|
เมื่อสุนัขป่า “ฟ็อกซ์” ออกล่าเหยื่อ
นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2538)
กลับสู่หน้าหลัก
เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาบรรดาบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ ต่างหัวร่อจนงอหายเมื่อรูเพิร์ต เมอร์ดอค เจ้าของนิวส์คอร์ป ราชาสื่อแห่งออสเตรเลียประกาศว่า จะสร้างเครือข่ายโทรทัศน์ระดับชาติขึ้นมาโดยการรวบรวมสถานีโทรทัศน์เล็ก ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งบริษัทที่เย้ยหยันเมอร์ดอคในตอนนั้นในตอนนี้ต่างก็หัวเราะกันไม่ออกไปตาม ๆ กัน
เนื่องจากตอนนี้ เครือข่ายของเมอร์ดอคประสบผลสำเร็จอย่างท่วมท้นในกิจการด้านโทรทัศน์ อย่างฟ็อกซ์บรอดคาสติ้งในเครือนิวส์คอร์ป ที่ประสบความสำเร็จในการประมูลสิทธิ์ในการถ่ายทอดรายการการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลอันลือลั่นมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าซีบีเอส ที่ผูกขาดการถ่ายทอดมานาน
นอกจากนี้ ฟ็อกซ์ยังไปเกลี้ยกล่อมบริษัทผลิตรายการเล็ก ๆ อีก 16 แห่งที่เคยร่วมมือกับ ซีบีเอส เอ็นบีซีและเอบีซีมาเข้าพวก ทั้งนี้จากการเปิดเผยของเชส แครี่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของฟ็อกซ์เทเลวิชั่น
“ในธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวกันตลอดเวลา เราต้องพร้อมเสมอที่จะต้องเสี่ยง” แครี่กล่าว
แม้ว่าฟ็อกซ์อาจจะยังไม่ได้กำไรจากการดำเนินงานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการถ่ายทอดรายการฟุตบอลเป็นเวลา 4 ปีในครั้งนี้ แต่สิ่งที่ฟ็อกซ์ ทำเป็นการลงทุนแบบระยะยาวเพื่อปูทางต่อการประมูลครั้งต่อไปในอนาคต อันเป็นการลงทุนที่น้อยครั้งที่บริษัทอย่างฟ็อกซ์จะกล้าตัดสินใจทำ
และแม้ว่าตอนนี้ฟ็อกซ์ซึ่งเน้นทำรายการเอาใจผู้ชมวัยรุ่นจะยังไม่จัดรายการ
ถ่ายทอดฟุตบอลเอ็นเอฟแอลเข้าไปในช่วงเวลาที่เรียกว่า “ไพรม์ไทม์” อันเป็นช่วงที่มีผู้ชมรายการมากที่สุด แต่ตอนนี้ฟ็อกซ์ก็ได้รับความเลื่อมใสอย่างมากจากคู่แข่งอย่างเอ็นบีซี ซึ่งเคยยื่นเรื่องฟ้องต่อคณะกรรมาธิการคมนาคมกลางสหรัฐ ฯ ว่า สถานีถ่ายทอดรายการของฟ็อกซ์ได้รับใบอนุญาตมาอย่างผิดกฎหมายซึ่งงานนี้เมอร์ดอคก็ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|