|
ชีวาศรม ที่พักพิงแห่งชีวิตเศรษฐีที่ต้องการหยุดยั้งสุขภาพและวัยให้คงทน
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
กว่า 1 ปีเศษที่ชีวาศรมเปิดให้บริการในฐานะรีสอร์ตสุขภาพแห่งเดียวในเมืองไทย ภายใต้ปรัชญาที่ต้องการสร้างสรรค์ปรากฎการณ์ใหม่ในการบำบัดร่างกายด้วยการหลอมรวมจิตใจและร่างกายให้เป็นหนึ่ง โดยมีจุดมุ่งหมาย 3 ประการคือ ได้ผลที่ชัดเจนและเรียนรู้วิธีที่จะผสมผสานสิ่งดีๆที่ได้รับจากการบำบัดในชีวาศรมไปใช้ให้เข้ากับแนวทางการดำรงชีวิตเพื่อผลด้านการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมากกว่าการมุ่งรักษา
สองเน้นการสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่มากกว่าการปฏิบัติในรูปแบบเดิมๆที่เคยกระทำมา และสามเน้นใช้วิธีชะลอความชราแทนการยอมรับโดยดุษฎี
“ช่วงที่เราเปิดตัวก็มีอีกหลายแห่งที่ออกมาประกาศว่าจะทำรีสอร์ตสุขภาพ แต่เวลาที่ผ่านมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ชีวาศรมทำจริงและก็เป็นแห่งเดียวในประเทศไทยขณะนี้และก็ถือว่าประสบความสำเร็จในบางส่วนมีคนรู้จักชีวาศรมมากขึ้นจากหลายๆทางโดยมากเป็นปากต่อปาก แต่ที่เราจะต้องทำให้คนรู้จักมากขึ้นคือ ให้รู้ว่าชีวาศรมทำอะไรบ้าง เราไม่ใช่แค่รีสอร์ตพักผ่อนธรรมดา” นภาลัย อารีสรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ทจำกัดกล่าว
จึงไม่น่าแปลกใจหากจะได้ยินใครพูดว่า “ชีวาศรมเหรอรู้จัก แต่เขาทำอะไรกันบ้าง?” เพราะราคาค่าที่พักต่อคืนของชีวาศรมคิดแล้วตก 1 หมื่นเศษต่อ 1 คนซึ่งถ้านำไปเทียบกับราคาโรงแรมรีสอร์ตในย่านชายหาดหัวหินถึงเขาตะเกียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งในละแวกเดียวกับชีวาศรมราคาจะตกคืนละ 1,000-2,000 กว่าบาทต่อคืนต่อห้องก็คงจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าที่นี่มีไว้ทำอะไร
โดยหลักๆชีวาศรมจะให้บริการด้านการบำบัดเพื่อเสริมสร้างสุขภาพและให้บริการทางด้านการฝึกสอนการออกกำลังกายและกิจกรรมต่างๆรวมทั้งมีโปรแกรมเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาในหลายๆด้านเช่นการโภชนาการ การลดน้ำหนัก การบริหารความเครียดและสันทนาการ โดยผสมผสานเทคโนโลยีอันทันสมัย และความชำนาญระดับโลกเข้ากับปรัชญาในการแสวงหาสุขภาพอันสมบูรณ์และความเป็นอยู่ที่ดีมุ่งสร้างสรรค์ดุลยภาพระหว่างร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณของผู้เข้ารับการบำบัด
“ก่อนเราจะรับแขกเข้าพักจะต้องให้แขกกรอกแบบฟอร์มสำรวจสุขภาพเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบประวัติของแขกว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ มีข้อห้ามอะไรสำหรับแขกคนไหนและถ้าจะเข้าโปรแกรมบำบัดต่างๆเช่น ลดน้ำหนักหรือชะลอความชรา ซึ่งเป็นโปรแกรมล่าสุดที่ชีวาศรมนำเข้ามาก็จะต้องผ่านการตรวจเช็กสุขภาพจากศูนย์สุขภาพ วัดความดัน ตรวจเลือด เพื่อจะเตรียมโปรแกรมบำบัดได้อย่างเหมาะสม” กรรมการผู้จัดการสรุปย่อๆเกี่ยวกับความแตกต่างสำหรับแขกที่เช็กอินเข้ามาในชีวาศรม
ทั้งนี้สำหรับแขกคนไทยชีวาศรมจะรับเฉพาะสมาชิกเท่านั้น ซึ่งมีแบบรายปีและตลอดชีพให้เลือกในราคา 400,000 บาทแต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ซื้อสมาชิกจะสามารถใช้บริการทุกอย่างในชีวาศรมได้ทั้งหมดโดยจะได้เพียงส่วนลด 40% เมื่อมาใช้บริการ แต่ถ้าเป็นลูกค้าต่างประเทศสามารถเช็กอินเข้าใช้บริการได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกแต่อย่างใด
จากราคาที่เห็นจึงไม่น่าจะแปลกใจว่าสมาชิกที่มีอยู่ 400 รายจะเป็นสมาชิกตลอดชีพกว่าครึ่งและแขกส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างประเทศถึง 70-80% จากจำนวนแขกเข้าพักต่อเดือน 60-70% จากจำนวนห้องพักของชีวาศรมที่อยู่ทั้งหมด 57 ห้อง
อัตราค่าที่พักรวมกิจกรรมแบบ 3 คืน 7 คืน 10 คืนและ 14 คืน ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่สมบูรณ์ที่สุดในการเข้ารับโปรแกรมบำบัด ส่วนราคาค่าที่พักเฉลี่ยต่อแขก 1 คนก็ตกแพ็กเกจละ 0.5 แสนบาท 1.0 แสนบาท 1.5 แสนบาท และ 2 แสนบาทตามลำดับ
ราคานี้นอกจากรวมกิจกรรมรายวันที่ทางชีวาศรมมีให้คือ การฝึกกายบริหาร ท่ามวยจีนพื้นฐานการฝึกวิธียืดหยุ่นกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างระบบกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายในน้ำ การฝึกเพื่อสมรรถภาพทางกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน การเต้นแอโรบิก การเต้นออกกำลังกายกับแท่นสเต็ปแอโรบิก การฝึกวิธีการเดินเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและทัวร์จักรยานภูเขาตามตารางที่ชีวาศรมกำหนดไว้ทุกวันแล้ว
ยังรวมโปรแกรมบำบัดที่แถมให้ในแต่ละแพ็กเกจในส่วนของสปาและการนวดเพื่อการบำบัดต่างๆที่ลูกค้าต้องเลือกสำหรับที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายเสริมสำหรับโปรแกรมทางเวชกรรมต่างๆการบำบัดรักษาและการเสริมความงาม
“เรามีวิธีนวดทั้งหมด 7แบบให้ลูกค้าเลือกใช้บริการซึ่งก่อนลูกค้าจะใช้บริการจะต้องรับการเช็กร่างกายก่อนว่าเหมาะที่จะใช้ได้หรือไม่ อย่างผู้ป่วยโรคหัวใจและเบาหวานจะไม่สามารถเข้าโปรแกรมนวดเท้าเน้นเส้นประสานแบบรีเฟล็กซ์โซโลยีได้ เพราะจะมีการกระตุ้นและอาจส่งผลต่อหัวใจและความดันการบำบัดร่างกายและไฮโดรเธอราบี้ การบำรุงหน้าและเสริมความงามการบำรุงผม มือและเท้ารวมทั้งการเสริมสุขภาพและผ่อนคลาย” พยาบาลประจำศูนย์สุขภาพชีวาศรมบรรยายสรรพคุณของศูนย์
สำหรับโปรแกรมทางเวชกรรมที่ลูกค้าจะเลือกเข้ารับบริการได้ มีตั้งแต่การตรวจร่างกาย การวิเคราะห์โภชนาการสำหรับผู้ต้องการเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารและลดความอ้วน การตรวจเลือด การจัดอาหารเพื่อล้างพิษ ออกซิเจนบำบัดเพื่อปรับปรุงเสริมสร้างพลังงาน การล้างเลือดด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลต การกระตุ้นพลังงานสมองและการเสริมวิตามินซีและแคลเซียม
ส่วนโปรแกรมชะลอความชราที่ชีวาศรมจัดทำเป็นโปรแกรมล่าสุด เกิดจากการจับมือระหว่างชีวาศรมกับดร.เคล้าส์ ดี มาร์ตินผู้ก่อตั้งและแพทย์ผู้อำนวยการ ของเดอะโฟรซีชั่น ศูนย์การแพทย์ด้านการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพตามหลักชีวภาพจากเยอรมนีโดยจัดรวม 3 โปรแกรมหลักเข้าด้วยกันได้แก่โปรแกรมลดน้ำหนัก โปรแกรมออกซิเจนบำบัดและโปรแกรมบำบัดเลือดด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลต
โปรแกรมแรกเป็นการสร้างน้ำหนักร่างกายให้สมดุลเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงและป้องกันโรคแทรกซ้อนจากโรคอ้วนและความเครียด โดยมีหลักง่ายๆด้วยการคุมอาหารให้เหลือ 500 แคลอรีต่อวันเพื่อกำจัดคาร์โบไฮเดรตและไขมันส่วนเกินในส่วนต่างๆของร่างกาย โดยต้องใช้เวลาบำบัด 4-6 สัปดาห์จึงจะเห็นผลชัดเจน
จากนั้นเข้าสู่โปรแกรมออกซิเจนบำบัดที่เน้นการฟื้นฟูสมรรถนะของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันป้องกันและบำบัดอาการปวดศรีษะ เหนื่อยล้าลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆและย่นระยะเวลาการสมานแผลพร้อมด้วยการเสริมวิตามินและเกลือแร่ที่จะทำให้ร่างกายนำออกซิเจนไปใช้ได้มากขึ้น ร่างกายจะใช้พลังงานได้มากในเวลาที่สั้นลงระยะเวลาบำบัด 1-3 สัปดาห์
ส่วนโปรแกรมบำบัดเลือดด้วยแสงอุลตร้าไวโอเล็ต ช่วยให้การดูดซึมแลกเปลี่ยนและเผาผลาญออกซิเจนในเซลล์และในอวัยวะต่างๆมีประสิทธิภาพมากขึ้น กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำบัดโรคเบาหวาน โรคเกาต์ โรคตับและโรคที่เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนโลหิตผิดปกติเช่น ปวดหัวไมเกรน เศร้าซึมขาดสมาธิ โดยใช้กรรมวิธีดูดเลือดออกจากร่างกาย 50 ซีซี นำมาผ่านเครื่องกำเนิดแสงอุลตร้าไวโอเล็ต แล้วฉีดกลับเข้าสู่ร่างกายทางแขนอีกครั้ง ในช่วง 1-3 สัปดาห์แรกควรรับการบำบัดสัปดาห์ละ 2 ครั้งและลดลงเหลือ 1 ครั้งในสัปดาห์ต่อๆไป
ทุกโปรแกรมเหล่านี้ได้รับการควบคุมโดยแพทย์และผ่านการรับรองมาแล้วจากการใช้งานในยุโรปซึ่งนิยมการฟื้นฟูและบำบัดสุขภาพกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโปรแกรมการบำบัดเลือดด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลตซึ่งขาดแคลนในเมืองหนาวและออกซิเจนบำบัดที่หาได้น้อยลงในเมืองใหญ่ทั่วโลกรวมทั้งกรุงเทพฯที่มีแต่ฝุ่นควันพิษเข้ามาแทนที่
โปรแกรมเหล่านี้คุณอาจจะยังไม่จำเป็นต้องใช้ ถ้าคุณยังไม่รู้สึกเครียดหรือแก่เร็วกว่าอายุ แต่หากสนใจลองดูตัวอย่างได้จากบุญชู โรจนเสถียรที่คุ้นเคยกับการบำบัดและชะลอความชรามาแล้วกว่า 20 ปีก่อนจะตัดสินใจเอาที่ดิน 17 ไร่ที่หาดหัวหินมาทำรีสอร์ตสุขภาพเป็นของตัวเองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ว่ายังมีสุขภาพแข็งแรงเพียงไรสำหรับคนวัยใกล้ 80 ปีบวกกับภาษิตที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้คงจะแน่กว่าปล่อยให้แย่เสียก่อน” คงทำให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นว่าจะทำอย่างไรกับร่างกายของตัวเองดี
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|