|
ตู้เกมแดนจิงโจ้หวังผงาดนอกบ้าน
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
แม้จะมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการบริษัทผลิตตู้เกมรายใหญ่ที่สุดในแดนจิงโจ้ มาร์ก เอสเวิร์ธก็ไม่ยอมเสี่ยงเล่นการพนัน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ที่กาสิโน แต่ทว่าเมื่อเดือน ก.ค.เอนสเวิร์ธก็พาของตัวเองเข้าไปเสี่ยงครั้งใหญ่ที่สุด ด้วยการร่วมมือกับพี่ชายในการนำธุรกิจของครอบครัวคือบริษัทอะริสโตแครท เลเซอร์เข้าไปเสี่ยงดวงในตลาดหุ้น
ภายหลังจากเห็นว่ารายได้ของบริษัทไปได้สวย อะริสโตแครทจึงกระจายหุ้นมูลค่า 90 ล้านดอลลาร์ขายต่อสาธารณชนและผลปรากฎว่ามีผู้สั่งจองจนหมด โดยปิดตลาดราคาหุ้นเขยิบขึ้นมายืนอยู่ที่ 3.30 ดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วงวันแรกของการค้า เพิ่มจากราคาที่ออกแต่แรกคือ 2.980 ดอลลาร์ “ผู้คนพากันมาซื้อหุ้นของอะริสโตแครทเพราะเห็นว่ามีศักยภาพเติบโตในระยะยาว” ลิลี่กวง นักวิเคราะห์จากออร์ด มินเน็ต ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
เรียกได้ว่าอุตสาหกรรมการพนันของออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงฮ็อตเต็มที่และความสำเร็จในการขายหุ้นของอะริสโตแครทยิ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจในภาวะการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ยิ่งขึ้นโดยตอนนี้แดนจิงโจ้มีบ่อนกาสิโนอยู่ 14 แห่งจาก 20 ปีที่แล้วที่มีอยู่เพียงแห่งเดียว การใช้จ่ายในการเล่นพนันต่อปีของประเทศนี้โตขึ้นราว 16% นับตั้งแต่ปี 1973 เป็น 6,600 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปี 1995
รายงานของแมกไควร์อิควิตี้ส์แจ้งว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนออสซี่ใช้เงิน 400 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปีในการเล่นพนัน คนอเมริกันใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 170 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่คนฮ่องกง 370 ดอลลาร์ออสเตรเลียนักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราส่วนดังกล่าวมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆเท่านั้น เนื่องจากรัฐหลายแห่งที่นี่กำหนดให้ตู้เกมเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ขณะที่การไหลทะลักเข้ามาของบรรดานักเสี่ยงโชคที่หิวกระหายจากทั่วเอเชียก็จะนำไปสู่การขยายตัวของอุตสาหกรรมการพนันทั่วประเทศ
เรื่องทั้งหลายทั้งปวงข้างต้นล้วนแต่เป็นข่าวดีสำหรับอะริสโตแครท ซึ่งเป็นผู้ป้อนตู้เกมแบบหยอดเหรียญให้กับบ่อนกาสิโนทั่วไป โดยตู้เกมที่ขายนั้นจะมีหลากหลายประเภทไล่ตั้งแต่ตู้เกมแบบที่เล่นง่ายๆไม่มีความสลับซับซ้อนตู้เกมที่ใช้กำลังมอเตอร์ ไล่ไปจนถึงตู้เกมที่มีความสลับซับซ้อนที่ใช้คอมพิวเตอร์และตู้เกมที่มีภาพกราฟิกความคมชัดสูงและใส่เสียงระบบดิจิตอลเข้าไปในตัวเครื่องด้วย
อะริสโตแครทมีส่วนแบ่งในตลาดตู้เกมในประเทศอยู่ 52% และตอนนี้ก็ตั้งเป้าที่จะขยายอิทธิพลไปนอกบ้าน แกรี่การ์ตันกรรมการผู้จัดการของบริษัทกล่าวว่ากำลังเล็งไปที่ตลาดที่มีการเติบโตสูงอย่างเช่นในสหรัฐฯและเอเชีย ปัจจุบันอะริสโตแครทขายและถือใบอนุญาตขายตู้เกมใน 16 รัฐของอเมริกา มาเลเซีย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ การ์ตันยังเมียงมองมาที่ตลาดเวียดนามและกัมพูชา สองประเทศที่รัฐบาลกำลังคิดสร้างศูนย์กลางการพนันขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามตอนนี้รายได้ของอะริสโตแครทที่มาจากต่างชาติมีสัดส่วนเพียง 15% เท่านั้น โดยรายได้ในสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดพนันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมีเพียงน้อยนิดอย่างไรก็ตาม เอนสเวิร์ธหวังว่าสัดส่วนในสหรัฐฯต้องเพิ่มขึ้นแน่ โดยฝันจะกุมตลาดให้ได้ 10-20% ในอนาคตแต่หากหวังจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทจำเป็นต้องออกเกมใหม่ๆที่นำสมัยและเพิ่มการผลิต
ปัจจุบันโรงงานผลิตบนเนื้อที่ 28,000 ตารางเมตรซึ่งตั้งอยู่ที่โรสเบอรี่ใกล้กับเมืองซิดนีย์ สามารถผลิตตู้เกมได้วันละ 120 เครื่องแต่หากต้องการเจาะตลาดใหม่ๆอะริสโตแครทก็จำเป็นต้องเพิ่มศูนย์การผลิต
เอนสเวิร์ธกล่าวว่า การนำอะริสโตแครทไปจดทะเบียนในตลาดถือเป็นการตัดสินใจของครอบครัวเพื่อเพิ่มรายได้พิเศษซึ่งจะนำมาใช้หนุนการเติบโตของบริษัท โดยเงินสดที่ระดมได้จากการขายหุ้นบางส่วนจะนำไปใช้ปลดหนี้และส่วนที่เหลือก็จะนำไปใช้เพื่อซื้ออุปกรณ์การผลิตใหม่ๆทั้งในและต่างประเทศ
บริษัทคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 30% และ 24%ในปี 1996 และ 1997 ส่วนผลกำไรคาดว่าจะกระโดดขึ้น 41% และ 33% ตามลำดับ ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะเหมือนกับการเสี่ยงดวงในเกมการพนัน แต่นั่นก็สมกับที่เป็นชื่อเกมของอะริสโตแครทมิใช่หรือ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|