"ดิเอราวัณ" แช่แข็งธุรกิจค้าปลีก ทุ่ม 1.3 พันล้าน รุกโรงแรมดึงแมริออทบริหาร


ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เอราวัณ กรุ๊ป สยายปีก หลังปรับโครงสร้างบริษัทเสร็จประเดิมลงทุน 2 โรงแรมใหม่ รวม 1,300 ล้านบาท คอร์ทยาร์ด กรุงเทพฯ และเรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา ดึงเชนใหญ่ "แมริออท" เข้าบริหาร จับลูกค้านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ เผยแผนธุรกิจ 3 ปี เปิดโรงแรมเพิ่มเป็น 10 แห่ง เน้นจังหวัดท่องเที่ยว

ตามที่บริษัท อัมรินทร์ พลาซ่า จำกัด (มหาชน) (AMARIN) ดำเนินธุรกิจ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ราชดำริ และ เจ ดับบลิว แมริออท สุขุมวิท ได้ปรับโครงสร้างบริษัทโดยซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นต่างชาติ ทำให้ 80% ของสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็นของคนไทยใน 2 ตระกูลผู้ก่อตั้งบริษัท คือ ตระกูลว่องกุศลกิจ ทำธุรกิจในกลุ่มบ้านปู และน้ำตาลมิตรผล และกลุ่มตระกูลวัฒนเวคินทำธุรกิจสถาบันการเงินเกียรตินาคิน โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2548 บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ERAWAN) พร้อมแจ้งนโยบายบริษัทที่จะให้ความสำคัญในธุรกิจโรงแรมให้มากขึ้น โดยจะขยายธุรกิจออกสู่ต่างจังหวัดจับพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

นายกษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการใหญ่ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทได้ใช้เงินลงทุน 1,300 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงแรม 2 โครงการคือ โรงแรมคอร์ทยาร์ด กรุงเทพฯ เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท และเรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งทั้งสองแห่งนี้เป็นชื่อโรงแรมในกลุ่มแมริออท โดยบริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นนอล เป็นระยะเวลา 30 ปี ให้เข้ามาเป็นผู้บริหาร 2 โรงแรมดังกล่าว โดยใช้เงินกู้จากในประเทศและส่วนหนึ่งเป็นเงินสดของบริษัท

"ที่เลือกแมริออทให้มาบริหารโครงการเพราะถือเป็นเชนที่มีแบรนด์โรงแรมเป็นที่ยอมรับของลูกค้าติด 1 ใน 3 ของโลก แต่ทั้งนี้บริษัทไม่ได้จับมือเฉพาะกับแมริออทเท่านั้น แต่เปิดกว้างทุกเชนตามความเหมาะสม"

สำหรับโรงแรมคอร์ทยาร์ด กรุงเทพฯ เดิมเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ "พาร์คเลน แมนชั่น" ในซอยมหาดเล็กหลวง ตั้งอยู่หลังโรงแรม โฟร์ซีซันส์ โดยบริษัทได้ซื้ออาคารแล้วนำมาปรับปรุงเป็นโรงแรม 4 ดาว จำนวน 322 ยูนิต จับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ สาเหตุที่บริษัทลงมาเปิดโรงแรม 4 ดาว เพราะได้ศึกษาตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านราชดำริซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงพบช่องว่างของตลาดโรงแรม 4 ดาว ที่มีโอกาสเติบโตประกอบกับถ้าต้องการจับลูกค้าชั้นนักธุรกิจจะต้องเป็นโรงแรมที่มีเชนระดับโลกเป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่ง "คอร์ทยาร์ด" ถือเป็นแบรนด์โรงแรมระดับ 4 ดาว ในเครือแมริออท ที่เป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจที่เดินทาง โดยมีสาขาอยู่ทั่วโลกแล้วกว่า 656 แห่งในประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกของการเปิดตัว โดยจะเริ่มเข้าปรับปรุงพร้อมเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ในปี 2550

ในส่วนของ เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา เดิมชื่อ บุรีรายา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย โดยเป็นการซื้อกิจการจากกลุ่ม อามันเซน เจ้าของเดิมเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ซึ่งเปิดให้บริการอยู่แล้วในขณะนี้ และรับรู้รายได้ได้ทันที เป็นบูติก รีสอร์ตหรูหรา ระดับ 5 ดาว จำนวน 78 ห้อง โดยแบรนด์ "เรเนซองส์" จะเป็นรีสอร์ตระดับหรูของเชนแมริออท มีสาขาอยู่ทั่วโลก 133 แห่ง และถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทยเช่นกัน ทั้งนี้เกาะสมุยถือเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จัก และเดินทางมาเที่ยวจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังมีโรงแรมที่เป็นเชนระดับโลกน้อยเพียงแห่งเดียวคือ เลอเมอริเดียน และบริษัทถือเป็นรายที่ 2

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจะขยายธุรกิจโรงแรมออกต่างจังหวัดให้มากขึ้น เน้นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยวางเป้าหมายขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะวัดที่คุณภาพบริการ รายได้ และกำไร ตั้งเป้า 3 ปีเปิดเพิ่มเป็น 10 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีของเดิมอยู่ 2 แห่ง และเปิดใหม่อีก 2 แห่ง ดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้สัดส่วน รายได้จะเปลี่ยนไปคือ ใน 3 ปี ธุรกิจ โรงแรมจะมีรายได้เป็น 90% และธุรกิจที่ไม่ใช่โรงแรม ซึ่งได้แก่ ศูนย์การค้าจะลดเหลือ 10% จากปัจจุบัน ธุรกิจนี้สร้างรายได้เข้าบริษัทเป็นสัดส่วนเกือบ 20% สำหรับรายได้บริษัท ปี 2548 คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 800 ล้านบาท และใน 3 ปี จะเติบโต อีกไม่น้อยกว่า 30%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.