|
บิ๊กบจ.โยงปิคนิคแห่ลาออก
ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
กรรมการและผู้บริหาร บ.อีสเทิร์นไวร์ บ.อกริเพียว ตบเท้าออก หลังบิ๊กปิคนิคถูกกล่าวโทษ ขณะที่ราคาหุ้นยกขบวนกันรูดต่อ เหตุถูกฟอร์ซเซลปิคนิคปิดรูด 15.51% อีสเทิร์นไวร์ร่วง 22.16% อกริเพียวลด 13.89% ขณะที่ปิคนิคแจงงบไตรมาสแรกหด 35.4% เหตุมาจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น "กิมเอ็ง-เอเซียพลัส" แจงยังไม่มีลูกค้าถูกฟอร์ซเซลหุ้นปิคนิค ส่วน 3 โบรกเกอร์ยักษ์เมืองไทยยอมรับจับลูกค้าฟอร์ซเซลหุ้นปิคนิค กลายเป็นปัจจัยลบป่วน ตลาดดัชนีทรุดตัวต่อ ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัว หลังหุ้นแบงก์ร่วงยกแผง "กิตติรัตน์-ตลท." ไม่สรุปหุ้นทรุดเพราะฟอร์ซเซล แนะนักลงทุนกังวลหุ้นเก็งกำไร 2-3 ตัวได้ แต่อย่าเหมา รวมทั้งตลาดเพราะยังมีหุ้นพื้นฐานดีอีกหลายร้อยบริษัท
วานนี้ (4 ก.ค.) นายสนทยา น้อยเจริญ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อีสเทิร์น ไวร์ จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า นายไพบูลย์ อุดมกานต์กิจ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และกรรมการบริหาร ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารและพนักงานของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.48 เป็นต้นไป และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการสรรหาหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการเงินต่อไป
นายโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ดร.กิตติวัฒน์ อุชุปาละนันท์ และนางสาวนิตยา กาญจนอุทัยศิริ ติดภารกิจอื่น ไม่สามารถสละเวลาให้กับบริษัทได้เต็มที่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.48 เป็นต้นไป
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของปิคนิคเองต่างก็ทยอยลาออกไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ เพราะหวั่นเกรงว่าจะพลอยติดบ่วงทางกฎหมายไปด้วย
ปิคนิคกำไร Q1 หด 35.4%
ดร.สุพจน์ พัฒนะศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2548 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 71.44 ล้านบาท ลดลง 39.15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 35.40 โดยกำไรสุทธิที่ลดลง
ทั้งนี้สาเหตุมาจากดอกเบี้ยจ่าย 68.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 50.91 ล้านบาท โดยสาเหตุของการเพิ่มเนื่องจากบริษัทได้มีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2546 อีกทั้งยังมีธุรกิจขนส่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงทำให้มีการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้น, ภาษีเงินได้นิติบุคคล 58.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 53.57 ล้านบาท โดยสาเหตุของการเพิ่มเนื่องจากในปี 2547 บริษัทมีขาดทุนสะสมยกมาจากปีก่อนๆ ซึ่งสามารถนำมาหักจากรายได้เพื่อคำนวณภาษีได้ ในขณะที่ในปี 2548 บริษัทต้องชำระภาษีจากกำไรเต็มจำนวน เนื่องจากผลขาดทุนสะสมดังกล่าวทั้งหมดได้ถูกนำไปหักกำไรในปี 2547 แล้ว
รายย่อยปล่อยฟอร์ซเซลกดหุ้นรูด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (4 ก.ค.) ตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนลบก่อนปิดที่ 669.78 จุด ลดลง 5.72 จุด หรือ 0.85% โดยดัชนีต่ำสุดที่ 664.60 จุด และสูงสุดที่ระดับ 676.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,564.54 ล้านบาท
ราคาหุ้น PICNI ยังคงทรุดตัวลงต่อเนื่อง โดยระหว่างวันลงไปต่ำสุดที่ 3.70 บาท หรือ 24.48% และ ปิดที่ 4.14 บาท ลดลง 0.76 บาท หรือ 15.51% มูลค่า การซื้อขาย 2,795 ล้านบาท ส่วน PICNI-W1 ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 1.60 บาท หรือ 24.06% มูลค่าการซื้อขาย 2.78 ล้านบาท
ขณะที่หุ้นที่โยงใยกับกลุ่มปิคนิคยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง โดย EWC ปิดที่ราคาต่ำสุด 13.70 บาท ลดลง 3.90 บาท หรือ 22.16% มูลค่าการซื้อขาย 312.66 ล้านบาท ด้าน EWC-W1 ปิดที่ 7.80 บาท ลดลง 2.90 บาท หรือ 27.10% มูลค่าการซื้อขาย 80.97 ล้านบาท ส่วน APURE ปิดที่ 3.10 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 13.89% โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.72 บาท ลดลง 24.44% มูลค่าการซื้อขาย 39.51 ล้านบาท และ APURE-W1 ปิดที่ 2.16 บาท ลดลง 0.44 บาท หรือ 16.92% มูลค่าการซื้อขาย 2.79 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้นกลุ่มธนาคารดัชนีปิดที่ 234.14 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ 1.36% มูลค่าการซื้อขาย 1,901.33 ล้านบาท โดยหุ้น SCB ปรับลดลงสูงสุด ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.69% มูลค่าการซื้อขาย 448.86 ล้านบาท, หุ้น BAY ปิดที่ 12.00 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.44% มูลค่าการซื้อขาย 113.30 ล้าน บาท, หุ้น SCIB ปิดที่ 24.30 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 2.41% มูลค่าการซื้อขาย 273.28 ล้านบาท
วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 592.57 ล้านบาท นักลงสถาบันขายสุทธิ 92.74 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 685.31 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า จากการที่ราคาหุ้นปิคนิคปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และวานนี้ก็ยังปรับตัวลดลงแรง และมีมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น จนส่งผลทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีโบรกเกอร์ไม่ต่ำกว่า 3 รายแล้วที่ได้มีการบังคับขายหุ้น แต่ยังเป็นจำนวนไม่มากนัก อย่างไรก็ตามถ้าราคาหุ้นบริษัทปิคนิคยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก เชื่อว่าจะทำให้การบังคับขายจะเพิ่มขึ้นอีก
"ช่วงก่อนหน้านี้หุ้นปิคนิคปรับตัวขึ้นมาแรง จากแรงเก็งกำไรของนักลงทุน เมื่อถูกกล่าวโทษนักลงทุน ที่ถือหุ้นในราคาสูงๆ ก็ถูกบังคับขาย ซึ่งพบว่ามีนักลงทุนบางคนยอมที่จะถูกบังคับขาย เพราะไม่ต้องการที่จะถือหุ้นต่อไปแล้ว เนื่องจากมองว่าแนวโน้มยังมีความเสี่ยงอยู่" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวจากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนีทรุดตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอการเติบโต หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น และจะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากแรงบังคับขายหุ้นปิคนิค ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นโดยรวม
ปัจจุบันนี้บริษัทจะแนะนำให้ลูกค้าอย่าเพิ่งเข้าไปลงทุน แต่ควรที่ติดตามสถานการณ์และภาวะตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด เมื่อเห็นทิศทางตลาดมีความชัดเจน หรือมีสัญญาณบวกจึงค่อยเข้าไปลงทุน
กิมเอ็ง/ASP ไม่มีฟอร์ซเซล
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทปล่อยมาร์จิ้น (สินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์) ให้กับนักลงทุน 1-2 พันล้านบาท ประมาณ 100 กว่าราย โดยมีมาร์จิ้นหุ้น PICNI 1-2 รายเท่านั้น ประมาณ 10 ล้านบาทเศษ ในอัตราส่วน 70:30 หรือใช้เงินกู้ 30%
ส่วนหุ้น EWC และ APURE งดมาร์จิ้นให้ใช้เงินสดอย่างเดียว อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทยังไม่ถูกบังคับขายหุ้นแต่อย่างใด เนื่องจากลูกค้าสามารถวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มได้ (คอลล์ มาร์จิ้น)
นายประทีป ยงวณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยว่า บริษัทมิได้อนุญาตให้ซื้อหลักทรัพย์บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ในบัญชีเงินกู้ยืม (Credit Balance ) มาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 47 และไม่มียอดหุ้นที่เกิดจากการซื้อคงค้างอยู่ในบัญชีของลูกค้าแต่อย่างใด และปัจจุบันมีหุ้นบริษัทปิคนิคในบัญชี Credit Balance ของลูกค้าเพียง 1 ราย ซึ่งเกิดจากการที่ลูกค้านำ มาวางเป็นหลักประกันเพิ่มเติม เพียง 250,000 หุ้นตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.47
ตลท.ชี้เลือกหุ้นพื้นฐานดี
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะหุ้นในขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่แน่นอน แต่ก็ไม่สามารถบอกสรุปได้ว่าเกิดจากปัจจัยการบังคับขายหุ้นในบางตัว ปัญหาการบังคับขายนั้นจะมีผลกระทบต่อหุ้นเก็งกำไรอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่นักลงทุนจะนำหุ้นเก็งกำไร 2-3 บริษัทเพื่อมาประกอบการตัดสินใจการลงทุน ปัจจุบันนี้ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ดีๆ และจดทะเบียนมาเป็นเวลานานอยู่เป็นจำนวนมากใน ตลท. ซึ่งกรณีของหุ้นปิคนิคนั้นก็อาจจะมีผลกระทบต่อการลงทุนบ้าง ซึ่งก็ถูกกล่าวโทษต่ออดีตผู้บริหารบริษัทปิคนิคไปแล้ว
ต้องการให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ ตลท. เพราะที่ผ่านมาก็ได้มีการดูแลเป็นอย่างดี การที่จะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ทุกฝ่ายก็จะต้องร่วมมือกัน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินก็จะต้องคัดเลือกบริษัทที่ดีเข้ามาจดทะเบียนและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจะต้องมีจริยธรรมในการบริหาร และคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
ในช่วงที่ผ่านมาตลท.มีการส่งสัญญาณเตือนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็จะเจาะจงมากก็ไม่ได้ ต้องการให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็อยากให้นักลงทุนมีความตระหนักในหุ้นเก็งกำไรเท่านั้น และไม่ต้องการให้ไปกระทบต่อหุ้นดีๆ ที่มีจำนวน 300-400 บริษัท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|