เป้าหมาย “สยามวิชั่น” จากดร. เสรีต่อไปคือ “เฉลียว อยู่วิทยา”


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

ดร. เสรี วงษ์มณฑา ในวันนี้ได้กลายเป็นอดีตคนฟาร์อีสต์ แอดเวอร์ไทซิ่ง บริษัทในเครือสหพัฒนฯ ที่ตนเองเคยฝังรากสร้างฐานให้กับที่นี่มานมนาน ดร. เสรี ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารคนหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ของสหพัฒนฯ ให้ความสำคัญและเคารพในความคิดริเริ่มพร้อมทั้งให้การสนับสนุนในความคิดต่าง ๆ ที่ดร. เสรีเห็นว่าดี และควรจะทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความเจริญก้าวหน้าขององค์กรแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแยกการตั้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ในบริษัทโฆษณาซึ่งดร. เสรี เห็นว่าบริษัทโฆษณาจำเป็นต้องมีแผนกนี้เพื่อสนับสนุนงานโฆษณาของลูกค้าหรือ ล่าสุดการแยกฝ่ายประชาสัมพันธ์ออกจากบริษัทโฆษณา เพื่อเน้นให้เห็นความสำคัญของการทำประชาสัมพันธ์ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบบทหนึ่งในบริษัทโฆษณา

ความสำคัญของงานประชาสัมพันธ์หรือหน้าที่หรือบทบาทของการทำประชาสัมพันธ์นั้น ดร. เสรีบอกว่า ถือเสมือนหนึ่งเป็นฉากหน้าขององค์กรนั้น ๆ เลยทีเดียว คนทำประชาสัมพันธ์เป็นผู้สร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร

นั่นหมายความว่าบุคลิกหรือภาพลักษณ์ของดร. เสรีซึ่งเป็นผู้ทำประชาสัมพันธ์ให้กับฟาร์อีสต์ แอดเวอร์ไทซิ่งเป็นอย่างไรนั้น คือภาพลักษณ์หรือบุคลิกของฟาร์อีสต์ฯ ที่ปรากฎต่อสาธารณชน

อย่างไรก็ตามฝันของดร. เสรี ก็ได้สัมฤทธิ์ผล ต่อกรณีการยกแผนกชูป้ายขึ้นเป็นองค์กรหนึ่งได้เมื่อปลายปี 2537 ที่ผ่านมานี่เองภายใต้ชื่อ “บริษัท อินทิเกรทเต็ด คอมมิวนิเคชั่น” หรือที่พนักงานในองค์กรนี้ชอบเรียกชื่อย่อว่า “อินคอม” องค์กรใหม่นี้มีตนเองเป็นหัวหอกใหญ่ในฐานะ ผู้ถือหุ้นมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่ลูกจ้างเหมือนที่ผ่านมา

อินคอมทำหน้าที่เป็นบริษัทการตลาดที่รับทำประชาสัมพันธ์ทั่วราชอาณาจักร ไม่จำกัดในวงแคบเพียงแค่กทม. รวมทั้งรับทำประชาสัมพันธ์ทั่วไปไม่จำกัด การสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร หรือประชาสัมพันธ์นี้ จึงดูกว้างขวางเหมือนผู้นำเช่น ดร. เสรี ซึ่งเป็นคนกว้างขวางมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนในประเทศไทย ด้วยความเป็นนักพูดฝีปากกล้าซึ่งเป็นบุคลิกของนักประชาสัมพันธ์นั่นเอง

เมื่อดร. เสรี เปิดบริษัทเองรายชื่อลูกค้าก็เดินเรียงหน้าเข้ามาว่าจ้างให้ทำประชาสัมพันธ์เป็นไปอย่างไม่ขาดสาย ไม่เฉพาะบริษัทในเครือสหพัฒนฯ เท่านั้นเป็นเรื่องที่น่าปลื้ม !!!

“ผมมานั่งที่สยามวิชั่น เมื่อต้นปีใหม่อย่างเต็มตัว” ดร. เสรี วงษ์มณฑาประกาศให้ใครต่อใครรับรู้อย่างเปิดเผย

คำถามจึงมีอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นส่วนคนสำคัญของอินคอม?

“ก็ไม่มีอะไรมาก แต่เป็นเพราะว่าอยู่ในงานประชาสัมพันธ์มานาน ไม่ว่าจะอยู่ตรงส่วนใดหน้าที่หรืองานของตนเองจะไม่พ้นงานประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างชื่อ มองดูแล้วมันแคบอยากทำอะไรที่มันกว้าง ๆ บ้าง”

ดร. เสรีบอกว่าในอินคอมตนเองก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 30% เช่นเดิมยังคงให้ความเป็นห่วงเป็นใยเพราะเป็นผู้สร้างมากับมือ แต่งานที่สยามวิชั่นในตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทสยามวิชั่น ซึ่งเข้ามาสวมบทเป็นผู้บริหารบริษัทนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทประชาสัมพันธ์เท่านั้น ยังมีอะไรทำอีกมากมายและมีเป้าหมายมากมายเช่นกัน

จะว่าไปแล้วสยามวิชั่น เป็นบริษัทในเครือสหศินีมาซึ่งเป็นปีกข้างหนึ่งของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในส่วนของการสร้างรายได้เพิ่มนั้น ส่วนใหญ่ในวงการจะรู้จักกันดีว่าเกิดขึ้นจากการแยกส่วนออกจากสหศินีมาเพื่อทำหน้าที่ทางการตลาด เช่นประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

ที่น่าสนใจก็คือ มีกระแสข่าวว่า สยามวิชั่นกำลังได้เปิดบริษัทโฆษณาขึ้นอีก โดยมีเป้าหมายเข้าเทคโอเวอร์บริษัทโฆษณาเล็ก ๆ คือ เซ็นจูรี่

แต่ลูกค้าของเซ็นจูรี่กลับไม่ใช่ลูกค้าเล็ก ๆ เลย เพราะลูกค้ารายหนึ่งโดดเด่นคือ “กระทิงแดง” ของเฉลียว อยู่วิทยาและมีบิลลิ่งต่อปี สูงถึง 300 ล้านบาท!

ว่ากันว่าแรงผลักดันให้เกิดการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังกลับไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของเซ็นจูรี่ แต่กลับเป็นลูกค้ารายใหญ่คือเฉลียว อยู่วิทยาเอง

นัยว่าเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกล้ำเป็นอย่างมากระหว่างผู้ใหญ่ ทั้งฝ่ายสหศินีมากับกระทิงแดง !

ผลที่ได้ก็คือสยามวิชั่น ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ต่อกรณีการตั้งบริษัทโฆษณา ไม่ต้องกว้านซื้อคนมาเริ่มต้น ไม่ต้องซื้อโนว์ฮาว แถมได้ลูกค้าติดมือเมื่อเริ่มต้นอีกด้วย แม้จะเป็นสินค้าในค่ายกระทิงแดง อาทิ กระทิงแดง โคล่าเป็นต้น แต่บิลลิ่งต่อปีที่เฉลียวยอมทิ้งให้ก็ก้อนโตพอสมควรที่จะเป็นทุนขยับขยายพร้อมทั้งสามารถใช้เป็นส่วนสร้างชื่อให้กับสยามวิชั่นได้ ด้วยเชื่อมั่นต่อความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นโดยดร. เสรี เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นได้

นั่นคือสิ่งที่ดร. เสรีบอกว่า เมื่อเขามาอยู่ที่นี่จึงมีอะไรที่ต้องทำมากไปกว่าการทำประชาสัมพันธ์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ดร. เสรีไม่ได้สวมหมวกเพียงใบเดียวในสยามวิชั่น ทว่าเขายังสวมหมวกเป็นกรรมการผู้จัดการสหศินีมา เป็นประธานกรรมการกลุ่มบริษัทสยามวิชั่น ซึ่งมีบริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์ปีกหนึ่งและสยามทีวีอีกบริษัทหนึ่งในเครือ ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการเข้าไปมีบทบาทในสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี เคเบิ้ล วีแซท วิทยุ สิ่งพิมพ์ ฯลฯ แต่ทั้งหมดของภาระที่นี่ยังคงเป็นเพียงแค่แผนที่ยังไม่อาจเป็นจริง ซึ่งจะว่ากันตามจริงแล้ว บริษัทสยามทีวีต่างหากที่ดร. เสรี คาดหวังจะเข้ามานั่งเป็นประธานบริษัทบริหารที่นี่ ตามความใฝ่ฝันและประสบการณ์ที่ได้ร่ำเรียนมาแทนที่จะเป็นฉัตรชัย บุนนาค

ณ วันนี้ ดร. เสรีได้สร้างฝันและสานฝันของตนเองจนจบไปเปราะหนึ่งแล้ว ในกรณีของ อินคอม แต่ตนเองก็ได้หันข้างให้ซีกหนึ่งทิ้งภาระไว้ให้คนข้างหลังได้สร้างชื่อต่อไป ในขณะที่บทบาทใหม่ที่สยามวิชั่นที่คนในวงการกล่าวกันว่าชื่อมันตายไปแล้วนั้น ดร. เสรีจะใช้กำลังภายในของตนเองสายฝัน ให้เป็นจริงดังคาดหรือไม่จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.