้มาถึงไทยและติดตั้งในสนามบินสุวรรณภูมิให้เร็วที่สุด รวมทั้งเคลียร์ข้อครหากรณีที่มีการ ระบุว่า บทม. มีการจ่ายเงินค่าเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทั้งที่ยังไม่ได้เครื่อง ซึ่งจะต้องเจรจาเงื่อนไขตรง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และไม่ทำให้ทอท.เสียเปรียบ

"จีอีฯมีความจริงใจและตั้งใจที่จะส่งมอบเครื่อง CTX ทั้ง 26 เครื่อง ให้แก่ทอท. และการที่ต้องการขายตรงให้ทอท. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ แสดงให้เห็นว่า ทางจีอีฯ มีความเชื่อมั่นความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ จึงขายตรงโดยไม่ขายผ่านใคร และเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงตามคำพิพากษาของศาลแคลิฟอร์เนีย"

"วิษณุ" สั่งกก.สอบสวนประเด็นเพิ่ม

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนเป็นประธานในการรวบรวมข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ของพรรคฝ่ายค้าน เกี่ยวกับการทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิด CTX 9000 เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับข้อมูลเดิมของคณะกรรมการตรวจสอบที่มีนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานฯ ว่ามีจุดใดที่จะนำมาสอบเพิ่มเติมได้บ้าง ตนจึงได้เชิญนายบุญศักดิ์ และคณะกรรมการมาหารือ โดยได้ชี้ให้เห็นว่ามี 3-4 ประเด็น ที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายแตกต่างจากผลสอบของคณะกรรมการฯ และได้ให้คณะกรรมการฯ ไปถอดเทปการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาศึกษาทั้งหมด หากเห็นว่าสมควรจะต้องสอบสวนต่อก็ขอให้ทำเรื่องเสนอมายังตนโดยเร็วภายในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะได้ดูน้ำหนักว่าชัดเจนพอที่จะออกคำสั่งแต่งตั้งให้คณะกรรมการชุดเดิมสอบสวนต่อไปอย่างต่อเนื่องหนือไม่ เพราะขณะนี้คณะกรรมการชุดนี้สิ้นสภาพไปแล้ว

"จากที่ผมฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านมี 3-4 ประเด็น ที่ยังแตกต่างจากของคณะกรรมการฯ ผมจึงได้ให้คณะกรรมการซื้อหนังสือหรือวีซีดีที่ฝ่ายค้านจัดทำมาถอดทั้งหมดเพื่อหาว่าประเด็นใดที่แปลกไปกว่าเดิม เพราะถ้าไปสอบของรัฐบาลก็จะได้คำว่า "พุทโธ กลับมา"

สำหรับ "1 ใน 4 ประเด็น ที่ให้สอบสวนคือความน่าเชื่อถือของบริษัท ควอโทรเทค ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา บทม.ที่ฝ่ายค้านระบุว่าปลอมแปลงเอกสารและอ้างคุณสมบัติเกินจริงเพื่อให้ได้งานที่ปรึกษา รวมทั้งมีการกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐด้วย ซึ่งกรรมการฯชุดนี้ไม่เคยสอบมาก่อน รวมไปถึงนายสก็อต ยูเรย์ ที่ระบุว่าเป็นที่ปรึกษาด้วย"

ด้านนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ การจัดซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่าได้ถอดเทปการอภิปรายฯ ของฝ่ายค้าน รวมทั้งของนายสุริยะที่ชี้แจงในการอภิปรายฯ แล้วประมาณ 140 หน้า จากนี้จะเปรียบเทียบประเด็นทั้งหมด ว่ามีประเด็นใดบ้างที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ หรือยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก คาดว่าจะนัดประชุมวันศุกร์ที่ 8 มิ.ย. 2548 และภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ข้อสรุป แต่ก็ต้องขึ้นกับเอกสารหลักฐาน รวมถึงคำชี้แจงเพิ่มเติมจากผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยว่าจะสามารถนัดได้เร็วหรือช้า

นายบุญศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าประเด็นที่คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้พิจารณาคือเรื่อง ภาคผนวก ซึ่งเป็นข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ยังไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน แต่ทางฝ่ายค้านนำเปิดเผยต่อสภาฯ

ปชป.กัดติดเตรียมแจ้งความ

นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา รองเลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้เตรียมแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัท ควอโทรเทค ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของ บทม.ในข้อหา ปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม อ้างคุณสมบัติเกินจริง เพื่อให้ได้งานจาก บทม.รวมทั้งมีการกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ

นายถาวรแจกแจงพฤติกรรมว่า บริษัทดังกล่าวได้ยื่นเอกสารอ้างมาตรฐาน การทำงานที่สูงเกินจริงต่อ บทม.โดยระบุว่ามีประสบการณ์ผ่านงานมาแล้วถึง 10 ปี และเคยรับงานเกิน 500 ล้านบาท จนทำให้ บทม.เชื่อและมีการจ่ายเงินให้บริษัท ควอโทรเทค ไปแล้ว 40 กว่าล้านบาท

นายถาวรกล่าวด้วยว่าจะทำหนังสือถึงบอร์ดบทม.เพื่อให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ด้วยในฐานะผู้เสียหายโดยตรง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าในขณะนี้ท่าทีของรัฐบาลยังคงปกป้องผู้ที่กระทำความผิดและพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ด้วยการกล่าวหาฝ่ายค้าน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.